29 ต.ค. 2019 เวลา 13:59 • ธุรกิจ
Etsy !?
หลายคนอาจจะรู้จักมาสักพักใหญ่แล้ว หรือหลายคนเพิ่งรู้จัก (เหมือนผม)
หรือ ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย !
เอาล่ะ วันนี้ผมจะมาโม้อะไรให้ฟังกันสักหน่อย
อย่างที่รู้ๆ กัน ผมเพิ่งจบใหม่ แต่ยังตกงานอยู่ พูดแล้วเศร้าแปบ T^T
ก็เลยอยากหาของขาย แต่ขายในไทยก็ไม่พอยาไส้ เลยอยากจะขายต่างประเทศ
ซึ่งมันได้เงินเยอะกว่าเมื่อเทียบกับขายในไทย แล้วจะขายที่ไหนดีล่ะ ?
1
ที่ลูกค้ามีเยอะ การแข่งขันน้อย
Amazon เหรอ ? Ebay เหรอ ?
ขอตอบเลยว่าไม่ครับ !!! (แต่ไม่ได้ว่าสองที่นี้ไม่ดีนะ)
สอง market place นี้ เป็นตลาดที่ใหญ่มาก
ขนาดของตลาดแปรผันตรงกับโอกาสใช่ไหมครับ ? แต่อย่าลืมคู่แข่งก็เยอะเช่นเดียวกัน
โอเคครับ เกริ่นกันมาพอสมควรแล้ว ผมอยากให้ชาวบล็อคดิดได้รู้ว่ายังมีอีกตลาดหนึ่งรอออยู่ครับ (แม้ตอนนี้จะเรียกได้ว่า ตลาดเกือบวาย ไปแล้ว 55)
ตลาดที่ว่าก็คือ " Etsy " อ่านว่า " เอสซี่ " ครับ
หน้าตาโลโก้ก็ประมาณนี้ครับ
สรุปให้สั้นๆ เลยนะครับ
มันคือ market place online of handmade
หรือ ตลาดขายของแฮนด์เมดออนไลน์ ที่ใหญ่ที่สุด ! (แต่จริงๆ มีอีกเจ้านะครับ 5555 อวยไปก่อน)
นั่นแหละครับ ผมไปส่องมา ราคาถือว่าน่าคบมากในส่วนของผู้ขาย (ไทย) และผู้ซื้อ (ต่างชาติ) มากครับ
ด้วยราคาที่เราสามารถเลี้ยงครอบครัวได้ ! ถ้าเราขยันทำขาย แล้วมีคนซื้อนะครับ
จากประสบการณ์ของผมเอง มีสามี-ภรรยา คู่นึงขายกระเป๋าหนัง ทำกันเองสองคน ส่งขายในเว็บนี้แหละครับ
1
ให้ทายได้เดือนละเท่าไหร่ ?
ติ๊กต๊อก ๆ ๆ ๆ
เฉลย !!!
300,000 - 400,000 บาท/เดือน
ใช่ครับ ตาไม่ฝาดหรอกครับ 3-4 แสน สองคนผัวเมีย ใช้กันทำกระเป๋า
แต่ผมสงสารเขานะครับ ทำจนไม่ได้พักเลย (จะสงสารหรืออิจฉาดี 55)
ผมเลยอยากไปทำกระเป๋าหนังพักนึงเลยครับ 55555 แต่อุปกรณ์แพงมาก
แล้วผมก็ไปศึกษา Dropship มาพักนึง (ที่หายไปนี่แหละครับ) หมดไปหลายพัน หลายหมื่นละ ยังไม่ได้สักออเดอร์
เลยกลับมาที่ Etsy นี่แหละครับผมมม
โอเค นอกเรื่องตลอก เรามาดูกันดีกว่า ว่าทำไมผมถึงเลือก Etsy !
1. Etsy มีต้นทุนต่ำสุด ในด้านค่าธรรมเนียม
ในด้านค่าคอม (ค่าที่หักเราไปหลังจากขายของได้)
ถ้าเทียบกับพวก Amazon (15%) กับ Ebay (12-13%)
1
แต่ Etsy 3.5% แต่มีค่าโพสต์ listing 0.20 /1 รายการ อยู่ได้ 4 เดือน
และไม่มีค่าเปิด Store !
คือเจ้าใหญ่คิดค่าบริการที่เราเปิดร้าน เหมือนเราไปเช่าแผงตลาดอ่ะ
ประมาณนั้นนนน
แต่ Etsy มี fee ของ paypal อีก 4% สรุปรวมๆ แล้วต้องเสียงค่าธรรมเนียม ประมาณ 7-8%
2. ใช้งานง่าย
คนอเมริกาทำโพยกับพวก Seller (คนขาย) พบว่า Etsy ติด top 3 มาตลอดทุกปีตั้งแต่เปิดให้บริการ
และมีระบบจัดการหลังร้านที่ง่าย ดี เวรี่กู้ด !!!!
3. ทำงานสบายไม่กดดัน
พวกตลาด Amazon กับ Ebay จะมีการวัด performance
เหมือนเราทำงานโรงงานแหละครับ ประเมินผลว่าเราทำงานดีแค่ไหน
โดยดูกันจาก standard or defect rate !
พวกเว็บใหญ่ๆ อ่ะนะ เหมือนต้องการให้ร้านเป็น 4 - 5 ดาว นั่นแหละครับผม
แต่ Etsy ถ้าเราโดนรีวิวไม่ดีเยอะ ๆ กระทบแค่หมดลูกค้า แต่ร้านยังปลอดภัย ส่วนพวกร้านใหญ่ถ้าผลออกมาไม่ดี เตรียมตัวหยุดขายได้เลย !
1
ปล. ต้องขายแฮนด์เมดจริงๆ นะ แต่แอบโกรธ เห็นบางคนยังเอารูปจาก Aliexpress มาลงหน้าตาเฉย ระวังโดนแบนถาวรนะคร้าบบบบ
4. ใช้ Social Media ได้ทุกสถาบัน
พวกขาใหญ่ (Amazon ,Ebay) ห้ามให้ข้อมูลส่วนตัวทุกรูปแบบ
1
เหมือนเขาต้องการให้คนซื้อดูจากในเว็บ หรือพวก google shopping อะไรประมาณนั้น เพื่อเกิดการซื้อขายในเว็บ
แต่ Etsy ได้หมดเต็มที่ !! เพราะขาใหญ่กลัวจะไม่ได้ค่าคอม (เกิด deal นอกเว็บ)
5. Etsy อนุญาตให้โฆษณาใน google shopping ได้ และทำ SEO ให้อยู่ในหน้าแรกง่ายขึ้น
ในไทยยังไม่มีบริการ gg.shop (ขอย่อนะครับ 55) หลายคนอาจจะงงว่ามันคืออะไร
คือเหมือนเรายิงแอดในเฟสแหละครับ แต่อันนี้ใน google แทน แค่นั้นแหละครับ
ผมเคยใช้ ถามได้นะคร้าบบบบ
ส่วน SEO ก็ดีกับเรา สมมติผมขายกระเป๋าเปลือกหอย ถ้ามีคนค้นหา กระเป๋า + เปลือหอย
ผมมีโอกาสที่จะขึ้นหน้าแรกของ google ได้
นั่นหมายความว่าผมมีโอกาสขายของได้มากขึ้นนั่นเอง
แต่ขาใหญ่ไม่น่าจะได้นะครับ ส่วนใหญ่จะเป็นในรูป gg.shop (เท่าที่เห็นนะครับ)
ผมเอาสาระมาจาก Pantae x Letterplanet (youtube channel) นะครับ บวกกับประสบการณ์ตรงของผมเองด้วยนะครับ
ตอนนี้ผมกำลังเริ่ม แบบกำลังเริ่มจริงๆ ครับ
ใครสนใจสอบถามเพิ่มเติมได้นะครับ ถ้าผมรู้ก็จะตอบให้ครับ
บทความนี้ยังไม่จบนะครับ ต่ออีก 5 ข้อที่เหลือในบมความหน้านะครับ
ขอบคุณที่ติดตามครับผม ช่วงนี้ยุ่งจริงๆ ครับ แฮ่ๆ
โฆษณา