22 ต.ค. 2019 เวลา 03:35
เรื่อง "หลวงปู่มั่นต่อรองกับพญายมราช"
(ปกิณกธรรม หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต)
หลวงปู่มั่นออกจาริกไปกับพระป่าด้วยกันจำนวนหนึ่ง ออกเยี่ยมเยียนญาติโยม และลูกศิษย์ลูกหาในพื้นที่อีสานตอนเหนือ และได้เลือกที่พำนักอยู่ที่วัดป่าเก่าๆวัดหนึ่ง ซึ่งชาวบ้านนิมนต์ท่านให้พักอยู่บนกุฏิไม้ ส่วนพระลูกศิษย์ก็หาพื้นที่ปักกลดอยู่รอบๆ หลวงปู่ใช้กุฏิไม้หลังนั้นเป็นที่เจริญสติภาวนาหลายคืน
จนคืนหนึ่งจิตของหลวงปู่ได้สัมผัสถึงวิญญาณสัมภเวสีตนหนึ่ง จิตของสัมภเวสีตนนั้น ยังเป็นจิตที่เพิ่งตายใหม่ๆ ท่านเห็นว่ามาวนเวียนแถวๆนี้หลายคืนแล้ว จึงเรียกให้มาคุยด้วย วิญญาณปรากฏกายออกมา
หลวงปู่ถามว่า "มาจากไหน"
วิญญาณตนนั้นกราบท่าน มีหน้าตาเศร้าหมอง น้ำตาไหลอาบแก้ม บอกว่า "ตัวกระผมนี้รู้สึกเลื่อมใสและศรัทธาในตัวหลวงปู่มาก ตั้งปณิธานแน่วแน่ว่าจะมาขอฝากตัวเป็นศิษย์กับหลวงปู่ให้ได้ เที่ยวออกเสาะแสวงหาหลวงปู่มานานแสนนาน เมื่อทราบข่าวว่าหลวงปู่อยู่ที่นี่ จึงรีบเดินทางเพื่อจะมากราบท่าน แต่เหมือนมีกรรมยังไม่ได้ทำตามปณิธาน ระหว่างเดินทางก็ตายในป่าเสียก่อนด้วยไข้ป่า จึงต้องมาเป็นสัมภเวสีเช่นนี้"
เมื่อหลวงปู่มั่นได้ฟังก็สัมผัสได้ถึงความมุ่งมั่นและศรัทธาอันแรงกล้าของวิญญาณตนนั้น ท่านจึงถามไปว่า .."ตายมากี่วันแล้ว" ..!
"๓ วันครับ" วิญญาณตอบ
"งั้นโยมยังเหลือเวลาอีก ๗ วัน ก่อนที่เขาจะมารับตัวไป อาตมาจะสอนการภาวนาให้จงตั้งใจให้มากนะ เพราะเวลาของโยมเหลือน้อยเต็มทีแล้ว จงมาหาอาตมาในเวลานี้ของทุกวัน"
วิญญาณดีใจเป็นอย่างยิ่ง เขาเพียรมาหาหลวงปู่ทุกคืน ซึ่งหลวงปู่ก็สอนหลักธรรมและคำภาวนาให้แก่เขาทุกคืน จนเวลาล่วงเข้าคืนสุดท้าย หลวงปู่มั่นไม่เห็นเขามาหาท่านเหมือนเดิม จึงกำหนดจิตดู ก็เห็นว่าวิญญาณตนนั้นเพิ่งถูกยมทูตจับตัวไป นำตัวไปนรกเสียแล้ว อะไรกันหนอยังไม่ถึงเวลา ทำไมยมทูตขยันเสียจริง
หลวงปู่ท่านจึงบอกลูกศิษย์ว่า วันนี้ท่านจะไม่ออกมาข้างนอก ถ้าเห็นท่านนั่งสมาธิไม่หายใจ ไม่ต้องตกใจเดี๋ยวท่านก็กลับ หลวงปู่ท่านนั่งสมาธิถอดกายทิพย์ออกไปจากกุฏิไปจนถึงทางเข้ายมโลก ท่านเข้าไปลึกขึ้นๆ จึงได้สัมผัสได้ถึงความกลัวและเสียงร้องระงม มันเป็นความรู้สึกของความทุกข์เหลือแสนที่ไม่จบสิ้นเป็นเวลานานชั่วกัปชั่วกัลป์จากนรกขุมต่างๆ ที่คนในนั้นกำลังรับโทษอย่างหนัก
จิตของหลวงปู่ล่องลอยไปถึงทางเดินลึกลับแห่งหนึ่ง มันเป็นทางเดินอันยาวไกลสุดลูกหูลูกตา ก็พบกลุ่มยมทูตที่กำลังนำพาขบวนวิญญาณเดินไปเพื่อชำระความ วิญญาณทั้งหมดถูกล่ามด้วยโซ่ตรวนหน้าตาเศร้าหมอง
หลวงปู่เห็นชายคนนั้นอยู่ในกลุ่มนั้นด้วย เมื่อหลวงปู่เข้าไปใกล้ๆ พวกยมทูตก็ยกอาวุธ เข้ามากัน "หยุดก่อนสมณะท่านเข้ามาทำไมมีธุระอะไรเหรอครับ"
หลวงปู่ยกมือชี้ไปทางสัมภเวสีตนนั้น แล้วพูดว่า "อาตมามาที่นี่ก็เพื่อแจ้งเหตุให้ทราบว่า วิญญาณตนนี้ยังเหลือเวลาบนโลกอีก ๑ วัน ท่านอย่าเพิ่งเอาเขาไป ได้หรือไม่"
พวกยมทูตทำหน้าขึงขังจริงจังแล้วตะคอกออกมาว่า "ออกไป มาทางไหนกลับไปทางนั้นเดี๋ยวนี้"
หลวงปู่ตอบกลับไปว่า "อาตมาไม่ไป"
เหล่ายมทูตมีสีหน้าเหี้ยมดุดันมากขึ้น เอาอาวุธออกมาเดินเข้าหาหลวงปู่ ทำท่าจะฟันหลวงปู่
แล้วมีเสียงขึ้นว่า "หยุดก่อน"
ทันใดนั้นแผ่นดินในยมโลกก็สั่นไหวอย่างรุนแรง จนเสียงวิญญาณที่กรีดร้องดังระงมเงียบกริบ เกิดประกายลำแสงเหมือนฟ้าผ่าเป็นสิบๆ ครั้ง ปรากฏเป็นพญายมราช ตาดุดัน หน้ากลัว ภายในดวงตามีอำนาจ เขาเดินมาหาหลวงปู่มั่น พร้อมกราบที่เท้า แล้วถามว่า "มีเหตุอันใดถึงกับต้องมาถึงยมโลกครับ"
หลวงปู่มั่นตอบว่า
"อาตมาต้องการมาตามท่านผู้นี้ซึ่งเขายังตั้งจิตภาวนาอยู่ และยังเหลือเวลาอยู่บนโลกอีก ๑ วัน ท่านจับเขามาก่อน ให้เขาได้ภาวนาได้ครบกำหนดก่อนได้ไหมท่านพญายมราช
พญายมราช
"แค่..วันเดียวเองนะครับ”
หลวงปู่มั่น
"ก็วันเดียวนั่นแหละ จะแค่วันเดียว ปีเดียว หรืออึดใจเดียวก็ยังอยู่ในช่วงภาวนา ท่านคงลืมไปแล้วล่ะซิว่า เวลาแค่ ๑ วันในยมโลกก็แทบจะเป็นเวลานานชั่วกัปชั่วกัลล์ของโลกมนุษย์แล้ว ท่านรู้หรือไม่ว่าพระพุทธองค์ ท่านบำเพ็ญบารมีมาหลาย ๑๐ ปี แต่ในชั่วอึดใจเดียวเท่านั้นที่จิตของพระองค์วิ่งไปสู่การหลุดพ้นจากวัฏสงสารได้ ฉะนั้นแล้ว อย่าได้ดูถูกอำนาจของเวลาได้ จะให้เวลาเหลือน้อยแค่ไหนก็ตาม ถ้ายังมีเวลาอยู่ก็ควรจะให้เขาไม่ใช่หรือ ท่านเป็นผู้ใหญ่ในนี้มีจิตที่เป็นธรรม จงลองตรองดูนะ"
เมื่อท่านพญายมราชได้ฟังจึงยกมือไหว้หลวงปู่
ตอนเข้าไปถามความท่านพญายมราช ได้ใจความว่า "วิญญาณนี้ถูกจับมัดรวมมากับกลุ่มผีป่าเร่ร่อน บังเอิญว่าเป็นทางผ่านของป่าเขาพอดี จึงโดนจับมาด้วย"
หลวงปู่ท่านพิจารณาว่า "วิญญาณนี้มีกรรมก็จริง แต่ยังมีจิตใจดีอยู่มาก ไม่นานก็จะได้เกิดเป็นมนุษย์อีก"
เมื่อกลับมาโลกมนุษย์ก็ให้ภาวนาทันทีเป็นเวลา ๑ วัน แล้วก็สอนวิญญาณนั้นทั้งหมดเต็มความรู้ของท่าน ท่านกำชับว่า
"จงเร่งความเพียรใช้เวลาที่เหลือให้คุ้มค่าที่สุด ถึงไม่ทันการณ์ได้บรรลุผลในชาตินี้ แต่ผลการปฏิบัติ จะติดตามตัวเขาไปทุกภพทุกชาติ ไม่สำเร็จชาตินี้ก็อาจสำเร็จชาติหน้า"
วิญญาณนั้นจดจำทุกถ้อยคำที่หลวงปู่สอนด้วยความตั้งใจ
ยมทูตได้มารับตัววิญญาณนั้นไป วิญญาณนั้นก้มลงกราบ แล้วปวารณาตัวขอรับใช้หลวงปู่มั่นไปทุกภพทุกชาติ และวิญญาณนั้นก็สลายหายไป
น่าเสียดายอย่างยิ่งที่วิญญาณที่มีจิตแน่วแน่นี้ ช่างมีเวลาน้อยเหลือเกิน เขาเที่ยวเพียรตามหาหลวงปู่เป็นเวลาหลายปีกว่าจะได้เจอกลับมีกรรมต้องตายเสียก่อน จึงได้เจอหลวงปู่เพียง ๗ วันเท่านั้น แต่เป็น ๗ วันที่มีค่า ทำให้หลวงปู่ต้องไปตามมาจากยมโลกแม้จะเหลือแค่วันเดียว จึงเป็นอุทาหรณ์ที่ดียิ่ง อยากทำอะไรไม่ยอมทำ เมื่อหมดเวลาแล้วต้องเสียใจที่ใช้ชีวิตอย่างไม่คุ้มค่า ชีวิตนี้น้อยนัก อีกไม่นานพวกท่านก็ต้องตาย จงใช้เวลาที่เหลืออยู่ให้คุ้มค่าที่สุดเถิด
(ภาพวาดของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต)
(ถ่ายจากศาลชั้นบนวัดป่าบ้านตาด)
โฆษณา