วันนี้จะเป็นครั้งแรก ที่เพจ “เสียบสามเหลี่ยม” ไม่ได้เขียนเรื่องฟุตบอล
สาเหตุเพราะผมรู้สึกสลดใจอย่างมาก กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสังคมบ้านเรา ในช่วงรอบวันที่ผ่านมา
มันคือประเด็นที่ละเอียดอ่อน ผมต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมากในการเขียนบทความชิ้นนี้
และต้องขอความกรุณาตรงนี้ ให้ผู้อ่าน อ่านมันด้วยสติ ลดอคติ ลดความคิดอาฆาต ทำใจให้เย็นๆ แล้วค่อยๆ อ่านไปทีละบรรทัดนะครับ
ที่ผมอยากใช้พื้นที่นี้ เพราะผมมั่นใจว่า แฟนบอลทุกคนคงทราบข่าว กับกรณีหนุ่มแว่นขับรถซีวิค ที่ควบคุมสติไม่อยู่ ด่ากราดใส่คู่กรณีที่ขับรถเฉี่ยวชนกันบนท้องถนนแบบจัดหนัก จนทำให้คนไทยทั้งประเทศพร้อมเป็นศัตรูกับเขาแทบทั้งแผ่นดิน
แน่นอนว่าสิ่งที่หนุ่มแว่นพูด ล้วนเป็นเรื่องที่ไม่สมควรพูด ทั้งการดูถูกคนไทย, การดูหมิ่นสถาบันอันเป็นที่รักยิ่งอย่างพระมหากษัตริย์ และการอวดความร่ำรวย
ในความคิดของผม 3 ประเด็นนี้คือเรื่องที่จะจี้จุดคนไทยได้มากที่สุด
ถ้าสังเกตให้ดี ดราม่าที่พาดพิงสถาบัน หรือพฤติกรรมแย่ๆ ของคนรวย จะถูกโจมตีมากกว่าชาวบ้านธรรมดาๆ ก่อเหตุอาชญากรรมเสียอีก
ผมอาจจะโลกสวยก็ได้นะครับ แต่เรื่องหนุ่มแว่นซีวิคที่ผมเห็นวันนี้ มันทำให้ผมคิดว่า....
1. ในยุคโซเชียลแบบนี้ หากคุณควบคุมสติไม่ได้แค่ทีเดียว ทำให้ชีวิตคุณพังพินาศได้มากกว่าคนที่เจตนาเมาแล้วขับ แล้วไปชนใครตาย
2. ผมเห็นคนไทยหลายๆ คนที่ปกติล้อสถาบันกันคิกๆ คักๆ ไม่กี่วันก่อนยังมีประเด็นใหญ่ ที่ชาวบ้านยังเอามาพูดเป็นเรื่องตลกซะอย่างนั้นอยู่เลย
แต่พอคนไทยอยากเหยียบย่ำคนที่ตัวเองหมั่นไส้ ก็พร้อมใจกันเชียร์ให้ไอ้หนุ่มคนนี้โดนมาตรา 112 เล่นงาน
3. หนุ่มแว่นซีวิคอาจจะมีสภาพจิตไม่ปกติ ผมคิดว่าเขาต้องเป็นโรคที่เกี่ยวกับการควบคุมอารมณ์อย่างแน่นอน
ผมเคยมีบุคคลใกล้ชิดที่เป็นโรคแบบนี้ คือหากเขาจะใช้ชีวิตได้ตามปกติ ต้องทานยาอย่างสม่ำเสมอเท่านั้น ไม่อย่างนั้น สมองส่วนที่ยับยั้งชั่งใจจะเกิดปัญหา เขาจะแสดงทุกพฤติกรรมออกมา จากจิตใต้สำนึกล้วนๆ
ในชีวิตคนเรา ทุกคนต่างมีเรื่องที่ต้องเก็บไว้ในใจแต่พูดมันออกมาไม่ได้ใช่ไหมครับ?
อย่างเช่นคุณอยากด่าเจ้านายใจจะขาด แต่คุณไม่มีทางพูดมันออกมาต่อหน้าเจ้านายคุณได้ เพราะคุณยังต้องรับค่าจ้างจากเขา และสิ่งที่ทำให้คุณไม่พูดมันออกมา คือสมองส่วนที่ทำให้คุณรู้จัก “ยับยั้งชั่งใจ” ครับ
แต่พฤติกรรมของหนุ่มแว่น ที่กล้าพูดอะไรไม่เข้าท่าแบบนั้นออกมา ขนาดแฟนสาวอยู่ด้วยกันพยายามปรามทุกอย่าง ก็ยังเอาไม่อยู่ นั่นเป็นเพราะอาการของโรคที่หนุ่มแว่นเป็นอยู่กำเริบ จากสถานการณ์ที่เจอสิ่งกระตุ้นให้น็อตหลุด คืออุบัติเหตุบนท้องถนน
จากข่าวล่าสุด รายงานว่า หนุ่มแว่นมีอาการป่วยเป็นโรคซึมเศร้า (โรคซึมเศร้าก็มีหลายระดับครับ และพฤติกรรมก็แตกต่างกันไป) เขาต้องทานยาอย่างสม่ำเสมอ ถ้าหากขาดยาไป จะทำให้เขาแสดงพฤติกรรมที่ย่ำแย่ออกมา เพราะเหตุการณ์ล่าสุดที่ผ่านมานี้ ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขามีเรื่องมีราวบนถนน
ผมไม่ชอบนัก ที่พวกสื่อหรือใครไปขยี้ ไปอคติว่า “ถ้าป่วยจริง ทำไมทำงานได้” “สุดท้ายก็หงายการ์ดว่าป่วย”
คือคุณต้องไปทำความเข้าใจกับโรคนี้ก่อน เขาไม่ใช่คนบ้า เขาสามารถใช้ชีวิตได้ในสถานการณ์ปกติได้สบายๆ แต่เขาจะมีปัญหามากกว่าคนอื่นในเรื่องการควบคุมอารมณ์ และต้องใช้ยาช่วยจริงๆ
มันไม่ผิดที่เขาจะมีความคิดแบบไหนในหัว สิ่งที่ผิดคือการแสดงออกมาของเขาต่างหาก
แต่นั่นมันคือพฤติกรรมจากคนที่ไม่ปกติครับ และจุดนี้ ครอบครัว และตัวของหนุ่มแว่นเอง สมควรต้องรับผิดชอบตัวเอง อย่าได้ออกมาสร้างปัญหาในสังคมอีก เพราะคุณป่วย คุณต้องรักษา และควบคุมมันให้ได้
4. จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หนุ่มแว่นได้รับบทลงโทษอย่างสาสมไปแล้ว และสมควรได้รับมัน
ถูกประจานจนเสื่อมเสียชื่อเสียงในวงกว้าง, ต้องตกงานทันที เพราะไม่มีบริษัทไหนอยากจ้างคนที่เป็นประเด็นเสื่อมเสียให้ทำงานต่อแน่ๆ ต่อให้คุณป่วย คุณควรเอาเวลาไปรักษาตัวให้หายคือสิ่งที่เหมาะสมกว่า
และแน่นอน ความผิดฐานดูหมิ่นซึ่งหน้า ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
บทลงโทษเหล่านี้ คือสิ่งที่หนุ่มแว่นกำลังเจออยู่ทั้งสิ้น ไม่ใช่ว่าเขาเป็นผู้บริสุทธิ์
5. แต่ประเด็นที่ผมสลดหดหู่ก็คือ ผู้คนไม่สนใจกฎหมาย ไม่ทำความเข้าใจที่มาที่ไปอะไร และทำตัวเองเป็นศาลเตี้ย คุกคามชีวิตเขาอย่างกับเขาเป็นอาชญากรที่ฆ่าคนตาย หรือก่อคดีอุกฉกรรจ์
ผู้คนสะใจที่ชีวิตหนุ่มแว่นซีวิคเจออะไรแบบนี้ จนป่านนี้ยังตามสมน้ำหน้ากันไม่เลิก บางคนยังไม่หนำใจ เชียร์ให้ทหารมาอุ้มเขาไปทำอะไรต่อ, ไล่ให้เขารีบๆ ฆ่าตัวตาย, ส่งข้อความข่มขู่จะทำร้าย หรือไม่ก็ไล่ให้เขาไปอยู่ต่างประเทศ
ทุกคนมีสิทธิ์วิพากษ์วิจารณ์ได้ แต่คุณไม่มีสิทธิ์ที่จะไล่ให้ใครไปตาย หรือย้ายประเทศได้ ในเมื่อประชาชนทุกคนมี "สิทธิ" ในการรักษาชีวิตของตัวเอง และทุกคนต้องเสียภาษี ที่ที่ทุกคนอยู่ ไม่ว่าจะเป็น บ้าน, ที่ดิน, ห้องพัก ต้องใช้เงินเช่าซื้อ
สิ่งที่ทำให้ประเทศเจริญที่สุด คือผู้คนรู้หน้าที่ตัวเอง เคารพสิทธิ เคารพกฎหมาย และปฏิบัติซึ่งกันและกันอย่างให้เกียรติ
และที่แน่นอนที่สุด ไม่ควรมีใครไปลามปามถึงครอบครัวและคนรักของเขาแม้แต่คนเดียว
6. ลองมาใช้สติคิดกันอย่างถี่ถ้วนนะครับ คนที่ตามสมน้ำหน้า ตามเหยียบย่ำให้ชีวิตเขาจมดิน ตามไปดักรอตะโกนด่า ไลฟ์สดปลุกความเกลียดชังให้รุนแรงมากขึ้นในโลกโซเชียล
คนเหล่านี้จะได้อะไรกับความพินาศของเขาบ้าง นอกจากความสะใจ?
ลองถามตัวเองอีกครั้งนะครับ คนเหล่านี้รักชาติ รักสถาบันจริงๆ หรือคุณแค่อยากให้คนที่พูดจาไม่เข้าหูต้องชีวิตพินาศ ให้สาแก่ใจคุณเองกันแน่?
ในความคิดของผม ถ้าผมอยากแสดงออกว่าผมรักชาติ รักสถาบันนี้ ผมจะพยายามทำสิ่งดีๆ ให้มันเกิดขึ้นในสังคมของประเทศที่ผมอยู่ เท่าที่ตัวเองจะพอทำได้
ผมอาจไม่ใช่คนที่ยิ่งใหญ่ ไม่ใช่คนที่มีโทรฟี่อะไร แต่ที่แน่นอนก็คือ การสร้างความเกลียดชังกัน ไม่เคยทำให้สังคมไหนเจริญขึ้น
7. คนที่ตามไปขุดเรื่องราวของเขาทุกช่องทาง ขุดโปรไฟล์เขาออกมา ไปค้นหาว่าชีวิตส่วนตัวเขามีอะไรบ้าง คนที่สละเวลาอันมีค่าที่จะทำสิ่งที่มีประโยชน์ไปรอยำตีนหนุ่มแว่น ก็คือคนที่พร้อมทำทุกอย่าง เพื่อทำให้คนที่ตัวเองไม่ชอบขี้หน้าจมดินให้ได้
แล้วคนที่มีความสนุกกับการเล่นงานคนที่ตัวเองหมั่นไส้ ทั้งที่อาจไม่เคยรู้จักอะไรเลย ไม่เคยเห็นหน้าค่าตากันเลยในชีวิต ต่อไปเขาจะมีโอกาสหรือไม่ ที่จะทำอะไรโง่ๆ แบบหนุ่มซีวิคคนนี้บ้างในอนาคต
ก็พวกคุณกำลังไม่คุมสติกับความโกรธตัวเองอยู่นี่ครับ ถ้าสมมติว่ามีคนมาขับรถเฉี่ยวชนคุณ ทำให้คุณพลาดธุระที่สำคัญมากๆ คุณอาจจะพลาดแสดงพฤติกรรมที่แย่ๆ ออกมา ไม่ต่างอะไรกับหนุ่มแว่นบ้างก็ได้
คุณมั่นใจไหม ว่าถ้าคุณโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ แล้วจะไม่ทำอะไรแบบนี้? ในเมื่อรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมานี้ คุณเพิ่งมีความคิดอยากให้คนคนนึงตายห่าอยู่เลย
ผมไม่แปลกใจเลยว่าทำไม เราเห็นภาพคนหัวร้อนโดนประจานจนชีวิตพังมาแล้วนับไม่ถ้วน แต่มันกลับมีคนที่ตายเพราะอารมณ์ตัวเองล้วนๆ เกิดขึ้นมากขึ้นเรื่อยๆ
บางคนที่ขับรถเฉี่ยวกันบนถนน อาจจบลงด้วยการขอโทษโดยดี แล้วให้อภัยกัน
แต่บางคนไม่โชคดีแบบนั้น โดนคนชักปืนออกมายิง โดนเอามีดแทง โดนรุมกระทืบ โดนชกต่อย โดนใช้ให้กราบรถ ผมเชื่อว่าหลายคนน่าจะเคยเห็นข่าว
ในเมื่อหลายคนยังเพลิดเพลินกับการเหยียบคนอื่นให้ไร้ค่า สุดท้ายคำเหยียดโง่ๆ ต่างๆ นานา มันอาจออกมาจากปากคุณเองบ้างก็ได้ในสักวัน
เวลาที่มีใครมาทำให้คุณโกรธจนน็อตหลุด คุณอาจจะเป็นคนโดนแจ็คพ็อตแตกแบบหนุ่มแว่นเป็นรายต่อไปก็ได้ ถ้าโดนพลังโซเชียลเล่นงาน
ผมไม่ได้จะปกป้องว่า หนุ่มแว่นไม่ทำอะไรผิด เพราะมันเห็นกันอยู่ว่าตอนนี้เขากำลังเจอกับอะไร มันคือคำตอบที่ชัดเจนแล้ว ว่าสิ่งที่เขาทำลงไป คือเรื่องที่ใหญ่มาก
แต่มันไม่ใช่แล้วครับ ที่สังคมจะรู้สึกสะใจ กับการพยายามทำลายชีวิตคนคนนึงให้พังพินาศทุกช่องทาง แล้วอ้างว่าเพื่อชาติ เพื่อสถาบัน
ชาติของเรา สถาบันของเรา สูงศักดิ์เกินกว่า คุณจะยอมทำอะไรที่ไร้ค่า เพียงเพราะความโกรธต่อคนๆ เดียว
#เสียบสามเหลี่ยม #หนุ่มแว่น #Thailand
ชอบกดไลค์ ถูกใจกดแชร์ และเพื่อไม่พลาดบทความคุณภาพจากเราทุกวัน กดติดตามเพจแบบ See First ไว้เลยนะครับ
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
