31 ต.ค. 2019 เวลา 00:57 • ความคิดเห็น
ถึงจะชนะแต่ก็ยังแพ้!!!!
ยอมถอย!!!
cr : Pixabay.com
"เรื่องของความถูกต้อง" ที่อาจจะนำความทุกข์ใจและความเดือดร้อนมาให้กับ "เรื่องของความไม่ถูกต้อง" แต่นำความสุขและความสบายใจให้ท่าน
เพื่อนๆจะเลือกทางเดินของเพื่อนกันแบบไหน…อ่านให้จบจะกระจ่าง!!!!!
เมื่อเดือนที่แล้วผมขับรถพาครอบครัวไปห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งเพื่อรับประทานอาหาร ผมเลี้ยวรถตามทางลูกศรเข้าไปในที่จอดรถ โชคดีที่มีรถกำลังจะออกจากช่องจอดพอดี ผมจึงกดไฟกระพริบรอจอดแทนรถคันที่กำลังจะออก
ทันใดนั้นเอง ได้มีรถอีกคันหนึ่งขับย้อนศรผิดทางเข้ามากดไฟกระพริบรออยู่เช่นกัน ครอบครัวเราได้คุยกันในรถว่าที่จอดรถนี้ ควรเป็นที่จอดของเราเพราะคันที่ขับย้อนศรเป็นฝ่ายผิด
ในจังหวะที่รถคันที่จอดได้ออกจากซอง ผมจึงขับรถเคลื่อนไปข้างหน้าแล้วถอยเข้าเพื่อจะจอด รถที่ย้อนศรมาได้กดกระจกลงพร้อมมีสีหน้าที่โกรธ ลูกผมบอกกับผมว่า "พวกเราขับมาถูกทาง...จอดได้เลย"!!!
cr : Pixabay.com
ผมถอยเข้าไปจอดได้ครึ่งคันแล้ว แต่ตัดสินใจขับรถออกมา แล้วยกที่จอดนั้นให้กับรถคันที่ขับย้อนศรมา!!!
ผมขับวนหาที่จอดใหม่กันอีกไม่กี่นาทีก็ได้ที่จอด ใกล้ประตูทางเข้าห้างฯที่ดีกว่าที่จอดอันแรก แล้วครอบครัวผมก็ลงไปทานข้าวกันอย่างมีความสุข
เรื่องที่เขียนมาไม่ได้ต้องการจะบอกว่า เพื่อนๆควรจะตัดสินใจอย่างไรถ้าเกิดเรื่องประเภทนี้กับเพื่อน รวมทั้งไม่ได้ต้องการให้คิดว่าใครถูกหรือใครผิด
ผมเพียงอยากบอกว่าการไม่จอดรถ ณ ตำแหน่งแรกนั้น ทำให้วันนั้นของผมดำเนินต่อไปอย่างราบรื่นมากกว่าการยืนยันในความถูกต้องของตัวเองที่ขับรถมาถูกทางตามเส้นทางที่มีลูกศรชี้บอกแล้วเข้าไปจอดรถผมสอนลูกว่า..ยอมถอย
เพราะในชีวิตของพวกเรา มักจะมีเรื่องเล็กและเรื่องใหญ่ เกิดขึ้นมากมายหลายเรื่อง ผมไม่เห็นว่าเราจะต้องทำทุกเรื่องในชีวิตนั้นให้กลายเป็นเรื่องใหญ่ในทุกเรื่อง!!!
ไม่เฉพาะเรื่องที่จอดรถ, ในชีวิตเรามีเรื่องมากมาย ที่พอไปถึงจุดๆหนึ่งแล้วเราจะต้องจ้องมองหน้ากันทั้งสองฝ่าย
ด้านหนึ่ง…ถือความถูกต้องอย่างหนึ่ง …อีกฝ่าย…ก็ถือความถูกต้องของตัวเอง
เรื่องบางอย่างไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย …แต่ด้วยทิฐิและ อัตตาของตนว่า "ฉันถูก-แกผิด" จะทำให้เรื่องนั้นๆ กลายเป็นเรื่องใหญ่โตจนยอมกันไม่ได้ อาจจะนำไปสู่ฝ่ายหนึ่ง อาจเสียชีวิตหรือบาดเจ็บ ส่วนอีกฝ่ายอาจติดคุกก็เป็นไปได้!!!
cr : Th.pngtree.com
หากวันนั้นผมถอยรถเข้าไปจอดตามที่ตอนแรกคิดว่าถูกต้องผมอาจจะมีความรู้สึกดีที่ได้ยืนยันความถูกต้องของตัวเอง อาจจะสะใจที่เป็นฝ่ายชนะ แต่ถ้าเจ้าของรถคันที่ขับย้อนศรนั้นหันหน้ามาทะเลาะวิวาท หรือ ไปหาที่จอดอื่นแล้วมาขูดรถผมให้เสียหายภายหลัง เมื่อผมกลับมาเห็นก็คงอารมณ์เสียไปหลายวัน
ในระหว่างที่ทานข้าวกันอย่างเอร็ดอร่อยและเบิกบาน ผมคิดในใจว่า เจ้าของรถคันที่ผิดนั้นได้มาเป็นอาจารย์ เพื่อสอน "วิชายอมถอย" ซึ่งผมสามารถนำไปใช้ได้ในอีกหลายเรื่อง หลายสถานการณ์ในอนาคต
บางสถานการณ์ เราอาจจะเป็นฝ่ายถูก แต่เราไม่ต้องชนะก็ได้ ถ้าทำเช่นนั้นได้แล้วเราจะสบายใจกว่า โดยเฉพาะในเรื่องที่ไม่รู้จะเอาชนะกันไปทำไม!!!! "ถึงจะชนะแต่ก็ยังแพ้อยู่ดี"
หากต้องเลือกระหว่าง "ความถูกต้อง" กับ "ความสบายใจ" ผมขอเลือกอย่างหลังเพราะเป็นการช่วยฝึกความมีเมตตาและการฝึกจิตเพื่อหยุด "ความโกรธ" ของผมไปในตัว
การทานข้าวแบบบูดบึ้ง…แบบมีความกังวลใจว่า รถเราจะถูกใครกลั่นแกล้งไหม แม้เราจะเป็นฝ่ายถูกแต่อาหารคงเสียอรรถรสแน่ อีกทั้ง "ความโกรธ" ก็อาจติดค้างในใจเราต่อไปอีกก็ได้
การที่เรายอมถอย เพื่อความสบายใจที่จะได้ไม่ต้องมี "เรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง" มาทำให้เรากังวลใจ อีกทั้งยังถือว่า เราได้ทำบุญให้แก่ผู้อื่น ด้วยการสละที่จอดรถของเราให้คนอื่นไป แล้ว เราก็ได้ทานข้าวอย่างเบิกบานใจย่อมดีกว่าแน่นอน
บางที เพื่อจะได้มีความสุข ไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องชนะเสมอไป และบ่อยครั้งมิใช่หรือที่ชัยชนะนั้นเองได้นำเอาความทุกข์และความเดือดร้อนตามมา -- "ถึงจะชนะแต่ก็ยังแพ้"!!!
โชคดีที่ได้เขียนครับ
KATO
31/10/2562
โฆษณา