24 ต.ค. 2019 เวลา 05:45 • บันเทิง
[Review] Spider-Man: Into the Spider-Verse (2018) – ผงาดสู่จักรวาลสไปเดอร์แมน
“ ผมเอามาคืนได้ไหม ถ้าใส่ไม่ได้ ”
“ มันพอดีตัวอยู่แล้ว เสมอล่ะ ”
คุณเคยเบื่อกับการรีบูทไหมครับทุกคน ปฏิเสธไม่ได้ว่าเมื่อทุกครั้งที่มีการหยิบยกสักเรื่องราวมาเล่าใหม่ ไม่ว่าจะรีเมคหรือรีบูท เล่นเส้นเรื่องใหม่ ย้อนอดีตไปเล่าเส้นเรื่องเก่า ยิ่งเฉพาะทศวรรษนี้ที่เราจะเห็นข่าวรีบูทนั้น รีบูทนี้ บ๊อยบ่อย จนเหมือนไม่สนคนดูเลยด้วยซ้ำว่าตามทันหรือเปล่า และในรอบทศวรรษที่ผ่านมา แฟรนไชส์หนังที่ผ่านการรีบูทมากสุดคงหนีไม่พ้น Spider-Man ที่ผ่านการรีบูทมาถึง 2 ครั้งในรอบทศวรรษครึ่ง หลากหลายเส้นเรื่องประดังประเดให้เราต้องตามหนังให้ทัน
ยังไม่ทันหายเหนื่อยก็มีการประกาศสร้าง อนิเมชั่นที่มี ฟิล ลอร์ด และ คริสโตเฟอร์ มิลเลอร์ จาก The Lego Movie และ Jump Street มาเป็นโปรดิวซ์ร่วมสร้าง Spider-Man: Into the Spider-Verse อนิเมชั่นหนังโรงใหญ่เรื่องแรกที่มาพร้อมกับการผงาดสู่จักรวาลสไปเดอร์แมนที่เรื่องนี้จะมีมนุษย์แมงมุมมากกว่าหนึ่งคน สายตาผมหันมาสนใจสไปเดอร์แมนใหม่อีกครั้ง หลังเป็นแฟนลอร์ดกับมิลเลอร์มานานนมและเหมือนสายตาที่มองจะไม่ผิด หลังอนิเมชั่นเรื่องนี้สามารถคว้าลูกโลกทองคำ อนิเมชั่นยอดเยี่ยมมาหมาด ๆ
Spider-Man: Into the Spider-Verse เล่าเรื่อง เด็กหนุ่มผิวสี ไมล์ส มอราเลส ที่เพิ่งย้ายมาที่โรงเรียนใหม่และหวังจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ตามที่หวังและมีสไปเดอร์แมนเป็นแบบอย่าง ไมล์ส อาศัยอยู่กับพ่อและแม่และมีอาแอรอนที่สนิทกันชอบพาไปทำลายกราฟฟิตี้ด้วยกัน วันนึงไมล์สถูกแมงมุมรังสีกัดโดยบังเอิญและทำให้เขาได้รับพลังแมงมุมอย่างช่วยไม่ได้
ก่อนที่เขาจะได้ค้นพบว่า ใต้เมืองบรู้คลินที่เขาอยู่กำลังมีการทดลองเครื่องยิงอนุภาคโดย ฟริส หรือ คิงพิน แต่ สไปเดอร์แมน “ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์” ก็เข้าไปขวางจนเป็นเหตุให้เสียชีวิต ไมล์สหวังจะรับภารกิจตามคำขอของสไปเดอร์แมน แต่หารู้ไม่ว่าการทดลองทำให้เปิดมิติจักรวาลดึงสไปเดอร์จากมิติอื่นมายังมิติเขาและไมล์สต้องทำหน้าที่ฮีโร่เพื่อหยุดยั้งแผนของคิงพินไว้ให้ได้
เนื้อเรื่องสุดยาวเหยียดแต่ในเรื่องจริงหนังเล่าได้อย่างสนุกมือมาก โดยใช้ศูนย์กลางของเรื่องเป็นไมล์ส มอราเลสในโลกที่มีสไปเดอร์แมนเป็นฮีโร่ที่จับต้องได้จริงในนิวยอร์กจนถึงวันที่เขาต้องรับหน้าที่ฮีโร่นี้ด้วยตัวเอง หนังมีแทรกมุกฮาแบบต่อเนื่องสลับกับฉากแอ็คชั่นไล่ล่าที่มันได้ใจกับสไตล์ภาพอนิเมชั่นที่ผสมผสานภาพแบบคอมมิคให้ความรู้สึกเหมือนอ่านการ์ตูนในฉบับที่เคลื่อนไหวได้ ทำให้อนิเมชั่นเรื่องนี้มีเอกลักษณ์แตกต่างจากอนิเมชั่นส่วนใหญ่ในยุคนี้มากพอสมควร
ส่วนที่ดีมากก็คือ ความเป็นเอกลักษณ์ของอนิเมชั่นเรื่องนี้ ตั้งแต่งานด้านภาพสามมิติที่ผสมผสานกับสไตล์คอมมิคได้น่าตื่นตาแถมยังสามารถผนวกเข้ากับการเล่าเรื่องและฉากแอ็คชั่นได้อย่างพอดิบพอดี เรื่องราวที่โดดเด่นที่จัดการดึงสไปเดอร์แมนจากมิติอื่นเข้ามาเป็นทัพตัวละครที่น่าจดจำแถมมีซีนขำมากมาย แต่ก็ยังไม่กลบรัศมีกันและกัน
มุกขำสไตล์ลอร์ด-มิลเลอร์ที่ทำให้เราหัวเราะได้แทบทุกครั้งและยังแทรกมาได้จังหวะดีไม่เกินเลย ฉากแอ็คชั่นที่ทำให้ออกมาได้มันส์และสนุกมาก ๆ ยิ่งไปกว่านั้นที่ชอบเป็นการส่วนตัวก็คือ การออกแบบการเล่าเรื่องที่แซะความเป็นแฟรนไชส์สไปเดอร์แมนได้เจ็บแสบเหลือเกิน (ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ก็ตาม) อีกทั้งยังนำมาปรับเล่าเข้ากับเรื่องราวของไมล์สได้อย่างพอเหมาะพอเจาะอีกต่างหาก
ส่วนเสียของหนังสำหรับเราแทบไม่มี การเล่าเรื่องที่ยั่วล้อกับขนบธรรมเนียมของการเล่าจุดกำเนิดฮีโร่ กึ่งจะแซะการรีบูทของตัวเองแบบนิด ๆ แต่กลายเป็นบทสรุปที่เข้มแข็งของปฐมบทต่อไปของซูเปอร์ฮีโร่ที่โคตรมีเอกลักษณ์ในตอนจบ
มันยิ่งทำให้เราชอบสาส์นของเรื่องที่สื่อ ถึงความเชื่อมั่นและให้คุณค่าในตนเอง เราทุกคนเป็นคนสำคัญได้ ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน เราทุกคนมีความยากลำบากในแบบของตัวเอง มีแบบเฉพาะในแบบของตัวเราเอง เราไม่จำเป็นที่จะต้องแบบใครคนไหน ถ้าเราสามารถเป็นตัวตนของเราในแบบที่ดีที่สุดก็พอ
นอกจากนี้มันยังมีการปรากฎตัวของชายผู้นั้น ในฉาก ๆ นึงด้วยอารมณ์ขันอย่างที่เขาเคยเป็น แต่ประโยคที่เขาได้พูดในฉากนั้นมันเปี่ยมไปด้วยความหมายและมีคุณค่ามากขึ้นเลยทีเดียวล่ะ
สรุปแล้ว Spider-Man: Into the Spider-Verse คืออนิเมชั่นซูเปอร์ฮีโร่แสนสนุก มาด้วยสไตล์ภาพคอมมิคอันมีเอกลักษณ์ เรื่องราวที่ใช้ไมล์สเป็นศูนย์กลางแต่แซะกับขนบการเล่าจุดกำเนิดฮีโร่ได้อย่างสนุกมือ ฉากแอ็คชั่นมันส์อลังการแถมแทรกมุกขำได้ถูกจังหวะ ตัวละครเด่นแทบทุกตัว แถมเรื่องราวก็กระชับแต่ลึกกินใจ สามารถบอกได้เลยว่านี่เป็นหนึ่งในอนิเมชั่นเปิดปีที่ดีที่สุด ณ เวลานี้และเป็นหนึ่งในหนังสไปเดอร์ที่ดีที่สุดแน่นอน
4.5 / 5
Spider-Man: Into the Spider-Verse (2018)
Directed by Bob Persichetti, Peter Ramsey & Rodnet Rothman
Screenplay by Phil Lord and Rodney Rothman
Story by Phil Lord
Based on “Spider-Man” by Stan Lee & Steve Ditko and “Miles Morales” by Brian Michael Bendis & Sara Pichelli

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา