29 ต.ค. 2019 เวลา 12:21 • ความคิดเห็น
สตาร์ทอัพสายเกษตร ก็เซ็กซี่ได้
อย่างที่เราทราบว่าโลกกำลังเผชิญภาวะประชากรล้นโลก แต่สวนทางกับทรัพยากรที่ลดลงเรื่อยๆ ทุกวัน ซึ่งตอนที่แล้วเราได้ทำความรู้จักกับสตาร์ทอัพกลุ่ม “เนื้อจากพืช” หรือ Plant-Based Meat กันไปแล้ว
1
ส่วนวันนี้แอดมินขอเล่าเรื่องบริษัทสตาร์ทอัพสายเกษตร (Agricultural Tech) ว่าบริษัทเหล่านี้จะน่าสนใจหรือไม่ อย่างไร และธุรกิจการเกษตรจะเซ็กซี่ได้หรือไม่?
และที่น่าติดตามกว่านั้นก็คือ มีสตาร์ทอัพของคนไทย ที่จะก้าวไปแข่งขันเคียงบ่าเคียงใหล่สตาร์ทอัพระดับโลกได้บ้างหรือไม่??
หากพร้อมแล้ว เราไปติดตามกันเลย
1) สตาร์ทอัพสายเกษตร (AgTech) มันคืออะไร ฟังแล้วมันไม่ค่อยเซ็กซี่…
เราคงคุ้นหูกับบริษัทอย่าง Uber, Grab, Netflix, Airbnb หรือแม้แต่ Shopee ที่สามารถยึดครองความสนใจของคน เข้ามาอยู่ในชีวิตประจำวันของเรา
แต่สำหรับเหล่าสตาร์ทอัพสายเกษตร ที่ตั้งขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนอาหาร ให้โลกใบนี้ดำรงต่อไปได้ (เพราะเรามีโลกแค่ใบเดียว และคนก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ) อาจดูไกลตัวเรานิดนึง แต่จริงๆ แล้วก็มีสตาร์ทอัพสายเกษตรที่ก้าวขึ้นเป็นยูนิคอร์น (Unicorn) หรือมีมูลค่ากิจการมากกว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐกัน หลายบริษัทนะ แต่บริษัทที่ดู "โดดเด่นที่สุด" ในสายเกษตรนี้ก็คือ สตาร์ทอัพที่ชื่อว่า “Indigo Ag”
ที่บอกว่าโดดเด่นก็เพราะว่าบริษัท Indigo Ag ติดอันดับที่ 1 จาก 50 บริษัทสตาร์ทอัพ ที่กำลังทำลายล้างวงการต่างๆ จากการจัดลำดับของสำนักข่าว CNBC โดย Indigo Ag อยู่เหนือ บริษัทอย่าง Didi Chuxing (Uber เวอร์ชันจีน), Grab, Airbnb, Coursera (แพลตฟอร์มสอนหนังสือออนไลน์) หรือแม้กระทั่ง Impossible food (เนื้อเทียมจากพืช)
Indigo Ag #1 of Top 50 Disruptors 2019 Cr.CNBC
2) Indigo Ag ทำอะไร?
Indigo Ag เริ่มต้นจากการ “ผลิตสารบำรุงเมล็ดพันธุ์พืชที่ทำจากจุลินทรีย์ที่เป็นมิตรกับพืช ลดต้นทุนปุ๋ยและยาฆ่าแมลง” ถึงแม้จะฟังดูน่าเบื่อมากๆ แต่บริษัทก็ได้เรียนรู้ว่าการปลูกพืชนั้นไม่ใช้เพียงแค่สารบำรุงพันธุ์ จึงทำการปรับกลยทุธ์ธุรกิจขยายขอบเขตการให้บริการ จนปัจจุบันเรียนได้ว่าแทบจะครบวงจร เริ่มต้นจากเมล็ดพันธุ์, การเกษตรแม่นยำ (Precision ag technologies), การเก็บรักษา, และการขนส่ง นอกจากนี้ยังเป็นตัวกลางค้าขายระหว่างชาวนา พ่อค้า และผู้บริโภคด้วย
Indigo Marketplace Cr. Indigo
ซึ่งบริษัท Indigo Ag ปัจจุบันมีอายุบริษัทเพียง 4 ขวบ แต่มีมูลค่ากิจการสูงถึง 3.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ปัจจุบันบริษัทมีลูกค้าเป็นเกษตรกร 5,000 ราย มีพื้นที่เพาะปลูกรวมกันกว่า 2.5 ล้านไร่และตั้งเป้าจะเพิ่มเป็น 25,000 ราย ครอบคลุม 10 ล้านไร่ ทั้งในอเมริกา อาร์เจนตินา บราซิล ออสเตรเลีย และอินเดีย และคาดว่าจะมีรายได้ 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปีนี้
พัฒนาการเกษตรด่วนเทคโนโลยี Cr.Indigo
แนวคิดสำคัญที่ Indigo Ag ใช้ก็คือ ผลผลิตจากแต่ละไร่ มีสารอาหารต่างๆ ไม่เท่ากัน Indigo Ag จึงพยายามเป็นตัวกลางที่จะช่วยเพิ่มคุณภาพของผลผลิตโดยหลีกเลี่ยงสารเคมีอันตราย รวมไปถึงการกำหนดราคาขายให้เหมาะสม ให้ชาวนาอยู่ได้ ซึ่งแนวทางดังกล่าว ก็ตอบโจทย์ผู้บริโภคอย่างเราๆ ที่อยากกินพืชผักที่สะอาดปลอดภัย และไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม!!
3) สตาร์ทอัพคนไทย ก็ไม่กระจอกนะครับ
ไทยเราก็มีสตาร์ทอัพสายเกษตรที่โดดเด่นระดับโลกเหมือนกัน โดยบริษัทสตาร์ทอัพนั้นก็คือ Ricult (รีคัลท์) ซึ่งหนึ่งในผู้ก่อตั้งก็คือ คุณเอิร์น-อุกฤษ อุณหเลขกะ ที่ทิ้งงานการเงินเดือนระดับสองแสนบาท ในอเมริกา ร่วมกับเพื่อนอีก 4 คน จากสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ หรือ MIT มาทำสตาร์ทอัพด้านการเกษตร ปัจจุบันมีลูกค้าอยู่ที่ไทย และปากีสถาน
1
Ricult (รีคัลท์) ได้นำระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ Machine Learning มาใช้ในการพยากรณ์อากาศล่วงหน้าได้นานถึง 9 เดือน เพื่อช่วยเกษตรกรสามารถเตรียมการเพาะปลูกได้ล่วงหน้า และยังสามารถแนะนำการเพาะปลูกโดยเทียบข้อมูลการผลิตในอดีต ช่วยเพิ่มรายได้ของเกษตรกรมากกว่า 50%
มูลนิธิบิลล์เกตส์ให้เงินทุน Ricult 83 ล้านบาท Cr. The Standard
นอกจากนี้การที่มีข้อมูลการผลผลิตยังช่วยให้ผู้เกี่ยวข้องในกระบวนการเพาะปลูกทั้ง สถาบันการเงิน โรงงานที่รับซื้อผลผลิต หรือบริษัทประกันภัย สามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลได้ ซึ่งเป็นช่องทางในการหารายได้ของ Ricult (รีคัลท์) นั่นเอง
1
Cr. Ricult
4) ไม่ใช่แค่ Ricult!
ยังมีสตาร์ทอัพสัญชาติ (เชื้อชาติ) ไทย อีกหลายราย เราไปดูตัวอย่างดีๆ กัน
เริ่มต้นที่ บริษัท Evergrow ที่ใช้เทคโนโลยีควบคุมอากาศ ความชื้น แสงแดด น้ำ แก๊สต่างๆ และระบบน้ำ สำหรับการปลูกพืชในโรงเรือนแบบปิด หรือจะปลูกผักในตู้คอนเทนเนอร์ควบคุมผ่านระบบคลาวด์ก็ได้เหมือนกัน
Evergrow เส้นทางเศรษฐี
หรือหากต้องการเช่ารถแทรกเตอร์ก็ทดลองเรียกใช้บริการโดยใช้ แอปพลิเคชัน GetzTrac (เก็ทแทรค) ได้
แอพเรียกรถเกี่ยวข้าว ยังกับเรียก Grab!! Cr. Getztrac
ส่วนเกษตรกรผู้เลี้ยงวัวก็มีบริการดีๆ เหมือนกันนะ ชื่อว่า "โคคูณ" (Cocoon) เป็นระบบจัดการแอพการจัดการฟาร์มโคนม ใช้เก็บทะเบียนประวัติวัว, บริหารจัดการฟาร์ม, หรือซื้อประกันได้ในแอพเลย
วัวก็ทันสมัยได้นะ พวกเราวัว 4.0 จ้า Cr. โคคูณ
จะเห็นได้ว่าเรื่องเทคโนโลยี นับวันยิ่งเข้ามามีผลกระทบต่อชีวิตเรามากขึ้นเรื่อยๆ โดยปัจจุบันก็ไม่ได้แข่งกันแค่เทคโนโลยีดิจิตอลอย่างพวกแอพลิเคชั่นต่างๆ เท่านั้น แต่ยังมีการประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์และการคำนวณขั้นสูง เข้ามาช่วยแก้ปัญหาใหญ่ๆ ของโลกใบนี้
ซึ่งเราก็คงนิ่งนอนใจไม่ได้ ต้องคอยเปิดหูเปิดตา ติดตามข่าวสาร เพื่อที่จะใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเหล่านั้น และช่วยในการเตรียมตัวรับมือกับการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีได้ทันท่วงที…
💡ไม่อยากพลาดข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับการค้าระหว่างประเทศ และกลยุทธ์ทางธุรกิจ
กด  ติดตาม "นำเข้าส่งออก สุดขอบฟ้า"
และสำหรับผู้นำเข้าส่งออก เชิญเข้าร่วมกลุ่มเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ หาช่องทางนำเข้าส่งออก และข้อมูลที่สำคัญเกี่ยวกับการนำเข้าส่งออก ได้ที่

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา