26 ต.ค. 2019 เวลา 10:36 • กีฬา
เมื่อ “ฮีโน่” พาไปดู “ฮีโร่” แบบวีไอพี ที่ บุรีรัมย์
“เจอกันไม่ต้องวิ่งขนาดนี้นะ”
คือข้อความที่ “เชค” สุภโชค สารชาติ โพสต์แซว นิติพงษ์ เสลานนท์ หลังช่วยกันนำ ทีมชาติไทย เปิดบ้านชนะ สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ แบบประทับใจแฟนบอลทั่วประเทศ
สร้างสีสันและรอยยิ้มให้กับคนที่ได้เห็นข้อความนี้ ก่อน “ซูเปอร์บิ๊กแม็ทช์ไทยลีก” นัดรองสุดท้าย ระหว่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กับ การท่าเรือ จะระเบิดขึ้นที่ ช้าง อารีนา
แบ็คขวา “สิงห์เจ้าท่า” ได้รับโอกาสสำคัญจาก นิชิโนะ อะกิระ เฮดโค้ชทีมชาติไทยให้ออกสตาร์ทเป็น 11 ตัวจริง แล้วก็ทำผลงานได้ยอดเยี่ยม รวมทั้งการเปิดบอลอย่างแม่นยำจนเป็นประตูชัยให้ “ช้างศึก” ในนัดนั้นด้วย
เล่นดีจนแจ้งเกิดได้ขนาดนี้ โกล ไทยแลนด์ ก็เลยสัมภาษณ์เปิดใจ นิติพงษ์ ซะหน่อย แล้วก็ไม่ลืมอออฟซีน ด้วยการถามถึงข้อความที่ สุภโชค แซวมาในอินสตาแกรม
“บอกมันแล้วว่า ถ้าเล่นปีกซ้าย ไม่ได้ขยับแน่ จะตามให้สุดเลย (หัวเราะ)”
ก่อนที่จะพูดถึงเกมสำคัญว่า “ทุกอย่างน่าจะจบแมตซ์นี้ มันเหมือนตัดสินทุกอย่าง ถ้า บุรีรัมย์ ชนะ ก็คงเป็นแชมป์ แต่ถ้า ท่าเรือ ชนะ ก็บอกเลยว่า ท่าเรือ คงเป็นแชมป์ เพราะเรากลับมาในบ้าน คงไม่พลาด ส่วนฝั่ง เชียงราย ก็ขอให้เต็มที่แล้วกัน”
ข้อความแซวในอินสตาแกรม
เกมสำคัญแบบนี้ ผมเลยชวนน้องชมพูไปเที่ยวบุรีรัมย์เพื่อเป็นสักขีพยานสักหน่อย
และไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว ช่วงเวลาเดียวกัน มีฟุตบอลเยาวชนนานาชาติ รุ่นอายุไม่เกิน 14 ปี CP-Meiji Cup 2019 จัดขึ้นที่บุรีรัมย์ด้วย ผมก็เลยจองที่พักที่ ดูคาติ ไบค์บอกซ์ ยาวเลย กะทำสกู๊ปการแข่งขันฟุตบอลเยาวชนรายการนี้ลงเพจด้วย
จากสนามบิน พอมาถึงที่พักปุ๊บ นี่คือสิ่งแรกที่เราทำ…
กินสิครับ
สปาเก็ตตี้ของน้องชมพู
ส่วนผม น้องชมพูบอกว่า “เห็นปลาทูเป็นไม่ได้” 555
ปิดท้ายด้วยขนมหวาน
พิกัดร้านก็…L TWIN CAFFE at Ducati Buriram นั่นแหละครับ ไม่ได้ไปไหนไกล (ส่วนที่พัก อยู่ข้างหลังโชว์รูม ดูคาติ)
หลังจากอิ่มหมีพีมันแล้ว น้องชมพูพักในห้อง ส่วนผมไปที่ ช้างเทรนนิง กราวด์ เพื่อดูเกม CP-Meiji Cup ระหว่างที่ดู ๆ อยู่ ก็มีแจ้งเตือนจากเฟซบุ๊คว่า มีการไลฟ์สดแถลงข่าว Meet the Warriors สัญจร คู่ระหว่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กับ การท่าเรือ
ลังเลว่าจะเดินไปห้องแถลงข่าว เผื่อมาเขียนสกู๊ป “บิ๊วท์” ก่อนเกมดีไหม?…แต่สุดท้ายเลือกอยู่ดูบอลเยาวชนต่อ ด้วยความเกรงใจแดดที่เหมาะกับการตากผ้าซะเหลือเกิน 555
เนื้อหาใหญ่ใจความสำคัญก็เรื่อง “ความกดดัน” ที่ต่างก็ผลักไสไปสู่อีกฝั่ง…
“เรื่องความกดดันในการลุ้นแชมป์ มันน่าจะอยู่ที่ บุรีรัมย์ มากกว่าเราครับ ผมกับ โค้ชโชค (โชคทวี พรหมรัตน์) คุยกันตั้งแต่ตอนรับตำแหน่งแล้วว่า เรามาที่นี่เพื่อทำให้แฟนบอลมีความสุขที่สุด ส่วนเรื่องสถิติมันมีไว้ทำลาย สถิติเราอาจจะสู้เขาไม่ได้ แต่เราจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด” สระราวุฒิ ตรีพันธ์ ผู้ช่วยโค้ชการท่าเรือโยนความกดดันข้ามฟากไป
สถิติที่ว่าคือสถิติที่บอกว่า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เป็นฝ่ายชนะ การท่าเรือ ได้ทุกครั้งที่เจอกันใน ช้าง อารีนา!
“เรื่องความกดดันในการคว้าแชมป์ ผมกลับไม่มองอย่างนั้นครับ” โบซิดาร์ บันโดวิช เฮดโค้ชบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดเปิดใจ “ผมมองเป็นเรื่องโอกาส ถ้าเราทำงานหนัก เราก็จะได้ผลตอบแทนที่ดี เราทำงานอย่างหนักกว่าจะมาถึงจุดนี้ นักเตะของเราเองก็พร้อม เราจะก้าวไปข้างหน้า เราชอบความท้าทาย นี่เป็นโอกาสดีที่เราจะได้แชมป์ 3 สมัยติดต่อกัน…ครั้งแรกเป็นเรื่องที่ยาก ครั้งที่ 2 ยากยิ่งกว่า ส่วนครั้งนี้ยากยิ่งขึ้นไปอีก อย่างไรก็ตาม เราให้เกียรติคู่แข่งเราเสมอ”
ส่วนนักเตะทีมชาติไทยของทั้ง 2 ทีมที่เพิ่งเสร็จสิ้นภารกิจสำคัญมานั้นพร้อมสุด ๆ
“พวกเขากลับสู่ทีมในช่วง 4 วันที่ผ่านมา ซึ่งเราก็เตรียมตัวเต็มที่สำหรับเกมนี้ แน่นอนว่านักเตะเราไปเล่นให้ทีมชาติเยอะ แต่มันจะไม่ใช่ข้อแก้ตัว” บันโดวิช รายงานความพร้อม
“เรื่องนักเตะทีมชาติ ผมไม่ค่อยห่วงนะ เราให้พวกเขาฟื้นฟูตัวเองกันแล้วครับ” สระราวุฒิ เอ่ยถึงลูกทีมที่ติดชุด “ช้างศึก”
เป็นอันว่าเราจะได้เห็น สุภโชค สารชาติ ดวลกับ นิติพงษ์ เสลานนท์ ตามที่ทั้งคู่บิ๊วท์กันมาผ่านโซเชียลแน่นอน แล้วไหนจะ ธนบูรณ์ เกษารัตน์ ที่ต้องแยกฝั่งคุมเกมรับกับ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ในนัดนี้อีกล่ะ
แค่คิดก็อยากให้ถึงวันแข่งเร็ว ๆ แล้ว
ระหว่างที่คู่ “บิ๊กแม็ทช์” แถลงข่าวก่อนเกม ผมกำลังดูบอลเยาวชนอยู่
เช้าวันแข่ง ผมแวะไปที่มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ เพื่อชมฟุตบอล ฮีโน่ เพรสิเดนท์ คัพ ก่อนครับ
นี่เป็นการแข่งขันฟุตบอลภายในเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างดีลเลอร์ของฮีโน่ โดยทีมที่ชนะในโซนอีสานนี้ จะได้ไปแข่งรอบชิงแชมป์ประเทศที่กรุงเทพฯต่อไป ช่วงต้นเดือนธันวาคม
ผลการแข่งขัน ปรากฏว่า บ.เจริญศรี สกลนคร ชนะ ฮีโน่ บุรีรัมย์ ในนัดชิงชนะเลิศ ท่ามกลางเปลวแดดร้อนระอุทั้งวัน ทีมที่ชนะเลิศต้องอึดเล็กน้อยเพราะต้องผ่านศึกหนักประมาณ 3 แม็ทช์
ส่วนที่ ช้าง อารีนา, ฮีโน่ เปิดบูธ เพื่อโชว์รถที่ต่อตัวถังสำหรับเป็นรถขายของที่ระลึกเคลื่อนที่ของสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด โดยคันเล็กใช้งานมาหลายเดือนแล้ว ส่วนคันใหญ่เพิ่งเปิดตัว โชว์ให้เห็นกันในงานนี้
ในบูธมีเกมและกิจกรรมให้แฟนบอลร่วมสนุก ลุ้นของรางวัลกันมากมาย รุ่นพี่โรงเรียนของผมคนนึงมาถ่ายภาพประกบพริตตี้ 2 นาง แล้วส่งให้ผมดูทางแมสเสจด้วย แต่ด้วยจรรยาบรรณจึงไม่อาจเปิดเผยให้เห็นใบหน้าได้ ^^
เลือกรูปนี้ประกอบ…จะโชว์รถขายของที่ระลึกหรือโชว์พริตตี้ พูดซิ 555
ใกล้ได้เวลาคิกออฟ ฮีโน่ก็พาพวกผมขึ้นไปชมเกมในห้องวีไอพีครับ นี่น่าจะเป็นประสบการณ์แปลกใหม่ สุดเอ็กซ์คลูซีฟในการมาดูบอลที่สนามนี้ของผมเลยนะ
การขึ้นไปชมฟุตบอลที่ห้องวีไอพีของ ช้าง อารีนา จะมีบัตรคล้องคอ เพื่อใช้สแกนตรงทางเข้าก่อน
แล้วก็ขึ้นลิฟท์ไปที่ชั้น 4
บัตรคล้องคอ, ปากกาที่ระลึก และมือสวย ๆ ของน้องชมพู แฮ่ม!
มาถึงชั้น 4 แล้ว
มีพนักงานทั้งชายและหญิง ยิ้มหวาน ไหว้ต้อนรับพวกเราตลอดทางจนถึงห้อง…แน่นอน ภาพนี้น้องชมพูถ่าย 555
ในห้องมีโต๊ะสำหรับนั่งคุย กินข้าว มีอาหารเสิร์ฟให้ด้วย
ถ้าอยากกินขนมก็มี
ชมเกมในสนาม ผ่านประตูกระจกในห้องวีไอพีก็จะประมาณนี้
แต่เมื่อเปิดกระจกออกไป ก็จะได้สัมผัสกับบรรยากาศสุดยิ่งใหญ่
ในห้องวีไอพีมีทั้งอาหารและเครื่องดื่มให้รับประทานระหว่างดูเกมการแข่งขัน เราจะนั่งชิล ๆ กินไป ชมเกมแบบมองผ่านประตูกระจกไปก็ได้ (แต่ไม่ชัดนะ 555) หรือจะดูผ่านจอโทรทัศน์ที่ติดตั้งไว้ในห้องก็ได้
แต่ไปถึงขนาดนั้นแล้ว ต้องเปิดประตูกระจกออกไปสัมผัสบรรยากาศแบบเต็ม ๆ ในสนามจะดีกว่า
นี่เป็นครั้งแรกที่ผมนั่งสูงขนาดนี้ในการมาดูบอลที่ ช้าง อารีนา มองไปข้าง ๆ เยื้องลงไปแค่แถวเดียวก็เห็นโต๊ะทำงานสื่อมวลชน ก็เลยเข้าใจแล้วว่าทำไมถึงต้องจัดโต๊ะนักข่าวไว้ซะสูงลิบ เพราะมองเห็นเกมได้ชัดเจน ทั่วทั้งสนามนั่นเอง
เกมนี้บรรยากาศสุดยิ่งใหญ่ ฮีโร่จากทีมชาติห้ำหั่นกันแบบถึงพริกถึงขิง เข้มข้นเร้าใจ และสุดท้ายเป็น บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ชนะไป 3:1 ในเกมที่มีคนดูสูงสุดเป็นสถิติของโตโยต้าไทยลีกฤดูกาลนี้ที่ 32,538 คน
อย่างที่ นิติพงษ์ บอกนั่นแหละ การท่าเรือจบ…แต่ในเมื่อ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ยังเต็มที่อยู่
จากม้า 3 ตัวก็เลยเหลือแค่ 2 ที่จะลุ้นแชมป์ในนัดสุดท้าย
คนดูล้นหลามในเกม “บิ๊กแม็ทช์”
วันที่บทความนี้ออนแอร์ ก็จะเป็น “FINAL DAY” แม็ทช์สุดท้ายของดูกาลแล้ว (ดองเรื่องไว้ซะเค็มเลย กว่าจะเขียน 555)
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด หรือ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ทีมไหนจะได้แชมป์โตโยต้า ไทยลีกฤดูกาลนี้ไปครองก็ต้องลุ้นกัน
“ผมบอกน้อง ๆ ในทีมเสมอว่า ทุก ๆ เกมคือเกมที่สำคัญ การจะได้แชมป์ลีกมันไม่ง่าย มันยากมากทุกครั้ง ผมพยายามบอกน้อง ๆ ให้ทำงานหนัก ไม่ใช่แค่ในการซ้อม เพราะมันรวมถึงการลงสนามแข่งขันจริงด้วย” ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน เอ่ยในตอนนึงของการแถลงข่าว Meet the Warriors สัญจร คู่ระหว่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กับ การท่าเรือ
ผมเชื่อว่าทั้ง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กับ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ต่างก็ทำงานอย่างหนักมาทั้งฤดูกาลเพื่อผลลัพธ์ที่สุดยิ่งใหญ่ในวันนี้
ซึ่งไม่ว่าใครจะเป็นแชมป์ ผมก็มองว่า “เหมาะสม” ทั้งสิ้น…และพวกคุณก็จะเป็นฮีโร่ของแฟนบอลเสมอ
ส่วนผมต้องขอบคุณฮีโน่มาก ๆ นะครับ ที่มอบประสบการณ์สุดล้ำค่าในการดูฟุตบอลเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
ส่วนวันนี้ ขอเปิด ทรูวิชันส์ ชิล ๆ ที่บ้าน ลุ้นว่าใครได้แชมป์ก่อนนะครับ
โฆษณา