22 ต.ค. 2019 เวลา 14:14 • ธุรกิจ
คนเดียวลูกค้าหาย สองคนช่วยกันขาย
2
cr. pinterest
เราคงเคยได้ยินคำว่า “Co-Branding”, “Brand Collaboration”, “Co-Campaign”, “Brand Partnership”, “Brand Ambassador” และอื่นๆ อีกหลายคำ ศัพท์เหล่านี้ล้วนมีความหมายทางการตลาดที่หมายถึง “การรวมแบรนด์เพื่อสร้างผลประโยชน์ต่อการกันอย่างสูงสุด” เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ในวงการการตลาด แต่สิ่งที่ฮ็อตฮิตในช่วงหลายปีที่ผ่านมาคือการทำ “Brand Collab Life Experience” – การร่วมมือกันระหว่างแบรนด์เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิต หรือที่เราเห็นกันอยู่บ่อยๆ ว่า
แบรนด์...X แบรนด์... นั่นเอง
1
.
อย่างที่หลายคนทราบ ทุกวันนี้สินค้าหรือการบริการไม่สามารถแข่งขันกันได้ด้วยเรื่องของราคาเพียงอย่างเดียว คนซื้อ ไม่ได้ต้องการซื้อแค่ “ของ” แต่ต้องการซื้อ “ประสบการณ์” อีกด้วย การ Collab ที่ต่างประเทศนั้นมีมานานแล้ว แต่ที่เมืองไทยเพิ่งมาบูมสุดๆ เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้เอง การร่วมกันในที่นี้ทำได้ทั้งในสายอุตสาหกรรมแบบเดียวกัน หรือแบบต่างสายกันแบบสุดขั้วเลยก็มี ยกตัวอย่างเช่น Apple Watch X Hermes นาฬิกาอัจริยะพร้อมสายหนังสุดหรู, Kanye x Adidas รองเท้ารุ่น Yeezy ปรากฏการณ์รองเท้าราคาสุดพรีเมียม คนรอต่อซื้อข้ามวันข้ามคืน, Alexander Wang X H&M เกิดเป็นกระแส Hi End-Fashion ในราคาที่จับต้องได้, BMW X Louis Vuitton และอื่นๆ อีกเยอะมาก
.
ทีนี้ข้ามมาดูในบ้านเราว่ามีแบรนด์ไหนที่น่าสนใจบ้าง MK X Milin เมื่อ MK อยากเป็นมากกว่าร้านสุกี้ ร่วมมือกับแบรนด์เสื้อผ้า Milin ออกแบบชุดยูนิฟอร์มของพนักงานภายใต้คอนเซป “The First Ever Collaboration Where Food Meets Fashion” ด้วยการนำเอาสีสันของอาหารมาเป็นแรงบันดาลใจในออกแบบ เพื่อเป็นการปรับเปลี่ยนทัศนคติของผู้คนที่มีแบรนด์ว่า MK เป็นร้านสำหรับครอบครัว ร้านของผู้ใหญ่ ให้ดูทันสมัยขึ้น เข้าถึง Gen X Gen Y ได้มากขึ้น นอกจากนี้ MK X ไม่หยุดแค่เพียงเรื่องของแฟชั่น พวกเขายังมีแพลนที่จะไป collap กับในอีกหลายๆ ส่วนไม่ว่าจะเป็น ดนตรี เกม การทำอาหาร หรือศิลปะ
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=2386761238024701&id=164732510227596
.
อีกหนึ่งแบรนด์ที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้ Bar B Q Plaza X Pizza Hut เกิดเป็นกระแสใน Social ถึงความเอ๊ะของการร่วมมือกันของสองแบรนด์นี้ ปิ้งย่างกับพิซซ่าจะมาอยู่ด้วยกันยังไง การทำ Collaboration เป็นหนึ่งในกลยุทธ์หลักที่ Bar B Q Plaza ทำต่อเนื่องมาโดยตลอด ทั้งร่วมมือกับธนาคาร บัตรเครดิต Air Asia Grab Coke ค่ายมือถือ หรือแม้แต่แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าอย่าง Anitech พวกเขาก็เคยร่วมงานมาด้วยกันแล้ว
https://brandinside.asia/bar-b-q-plaza-x-pizza-hut/
.
คำถามหนึ่งที่เกิดขึ้นในใจว่า แล้วทำไมต้องไปร่วมมือกับแบรนด์อื่นด้วยล่ะ อย่างที่บอกข้างต้นว่า ปัจจุบันเทรนด์ในการบริโภคนั้นเปลี่ยนไปอย่างมาก ผู้คนมีความต้องการที่จะมองหาประสบการณ์ใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา อะไรที่เดิมๆ ไม่ยอมเปลี่ยนแปลง ก็จะค่อยๆ หายไปจากตลาด หรือถ้าเน้นแต่โซเซียล ก็มักจะมาไวไปไว ถึงตรงนี้ใครที่มองเห็นโอกาสทางธุรกิจ เริ่มก่อน ก็ได้ก่อน ใครคิดได้เร็ว ลงมือได้ไว ก็ได้กินเค้กก้อนนั้นไป นอกจากความแปลกใหม่แล้ว สิ่งหนึ่งที่ทั้งสองแบรนด์จะได้แน่ๆ ก็คือ ฐานลูกค้าใหม่ๆ แน่นอนว่าการเลือกแบรนด์มา Collap ด้วยก็สำคัญ เพราะต้องมั่นใจว่าแบรนด์นั้นมี “แฟนคลับ” ติดตัวที่มากพอ รวมถึงแนวทางในการผลักดันแบรนด์ก็เป็นสิ่งที่มองข้ามไม่ได้ หลายๆ แบรนด์ ก็อาศัยการร่วมมือกับอีกแบรนด์หนึ่ง เพื่อสร้าง Storytelling ให้แบรนด์ตัวเองหรือแม้แต่การเปลี่ยนทัศนคติของผู้คนที่มีต่อแบรนด์ให้เปลี่ยนแปลงไปเช่นกัน
.
ถึงตรงนี้ ใครที่เคยคิดว่าเรื่องธุรกิจเป็นเรื่องของตัวใครตัวมัน คงต้องเปลี่ยนความคิดกันใหม่ กลับกัน เราต้องเปิดใจ ปรับเปลี่ยนให้ทันกับยุคสมัยและความต้องการของผู้บริโภค อย่ายึดติด อย่าขายของแบบตามใจตัวเอง โดยไม่สนใจคนซื้อ การร่วมมือกับผู้อื่นทำให้เราเรียนรู้อะไรได้อีกเยอะ การรับเอาความรู้ใหม่ๆ จากคู่แข่ง มาใช้พัฒนาตัวเองให้ดีมากยิ่งขึ้น ได้เห็นจุดแข็ง จุดอ่อนของตัวเองบ้าง อย่างน้อยถ้าต้องลงแข่งในสนามที่ไม่รู้ว่าทางข้างหน้าเป็นยังไง ทำความรู้จักคู่แข่ง เพื่อนข้างๆ ทาง ไว้ก็ไม่เสียหาย
ที่มา:
โฆษณา