27 ต.ค. 2019 เวลา 04:59 • กีฬา
ทำไม 15 , 30 แล้ว 40… !?
แอดเชื่อว่า เทนนิสเป็นกีฬาที่อินดี้…
ในโลกใบนี้จะมีกีฬาสักกี่ประเภทที่ ไม่เริ่มนับคะแนน 1 2 3 เหมือนชาวบ้าน แต่ไปเริ่มนับที่ 15..30.. แล้วกระโดดไปที่ 40 ซะอย่างงั้น ดูเผินๆแล้วอาจจะ งง กันว่า คนคิดนี่ตกเลขรึปล่าวเนี่ยยยย!? แต่จริงๆ สิ่งนี้มีที่มาที่ไปนะครับ
วันนี้เราจะมาพูดถึงทฤษฎีที่เป็นเบื้องลึกเบื้องหลังของความอินดี้นี้กัน… ลุยยยย…
01.จุดเริ่มต้น…
ต้นเหตุของความเพี้ยนนี้ เริ่มที่ฝรั่งเศส โดยแรกเริ่มเดิมที ชื่อเก่าของ น้องเทนนิสเรามีชื่อว่า “Tenez” หรือ เตอเน่ และเก่าไปกว่านั้นคือ “Le Jeu Du Paume” (เจอเดอปูม) ซึ่งแปลว่า เกมของฝ่ามือ ซึ่งชื่อนี้ไม่ได้มีมาเล่นๆ เพราะสมัยก่อนเค้าใช้ฝ่ามือหวดลูกกันจริงๆ (อย่างดิบเลยลูกพี่…)
แต่พอน้อง”เตอเน่” ย้ายไปเข้าเมืองหลวงอย่างพี่อังกฤษ น้องจึงเปลี่ยนชื่อให้อินเตอร์นิดนึงเป็น “น้องเทนนิส” โดยสาเหตุที่ทำให้หลายๆคนเข้าใจผิดว่าต้นกำเนิดเทนนิสมาจาก อังกฤษ อาจเป็นเพราะว่ารายการแข่งขันที่เก่าแก่ที่สุดอย่าง Wimbledon นั่นเอง
และทำไมพี่ฝรั่งเศสแกมาก่อนแต่ไม่ดังหละ ?
ส่วนหนึ่งนั้นอาจจะมาจาก ช่วงสมัยก่อน เทนนิส เคยถูกแบนในฝรั่งเศส เพราะ ดันเป็นกีฬาที่ฮิตมากซะจนทำให้ คนในประเทศติดการพนันกันงอมแงม … สุดจริงๆ พี่ฝรั่งเศสเรา…
02. ความเป็นมาของ 15 หละ…?
สมัยก่อน การนับคะแนน ไม่ได้มีสกอร์บอร์ดขึ้นไฟสวยงามแบบปัจจุบัน เขาจะนับคะแนนตามรูปแบบของหน้าปัดนาฬิกา แบ่งคะแนนออกเป็น 4 ช่วง โดยเริ่มจาก 0 ที่ฝรั่งเศสเรียกว่า L'oeuf ที่แปลว่า ไข่ ต่อมาพี่อังกฤษเราลิ้นไก่สั้นจนแปลงมาเป็น คำว่า “Love” ที่แปลว่า รักนั่นเอง บางทีแอดก็งงนะว่า ต้องนานแค่ไหนนะถึงเปลี่ยนจากคำว่า “ไข่” เป็น “รัก”ได้…
ซึ่งถ้าแบ่งเป็น 4 ช่วงเท่าๆกันช่วงละ 15 ใครถึง 60 ก่อนชนะ การนับคะแนนก็ควรจะเป็นคือ 0-15-30-45-60(Game) ใช่ไหมหละ… แต่เดี๋ยวน้องเทนนิสเราอินดี้ไปมากกว่านั้น !!
03. แล้ว 40 มายังไงหละ…?
บังเอิญถ้ามันมีกติกาแค่ใครถึง 60 ก่อนชนะมันคงไม่สนุกเท่าไหร่นัก… คนคิดเกมจึงได้มีกฎอีกข้อขึ้นมาชื่อว่า “Deux” หรือ ปัจจุบันเรียกว่า “Deuce” ซึ่งหมายถึง “สอง”
แล้ว”สอง”นี่หมายถึงอะไรหละ…?
อ่อ… มันหมายถึงต้องชนะห่าง 2 แต้มจึงจะปิดเกมได้ ( คนคิดนี่ก็แอบโหดนิดๆนะเนี่ย…) ดังนั้นเขาจึงให้มี “คะแนนก่อนชนะ” ขึ้นระหว่าง 45-60 อีกตัวนึง ซึ่งถ้าจะกดจากเครื่องคิดเลขมาได้เป็น 52.5 คงจะพิลึกน่าดูใช่ไหม… เอ้า..! 52.5 – 45 (ฮา)
ด้วยเหตุนี้จึงเป็นที่มาของความอินดี้ ในการลด 45 ให้เป็น 40 แล้วเอาคะแนนก่อนชนะเป็น 50 เรียกสั้นๆว่า Adv.(Advantage) นั่นเอง…
ทีนี้ลำดับการนับคะแนนปัจจุบันจึงกลายเป็น 0 – 15 – 30 – 40 (Deuce) – 50 (Adv.) – 60 (Game)… [Mission Complete..!!]
เพิ่มเติม
สมัยก่อนจำนวนเกมในเทนนิสไม่ได้มีแค่ 6 เกมเหมือนในปัจจุบัน แต่สมัยก่อนต้องเล่นกันถึง 24 เกมกันเลยทีเดียว !! โอ้พระเจ้า นั่นมันโลกของ บิ๊กจอร์น หรือยังไงกัน !!
จนมาถึงปัจจุบัน จำนวนเกมในเทนนิสมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอๆ และขณะนี้ได้มีการทดลองเปลี่ยนเกมให้ใหม่ เหลือแค่ 4 เกม ต่อ เซต ในNext Gen ATP Finals แล้ว
ในส่วนตัวนั้น แอด คิดว่า 6 เกมกำลังดีนะ ไม่มากและไม่น้อยจนเกินไป มีโอกาสให้พลิกตัวแบบไม่ซึมเปื้อนกันในเกมได้ แต่ใครจะไปรู้หละ ในสังคมที่เร่งรีบแบบปัจจุบัน 6 เกมอาจจะเป็นเกมที่ยาวเกินไปก็ได้…
เพื่อนๆ คิดเห็นยังไงกับ การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ มาแชร์ความเห็นกันได้นะครับ บางทีเราอาจจะได้เจอมุมมองที่ดีของ เกมสี่ ก็เป็นได้… +w+
ปล. เรื่องที่แอดหยิบขึ้นมาเขียนนั้นเป็นเพียงหนึ่งในทฤษฎี ของ การนับคะแนน แบบอินดี้ของ น้องเทนนิสเท่านั้นนะครับ ส่วนความจริงนั้นยังไม่มีหลักฐานมายืนยัน และ ยังคงเป็นปริศนาอยู่ในปัจจุบัน… แต่อย่างไรก็ตามความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว… ไว้มีอะไรน่าสนใจมาอีก แอดจะคอยเอามาแชร์ให้นะครับ ขอบคุณครับ…
ปล2. ขอบคุณท่าน เขียนไปเรื่อยนะ ครับสำหรับไอเดียดีๆ ฝากติดตามเพจลูกพี่ผมด้วยนะครับ ^^
ติดตาม โพสเพิ่มเติม ได้ที่นี่เลยนะครับ
FB: Match Point -1995-
มีเพื่อนคอเดียวกันเยอะเลยครับ ^^
โฆษณา