21 ต.ค. 2019 เวลา 09:31 • ความคิดเห็น
ข้อเสียที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของชุดนักเรียน
*โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน*
แน่ใจว่าปลอดภัย?
ก่อนที่ผมจะพูดทัศนคติของผมที่มีต่อชุดนักเรียน
ผมจะให้ความเป็นธรรมในด้านดีของมันก่อน
ด้านดีของชุดนักเรียนมีดังนี้
ชุดนักเรียนนั้นถือเป็นสิ่งที่ผู้ใหญ่ทั้งหลายวัดว่า
เด็กคนนั้นแต่งตัวมีระเบียบหรือไม่
จำแนกว่าเด็กคนนั้นอยู่โรงเรียนไหน บ่งบอกสถาบัน
บ่งบอกว่าเด็กคนนั้นเรียนระดับชั้นไหน เช่น
ม.ต้น เด็กนักเรียนหญิงใส่คอซอง
ชุดนักเรียนทำให้ดูมีระเบียบ
พอมีคนทำอะไรเหมือนๆกันมันจะดูสวยงาม
ถ่ายรูปกิจกรรมที่นักเรียนดูเยอะๆก็จะออกมาสวยงาม
แต่งตัวตามระเบียบก็ทำให้บุคลิกดีขึ้น
ดูเป็นเด็กดี เด็กเรียน
เด็กที่ทำตามระเบียบ ว่านอนสอนง่าย
ชุดนักเรียนทำให้เด็กไม่แต่งตัว ดูล่อแหลม
ไม่แต่งตัวจัดจ้าน หรือ โป๊
เพราะชุดนักเรียนได้จัดระเบียบให้
ใส่กางเกง กระโปงยาวๆ คลุมเข่า
เสื้อก็ไม่เปิดสะดือ โชว์เรือนร่าง
ชุดนักเรียนทำให้ตัดปัญหา ความอิจฉา
มีความเท่าเทียมแบบที่ทุกคนทำตาม
แบบแผนที่เหมือนๆกัน ตัดปัญหาที่ว่า
"คนนี้แต่งตัวดูเท่ห์ ดูสวย ดูรวย
ฉันก็อยากเป็น อยากมีเหมือนเขา"
ชุดนักเรียน นั้นคนจนสามารถเข้าถึงได้
ซื้อแบบ เผื่อโต ก็จะสามารถใส่ได้นานๆ
แต่ข้อเสียของชุดนักเรียนนั้นดำมืดมากๆ
มีทั้งข้อเสียทางภาพลักษณ์
และในด้านจิตใจ ความคิดอย่างมาก
ถ้าคุณพร้อมเรามาดูด้านมืดของ
"ชุดนักเรียน"
คุณคิดว่าถ้าไม่ เบลอ จะเป็นยังไง ภาพนี้จะปรากฎอะไร?
เรามาพูดถึงเรื่อง "รสนิยม" "รสนิยมทางเพศ" กันก่อน
หรือที่เรามักจะได้ยินในภาษาอังกฤษว่า "fetish"
ในไทยเรานั้นเราสามารถแค่เปิด google
แล้วเปิดหนังผู้ใหญ่ หรือ หนังโป๊ได้อย่างง่ายๆ
ซึ่งการเสพสิ่งลามกนั้นเป็นเรื่องปกติ
แต่การเสพสื่อลามกที่มี "เด็ก" อายุต่ำกว่า 18 ปี
หรือยังไม่บรรลุนิติภาวะ
อยู่ในคลิปวิดีโอ ในรูปต่างๆนั้น
ในต่างประเทศ
คุณถูกจับเข้าซังเตอย่างแน่นอน
ไม่เหมือนในไทยที่มีอยู่ให้เห็นอย่างง่ายมากๆ
ส่วนเรื่องที่มีการถกเถียงเกี่ยวกับว่า
ถ้าเป็นรูปวาดหล่ะ เรื่องนี้ก็มีคนบอกว่า
แบนเลย ถือว่าผิด เพราะมีความเป็นเด็กในรูป
บางคนก็บอกว่า ก็ไม่ใช่เด็กจริงๆ
เป็นเพียงแค่รูปวาด ไม่ผิด
แม้จะมีการ ปรับให้ เข้าถึงยากขึ้นในการค้นหา
แต่แค่เพียงเปลี่ยนคำในการค้นก็หาได้อย่างสบายๆ
เช่น เ-็ดเ-็กคาชุด เป็น เ-้ดเ-กคาชุด ( -๊ เป็น -้ )
แม้ในไทยจะมี กฎหมาย เกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้
แต่ก็ไม่ได้มีการบังคับใช้อย่างจริงจัง
เป็นเพียงแค่ กฎหมาย ไว้ให้ประเทศดูมีอารยะเพียงเท่านั้น
และแน่นอนว่า
รสนิยมชื่นชอบมีเพศสัมพันธ์ในชุดนักเรียนนั้น
มีให้เห็นทั่วไป แต่งคอสเพลย์ ต่างๆกันไป
ซึ่งถ้าผู้แต่งบรรลุนิติภาวะแล้ว ไม่มีปัญหาเลย
แต่ถ้าผู้แต่งเป็นนักเรียนอายุต่ำกว่า 18 มีปัญหาครับ
สิ่งนี้บ่งบอกได้ว่า "ชุดนักเรียน"
ไม่ได้ต่างไปจาก ชุดพยาบาล ชุดคนรับใช้
ที่สามารถปลุกอารมณ์ทางเพศได้ไม่ต่างจากชุดอื่นๆ
ความหื่น ความอยากของคนนั้น ชุดไหนมันก็
มีอารมณ์ได้หมด ขอเพียงแค่
นมหน้าอกโต นมหน้าอกเล็ก
เรียวขาเล็กๆสวยงาม เรียวขาแข็งแรงกำยำ
หน้าตาดีๆ หล่อ สวย น่ารัก คมๆ
และอื่นๆที่คนสามารถปลุกอารมณ์ได้ซึ่ง
มันสามารถเป็นอะไรก็ได้ครับ
คนเรามันเหนือจินตนาการอยู่แล้ว
"อะไรๆ ก็ 18+ ได้ ถ้าคิดลึกพอ"
costume ต่างๆ นั้นปลุกได้ทั้งสิ้น ถ้าคิดลึกมากพอ
อีกสิ่งนึงที่ผมให้ค่ามากๆ คือความเท่าเทียม
แต่ความเท่าเทียมของผมไม่ใช่การที่คนเรา
ทำทุกๆอย่างเหมือนกัน อย่างกับหุ่นยนต์
เราสามารถที่จะแต่งตัวยังไงก็ได้
อย่าไปจำกัดว่าทุกคนต้องแต่งตัวแบบไหน
ทุกคนมีอิสระภาพในการแสดงออก
เหตุผลที่เราไม่ควรจำกัดว่าคนต้องแต่งตัวอย่างไร เพราะ
การที่เราให้นักเรียน แต่งตัวใส่ชุดนักเรียนอย่างเดียว
มันเป็นการกักกันความเป็นตัวของตัวเอง
ทุกคนมีรสนิยมว่าจะแต่งตัวอย่างไร
ทุกคนมีแฟชั่นเป็นของตัวเองอยู่แล้ว
ขอบเขต ของการแต่งตัวควรมีแค่ อย่าโป๊ ไม่ล่อแหลมเกินไป
ส่วนที่เหลือ มันคือเรื่องของคุณจะแต่งอย่างไร
ทำผมยังไง ไว้เล็บยังไง มันก็เรื่องของคุณ สิทธิของคุณ
อีกอย่างคนเราไม่ได้อยากจะทำอะไรที่ดูขัดกับความปกติ
ก็คงแต่งชุดที่ตัวเองชอบที่สังคมรับได้ มีแค่ส่วนน้อย
ทีจะแต่งตัวจัดจริงๆ ซึ่งมันก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร
เพราะมันเป็นเรื่องของเขาที่จะแต่งเช่นนั้น ถ้ามันไม่ขัดกับ
ขอบเขตที่บอกไว้ข้างต้น
การที่ช่วงนี้มีการ รณรงค์ นัก รณรงค์ หนาว่า
"ให้หาตัวเองให้เจอ เป็นตัวของตัวเอง"
แต่โรงเรียนกลับทำตัวตรงกันข้าม
ให้เราใส่ชุดนักเรียน ตัดผม ตัดเล็บ
ถ้าไม่ทำตาม ก็โดนก้อนผมบ้าง
โดนตีบ้าง บางครั้งก็ถึงกับขั้นไล่ออก
แล้วอย่างนี้ยังจะให้เราหาตัวเองได้อย่างไร
แล้วอย่างนี้คุณกล้าดีอย่างไรมาให้เราหาตัวเอง
เพราะสิ่งที่คุณทำมันตรงกันข้ามทั้งสิ้น
ผมเข้าใจว่า ทุกที่นั้น มีกฎระเบียบของมัน
ร้านอาหารต้องแต่งตัวให้เหมือนกัน
เพื่อแสดงว่าฉันเป็นพนักงานร้านนี้
แต่ในโรงเรียนผมว่ามันไม่จำเป็นเลยที่จะ
ต้องมาแต่งตัวเหมือนกันแต่อย่างใด
เพราะ เรามาโรงเรียนเพื่อเรียนหนังสือ
เก็บความรู้ และ เตรียมตัวเขาสู่การงาน
ซึ่งเราก็ต้องหาความเป็นตัวเองด้วย
เพื่อความสุขในการทำงาน
เพราะถ้าหาตัวเองไม่เจอทำอะไรๆ
ก็ไม่ได้อยากจะทำมันจริงๆ
ไม่ได้มีความรู้สึกที่อยากทำ
งานที่ทำก็ไม่ถนัดเพราะไม่ได้สนใจ
จนเกิดความเครียดและนำไปสู่ทุกข์
"มาบอกเราให้หาตัวเองให้พบ
แต่ขนาดเสื้อเรายังเลือกไม่ได้เลย
แล้วยังมีหน้ามาบอกว่าให้หาตัวเอง"
ทุกคนมีเสรีภาพในการแสดงออก
ว่าตัวเองคิดอย่างไร ทำอย่างไร มีรสนิยมแบบไหน
ถ้าเราไม่มีอิสรภาพ เสรีภาพในการแสดงออก
"จะมีงานวิชาการไหนจะไปรอดถ้ามันขัดกับรัฐ"
"จะมีใครคนไหนรอดในเกาหลีเหนือถ้าเขา
แต่งตัวแบบตะวันตก"
"รสนิยมบางรสนิยมจะอยู่ไม่ได้เลย
เช่น รักร่วมเพศ ในบางประเทศก็ทุ่มหินเลย"
*ยกเว้นรสนิยมมีเพศสัมพันธ์กับผู้เยาว์*
*ยกเว้นรสนิยมที่ทำให้ถึงแก่ชีวิต*
แล้วมันก็จะมีคำถามมาว่า
( ข้อความด้านล่างขอให้ทุกท่าน
สมมุติว่าทุกท่านอยู่ในรัฐที่เป็นรัฐในอุดมคติ )
"แล้วถ้าคนเอาอิสระภาพมา เอาเปรียบคนอื่นหล่ะ?"
อย่างแรกเลย สังคม จะตัดสินคุณเองว่า
คุณทำถูก หรือ ผิด ในสายตาของคนในสังคมนั้นๆ
สังคมคือ ศาลเตี้ย ที่โหดร้าย คุณจะรับมันไหวไหม
กับ "กระแสสังคมที่รุนแรงและโหดร้าย"
ถ้าการกระทำที่
เป็นเรื่องส่วนตัวและไม่ส่งผลกระทบต่อผู้อื่น
นั้นรัฐไม่สามารถแทรกแซงได้
แต่ถ้าเป็นการกระทำที่ขัดผลประโยชน์ส่วนรวม
และเป็นการกระทำที่เบียบเบียนผู้อื่น
เราสามารถฟ้องร้องได้ และให้รัฐบาล
กระบวนการกฎหมายต่างๆจัดการ ตัดสินกันไป
ถ้าร้ายแรงถึงขั้นประเทศจะแตกสลาย
รัฐก็แทรกแซงได้เลย เช่น ก่อการร้าย สังหารหมู่
"ชุดนักเรียน" ไม่ใช่แค่เครื่องแต่งกาย
แต่มันบ่งบอก ว่าสังคมนั้นเป็นเช่นไร
-CourAge
ปล. ผมคิดว่าถ้าอ่านข้อความด้านล่าง
( กล่องข้อความด้านล่าง 4 กล่องสุดท้าย )
ด้วยการเอาตัวอย่างจาก
ประเทศเรามาประกอบในการคิด
ผมคิดว่ามันคงไม่เข้ากันสุดๆ 5555
โฆษณา