28 ต.ค. 2019 เวลา 00:05 • ครอบครัว & เด็ก
คุณพ่อคุณแม่ที่ผมเคยคุยด้วยจำนวนมาก
มักคิดเหมือนๆ กันว่า พ่อแม่ คือคนที่รู้จักลูกดีที่สุดในโลก
เพียงแค่พ่อแม่เปิดใจรับฟังสิ่งที่ลูกพูด ก็เพียงพอแล้ว
แต่ในความเป็นจริง...
คุณพ่อคุณแม่กลุ่มเดียวกันครับ
คือคนที่บ่นกับผมว่า ... ทำไมลูกไม่ยอมเข้าใจพ่อแม่เสียที ไม่ว่าจะสอนอะไร พอขึ้นวัยรุ่นมา เหมือนกับว่าอยู่กันคนละโลก เหมือนกับว่าลูกไม่ต้องการพ่อแม่อีกแล้ว
พอลูกย่างเท้าเข้าวัยรุ่น ... จริงครับ ว่าเขาเหมือนจะเป็นคนใหม่
แต่ก็ไม่ใช่ว่าเขาไม่ได้ต้องการออกไปห่างๆ จากพ่อแม่
กลับกัน เขาต้องการให้พ่อแม่ "ฟัง" และ "ยอมรับ" เขามากกว่าเดิมด้วยซ้ำ
เราถูกฝึกมาให้คิด เราถูกสอนมาให้พูด
แต่ไม่ค่อยมีใครมาสอนเราเท่าไหร่
ว่าถ้าเราจะ #ฟัง ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เราต้องทำยังไง
มาครับ ParentCoach ขอเสนอ 5 วิธีสำหรับการเริ่มต้นง่ายๆ ที่จะทำให้คุณพ่อคุณแม่ได้ยินเสียงที่ไม่เคยได้ยินจากลูกวัยรุ่นครับ
1. อย่าทำอย่างอื่นไปด้วยเวลาคุยกัน
เวลาคุยกับลูก มีใครดูทีวีหรือเล่นมือถือไปด้วยไหมครับ?
การที่เราทำอย่างอื่นไปด้วย มันส่งผลกระทบอย่างหนักสองอย่าง
หนึ่ง คือ การที่เราแบ่งสมาธิไปทำอย่างอื่น
มันทำให้เรารับสารจากลูกได้น้อยลง อาจจะไม่ถึงครึ่งด้วยซ้ำ เพราะเราจะรับได้แค่ "คำ" ที่เขาพูด แต่ความรู้สึก อารมณ์ สีหน้า ท่าทาง ฯลฯ มันจะพลาด ... และคือพลาดแล้วพลาดเลยนะครับ
คือหมดโอกาสแล้ว
สอง คือ จะทำให้ลูกไม่อยากคุยกับเรา
ไม่มีใครอยากคุยหรือเล่ากับคนที่ไม่ได้สนใจเราหรอก
อย่าว่าแต่ลูกเลย เวลาเราจะสอนหรือจะคุยอะไรจริงจังกับลูก
แล้วเขานั่งไถมือถือ ... เรารู้สึกอย่างไรล่ะครับ จริงไหม?
2. สบตาลูกเสมอ
ดวงตาคือหน้าต่างของหัวใจ เป็นคำพูดที่ไม่เคยล้าสมัย และเวลาพูดคุยกัน ไม่มีอะไรที่ทำได้ง่ายและทรงพลังที่สุด ที่จะบอกเขาว่า "พ่อ/แม่สนใจฟังลูกอยู่นะ" ได้มากไปกว่าการสบตาเขาตลอดเวลาที่เขาพูดอีกแล้ว
ถ้าไม่ได้ทำอย่างอื่น ก็หัดสบตาเขาไปด้วย ยิ้มให้กำลังใจเวลาพูดคุยกัน ไม่ใช่มองเลยไปที่เพดานข้างหลังแล้วนึกว่าเย็นนี้กินอะไรดีครับ
3. ไม่ขัดจังหวะ
เชื่อไหมว่างานวิจัยบอกว่า พ่อแม่มักจะทนลูกพูดนานๆ ไม่ได้ เมื่อลูกพูดไปสักพักหนึ่ง พ่อแม่จะต้องขัดจังหวะขึ้นมาเสมอ
ไม่ว่าจะเป็นการขัดจังหวะที่ไม่ค่อยจะดีนัก หรือจะขัดจังหวะด้วยเจตนาดีก็ตาม เช่น จะสอน หรือจะชี้แนะบางอย่าง
พอเดาได้ไหมครับว่าค่าเฉลี่ยจากงานวิจัย
พ่อแม่สามารถฟังลูกโดยที่ไม่ขัดจังหวะได้นานเท่าไหร่ ?
10 นาที?
5 นาที?
1 นาที?
ผิดหมดครับ ...
ค่าเฉลี่ยของพ่อแม่กลุ่มตัวอย่าง สามารถทนฟังลูกได้แค่ 17 วินาทีเท่านั้น
17 วินาที ... อย่าว่าแต่ต้มมาม่าไม่ทันสุกเลย ฉีกซองใส่น้ำร้อนจะเสร็จรึเปล่าก็ไม่รู้
ถ้าอยากจะสอนอะไรเวลาลูกเล่าอะไรให้ฟัง
กัดลิ้นไว้ครับ กัดลิ้นตัวเองไว้
จดโน้ตไว้ในใจก่อนก็ยังไม่สาย
รอลูกเล่าให้จบก่อนแล้วค่อยคุยกันนะ
เค้าไม่หนีไปไหนหรอก
แต่ถ้าเราขัดจังหวะเค้าบ่อยๆ
เค้าน่าจะหนีเราไปคุยกับเพื่อนแทนนะ
4. หัดสังเกตภาษากายของลูกบ้าง
เสียงที่ฟังได้ยากที่สุดคือเสียงที่ไร้สำเนียง แต่ก็ไม่ยากเกินไปถ้าเรารู้จักสังเกต
ข้อนี้ผมไม่พูดอะไรมาก
เพราะคุณพ่อคุณแม่ คือ คนที่รู้จักเขาดีที่สุดอยู่แล้ว
เรารู้อยู่แล้วว่าถ้าเขาเกาหัวเวลาพูด หมายถึงอะไร หรือเวลาที่เขาไม่สบตาแต่มองซ้ายมองขา เขาต้องการไปไหน ถ้าเขานั่งนิ่งมองต่ำเวลาเราสอน เขาสบายใจมั้ย
สายตา ท่าทาง การถอนหายใจ ระดับความผ่อนคลาย ทุกสิ่งทุกอย่างมันมีความหมายของมัน ลองมอง แล้วให้ความสำคัญกับมัน เราอาจจะได้ยินอะไรดีๆ ที่ลูกไม่เคยบอกเราก็ได้ครับ
5. ถามความรู้สึกของเขา
ไม่มีอะไรที่ทำให้คนเราอยากพูดมากขึ้น ได้มากไปกว่าความรู้สึกว่า คนที่เรากำลังพูดด้วยนั้นเขาคือคนที่ "เข้าใจเรา"
ถ้าพ่อแม่เข้าใจเรา เราก็อยากเล่าทุกเรื่องให้เขาฟัง
ถ้าเพื่อนเข้าใจเรา เราก็อยากแชร์ทุกอย่างกับมัน
แต่เวลาที่เราคุยกัน
พ่อแม่มักไม่ค่อยสนใจว่าจริงๆ ลูกรู้สึกอย่างไร
แต่จะกระโดดไปหาหนทางที่จะแก้ปัญหาทันที
เพราะเราเห็นทางออกอยู่ตรงหน้าอยู่แล้ว
ลองถามเขาครับ
ที่ลูกไม่อยากไปโรงเรียนเพราะลูกอึดอัดอะไรใช่มั้ย?
ที่หนูไม่มาคุยกับพ่อว่าเงินหมดแล้วเพราะหนูกลัวพ่อว่าใช่มั้ย?
ที่หนูบอกว่าจะเลิกคบน้องฟ้า เพราะหนูน้อยใจเขาใช่มั้ย?
ลองโฟกัสไปที่การพยายามเข้าใจความรู้สึกของเขา
ไม่ว่าเราจะเข้าใจถูกหรือเข้าใจผิด
เขาก็จะอยากแชร์ความรู้สึกกับเรามากขึ้น
และจะทำให้เราเข้าใจกันมากขึ้นในที่สุดครับ
#สอนลูกวัยรุ่น #ครูโบ๊ท #ParentCoach
#มองข้ามปัญหาเป็นเห็นทางออก
โฆษณา