30 ต.ค. 2019 เวลา 15:00 • ธุรกิจ
ชานมไข่มุก กระแส แฟชั่น หรือของจริง
บังเอิญอ่านเจอข่าว Gong Cha ร้านชานมไข่มุกเจ้าประจำ ที่เปิดสาขาในเมือง San Mateo แคลิฟอร์เนีย เคยไปกินตอนไปเที่ยวครับ มีอยู่ไม่กี่ร้านให้เลือก
3
ปีนี้ Gong Cha ถูกเปลี่ยนมือเจ้าของไป 2 รอบในระยะเวลาไม่กี่เดือน ด้วยความสงสัยอยากรู้เลยหารายละเอียดอ่านเพิ่มเติม แล้วเอามาเล่าอีกที
Goncha เป็นร้านชานมไข่มุกที่มีต้นกำเนิดที่ประเทศไต้หวัน เปิดมาตั้งแต่ปี 2006 และขยายธุรกิจไปฮ่องกงในอีก 2 ปีต่อมา พร้อมสาขาที่เปิดเป็น 40 สาขา ตามห้างและสถานีรถไฟ ก่อนที่จะทะยอยปิดตัวเหลือเพียง 5 สาขา เพราะเจอข่าวฉาวในไต้หวันว่ามีสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ เจือปนอยู่ในเครื่องดื่มประเภทนี้
สุดท้าย ไม่มีการตรวจพบสารต่างๆเหล่านี้ในผลิตภัณฑ์ของ Gong Cha เลย เรียกว่า ถูกร่างแหซะจนแบรนด์ย่อยยับในพริบตา
กว่าจะกู้ภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นในตัวลูกค้าได้ ใช้เวลาอยู่หลายเดือน
ปี 2009 Mr.Rodney Tang ชาวสิงคโปร์ ได้ซื้อสิทธิ์ในการทำแฟรนไชส์แบรนด์ Gong Cha มาใช้ในสิงคโปร์ และขยายสาขาไปทั่วทั้งเกาะกว่า 80 สาขา สร้างรายได้ให้ Rodney ปีละกว่า 1,000 ล้านบาท เมื่อปี 2017
จนกระทั่งสิ้นปี สัญญาแฟรนไชส์สิ้นสุดลง Rodney ตัดสินใจไม่ต่อสัญญา เมื่อพบว่า ผู้ขายแฟรนไชส์ให้เค้า คือ บริษัท Royal Tea Taiwan ได้ขายหุ้นทั้งหมด ให้กับบริษัท Gong Cha Korea ซึ่งมีเจ้าของ คือ Unison Capital
เมื่อเจ้าของแฟรนไชส์ กลายเป็นคนที่เค้าไม่รู้จัก Rodney จึงตัดสินใจ เปลี่ยน Gong Cha ทุกสาขาในสิงคโปร์ ให้เป็นแบรนด์ใหม่ชื่อ LiHo แทน
ส่วน Gong Cha ที่สิงคโปร์ ก็ได้บริษัทแม่ ที่มีเจ้าของใหม่สายเลือดเกาหลี เข้ามาดำเนินธุรกิจต่อ
จากไต้หวัน กลายเป็นบริษัทเกาหลี และจบที่อเมริกัน
เมื่อปี 2014 บริษัท Unison Capital ซึ่งเป็นบริษัทบริหารกองทุน Private Equity สัญชาติเกาหลี มองเห็นศักยภาพของร้านชานมไข่มุกของไต้หวันชื่อ Gong Cha ซึ่งเปิดอยู่หลายสาขาในเกาหลี เลยตัดสินใจขอซื้อสาขาทั้งหมดเฉพาะในเกาหลีอย่างเดียว และได้เข้าบริหาร ทำการขยายจาก 227 สาขา เป็น 448 สาขา
ต่อมาในปี 2017 Unison Capital ในฐานะเจ้าของ Gong Cha เกาหลี ก็ขอซื้อ Gong Cha ในประเทศอื่นๆด้วย รวมถึง Royal Tea Taiwan เจ้าของแบรนด์ Gong Cha ด้วย
จากนั้นจึงทำการอัดฉีดเงินเพิ่มเข้าไป จนขยายธุรกิจไปกว่า 17 ประเทศ มีสาขามากกว่า 1,000 สาขา
จนกระทั่ง เมื่อเดือนเมษายน 2019 Unison Capital ก็ขายบริษัท Gong Cha ทั้งหมดให้กับบริษัทบริหารกองทุน Private Equity สัญชาติอเมริกัน ชื่อว่า TA Associates โดยได้กำไรไป 5 เท่า ด้วยมูลค่ากิจการประมาณ 300-440 ล้านดอลลาร์
Gong Cha ชานมไข่มุกไต้หวัน ได้เปลี่ยนสัญชาติอีกครั้ง ครั้งนี้กลายเป็นฝรั่งอเมริกันเต็มตัว
แผนของ Gong Cha ครั้งนี้ เตรียมที่จะขยายไปยังตะวันออกกลางและละตินอเมริกา
ตัวเลขที่น่าสนใจของธุรกิจ Gong Cha มี Cash Flow ดีมาก และมี EBITDA อยู่ที่ประมาณ 25% (เทียบกับ Starbucks ~ 21% และ KOI ~23%)
ถึงแม้จะขยายธุรกิจด้วยรูปแบบ franchise จนมีสาขามากมายนับพัน
แต่รายได้หลักกว่า 70% มาจากร้านที่ Gong Cha บริหารและเป็นเจ้าของเอง
(ใครทำธุรกิจ คุณจะขยาย เติบโตเร็ว ถ้าทำในรูปแบบแฟรนไชส์ แต่ถ้าขยายเร็วด้วยและรวยด้วย ต้องเป็นเจ้าของเองครับ)
ด้วย Operation ที่ดี มี Unit Price ที่สูงกว่าคู่แข่ง ในขณะที่ขนาดของร้านก็เล็กกว่า
ทำให้ปี 2019 นี้ EBITDA ของ Gong Cha จะพุ่งไปถึง 40%
คร่าวๆ ก็คือ 2 เท่าของ Starbucks
และไม่ใช่แค่ EBITDA ที่ดีกว่า แต่ Gong Cha ยังมี Cash Conversion Ratio (หรือ Cash Cycle) ที่ดีกว่า Starbucks ด้วย (ได้ของมาปั๊บ ขายให้ลูกค้าและเก็บเงิน ในเวลาสั้นกว่า)
ธุรกิจชานมไข่มุก เคยฮิตอยู่ช่วงนึง ก่อนหายเงียบไปพักใหญ่ ทั้งไทย สิงคโปร์ เจอสถานการณ์เดียวกัน
กลับมารอบนี้ หลายคนก็จับตาว่ามันเป็นแค่แฟชั่น หรือมันจะอยู่ยั้งยืนยง
ดูจากตัวเลขแล้ว มีความเป็นไปได้สูงว่า น่าจะเป็นอย่างหลัง
เพราะตอนนี้ การเติบโตของชานมไข่มุก ไม่ได้อยู่แค่ในเอเชียแล้ว
แต่ลุกลามไปทั่วโลก
ใครที่คิดว่าฝรั่ง คงไม่กินหรอก ชานมไข่มุก อาจจะต้องคิดใหม่ (เจ้าของ Gong Cha ก็อเมริกันแล้ว)
ส่วนแบ่งตลาดชานมไข่มุกโลกตอนนี้ ทวีปอเมริกาเหนือมาแรงสุด กินส่วนแบ่งทั่วโลกกว่า 56% ตลาดยุโรป ก็โตเป็น double digit แล้ว
ใน Southeast Asia มีการเติบโตในทุกประเทศ โดยเฉพาะไทย เวียตนาม และสิงคโปร์
ในสิงคโปร์ ยอดสั่งชานมไข่มุกแบบส่งของ Deliveroo อยู่ที่ 4-500,000 แก้ว ต่อปี จากจำนวนร้านขายชานมไข่มุกในระบบ 200 ร้าน
ทั้ง GrabFood และ Food Panda ก็ให้ข้อมูลสอดคล้องกันว่า เครื่องดื่มที่คนสั่งผ่านแพลตฟอร์มเยอะสุด คือ ชานมไข่มุก
ปีก่อน Ten Ren แบรนด์ชานมไข่มุกของฮ่องกง ก็เพิ่ง IPO ไป
กลายเป็นหุ้นที่มียอดจองเยอะสุดจากทั้งหมด 51 บริษัทที่ IPO ทั้งปี
และเป็นอันดับ 2 ในประวัติศาสตร์ของตลาดหุ้นฮ่องกงเลย
นอกจาก จะOversubscribed สูงเป็นประวัติศาสตร์ ราคาก็พุ่งไปกว่า 300% อีกต่างหาก
ปีหน้า 2020 จะมีบริษัทชานมไข่มุก 2 บริษัท ที่กำลังเตรียมตัวเข้าตลาดหลักทรัพย์ คือ
น้องก้อย KOI ที่ดังมากในบ้านเรา ยื่น filing เตรียมเข้า IPO ที่ตลาดหุ้นสิงคโปร์
และแบรนด์ Tealive ของมาเลเซีย ก็เตรียมตัวอยู่เช่นกัน
ในเวียตนามกับจีน ธุรกิจชานมไข่มุก เป็นธุรกิจเครื่องดื่มที่มีนักลงทุน ให้ความสนใจมากที่สุด
เช่น Richard Liu เจ้าของ JD.com ก็เพิ่งลงทุนในบริษัทชานมไข่มุก ชื่อ "InWe" ในระดับ Series A
สถานการณ์ในจีนตอนนี้ แบรนด์ชานมไข่มุก ขยายรวมกันทุกแบรนด์ในหลักพันสาขา
น้องกวาง The Alley , พี่เสือ Tiger Sugar จากไต้หวันทั้งคู่ ก็ขยายสาขาบุกต่างประเทศกันรัวๆ
สาขาในไทยก็ขายดิบขายดี คิวยาวรอกันเป็นชั่วโมง
แต่พี่เบิ้ม ยักษ์ใหญ่แห่งวงการชานมไข่มุกโลกอย่าง Gong Cha มาไทยนี่ดับหายไปกับสายลม
เงียบเหมือนไร้ตัวตน
อ่านถึงตรงนี้ ถ้าอยากกิน แต่ก็แอบรักสุขภาพ มีเคล็ดลับส่วนตัวมาฝาก
1
ชานม หวานน้อย เปลี่ยนจากไข่มุก เป็นบุก แทน
อร่อย แบบไม่รู้สึกผิดมากนัก >.<
โฆษณา