31 ต.ค. 2019 เวลา 11:40 • ธุรกิจ
Madoff แชร์ลูกโซ่ล้านล้าน
เรื่องนี้เป็นกรณีศึกษาที่ดี
คนน่าเชื่อถือที่สุด
แต่กลับกลายเป็นคนลวงโลก
แชร์ลูกโซ่ครั้งใหญ่สุดในประวัติศาสตร์โลก
เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้
เชื่อหรือไม่ว่า โลกของเราเคยมีการลวงโลกที่สร้างความเสียหายได้มากกว่ามูลค่าของ ปตท. ทั้งบริษัทมาแล้ว
เชื่อหรือไม่ว่า การลวงโลกครั้งนี้สร้างความเสียหายได้เท่ากับ Hurricane 1 ลูก
เชื่อหรือไม่ว่า คนที่โกงเคยเป็นประธานของ Nasdaq ตลาดหลักทรัพย์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก
และเชื่อหรือไม่ว่า เหยื่อส่วนใหญ่เป็นคนดัง ที่แม้กระทั่ง Louis Van Gaal อดีตผู้จัดการทีมฟุตบอลแมนยูไนเต็ด ก็เป็นผู้ได้รับความเสียหายเช่นกัน
บุคคลผู้นี้มีวิธีการโกงอย่างไร?
บอกก่อนเลยว่า มหกรรมลวงโลกครั้งนี้ คือ แชร์ลูกโซ่
2
การแชร์ลูกโซ่ครั้งใหญ่นี้เกิดขึ้นจาก บริษัท Bernard L. Madoff Investment Securities (BLMIS) ก่อตั้งโดย Bernard Madoff ในปี 1960 หรือเมื่อ 59 ปีที่แล้ว
Madoff เป็นคนเชื้อสายยิวที่อาศัยอยู่ในอเมริกา โดยเขานำเงินเก็บสะสมเพียง 5,000 ดอลลาร์สหรัฐ จากการเป็น Lifeguard และเงินจากการรับจ้างจากการติดตั้ง Sprinkler มาก่อตั้งบริษัทของตัวเอง
1
บริษัท หลักทรัพย์ของ Madoff มีชื่อเสียงโด่งดังมาจากการให้คำมั่นกับนักลงทุนว่า จะได้ผลตอบแทน 12%-20% ต่อปี โดยไม่ต้องคำนึงเลยว่าสภาพตลาดในขณะนั้นจะเป็นอย่างไร
2
ซึ่งถ้าเป็นคนธรรมดามาพูด ก็คงจะไม่มีใครเชื่อ แต่... นี่คือ Bernard Madoff
ผู้ที่เคยได้รับเลือกเป็นประธานของ Nasdaq มาถึง 3 ปี และยังเคยเป็นคณะกรรมการของ NASD ในขณะนั้น ซึ่งเป็นองค์กรที่มีหน้าที่กำกับดูแลตลาด Nasdaq โดยเฉพาะ แค่นั้นยังไม่พอ ยังเคยเป็นที่ปรึกษาให้กับ กลต. ของสหรัฐอเมริกาอีกด้วย
2
ตำแหน่งของ Madoff ไม่ได้เป็นปัจจัยเดียวที่ทำให้สามารถหลอกคนได้เป็นหลักหมื่นคน เพราะผลงานที่ผ่านมาของ BLMIS นั้นก็สามารถให้ผลตอบแทนได้ตามที่อ้างไว้จริงๆ
โดยสิ่งที่ Madoff ทำคือ นำเงินลงทุนของคนล่าสุดที่หลอกมาได้ จ่ายให้กับคนก่อนหน้าเหมือนเป็นดอกเบี้ย ทำวนไปเรื่อยๆ และเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ ก็มีการจัดทำรายละเอียดสรุปหลักทรัพย์และภาพรวมของบริษัทที่ปลอมขึ้นมา ส่งไปให้กับนักลงทุนนั่นเอง
และเมื่อ BLMIS ดังขึ้น เรื่องราวจึงกลายเป็น Word of Mouth ที่บอกต่อกันไปเรื่อยๆ ในกลุ่มนักลงทุน ไปจนถึงคนดังในทุกวงการ ตั้งแต่การเมือง, ภาพยนตร์ทีวี อย่าง Larry King, นักร้อง อย่าง John Denver และวงการกีฬา อย่าง Louis Van Gaal อดีตผู้จัดการทีมฟุตบอลแมนยู
1
Cr. These Football Times
บุคคลที่ยกตัวอย่างมานี้ เป็นเพียงส่วนเล็กๆ ของผู้ลงทุนที่ได้รับความเสียหายจากแชร์ลูกโซ่ของ Madoff
จากการที่เป็นคนมีหน้ามีตาในวงการการเงิน และมีลูกค้าเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในแวดวงต่างๆ นี่เอง คือสาเหตุที่ทำให้ BLMIS มีแหล่งเงินทุนมาหมุนอยู่อย่างไม่รู้จบ โดยที่ไม่ต้องลงทุนในหลักทรัพย์ตัวใดแม้แต่บาทเดียว
จุดจบของ BLMIS
1
อย่างที่ทุกคนรู้กันว่าในปี 2008 เศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาเกิดภาวะวิกฤติอย่างหนัก ทำให้นักลงทุนรู้สึกไม่เชื่อมั่นในระบบและต้องการเงินสดคืน จึงได้แห่ไปถอนเงินจาก BLMIS เป็นจำนวนมาก รวมมูลค่ากว่า 7,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
1
แน่นอนว่าเงินในบริษัทกลับมีเพียงหลักร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น…
10 ธันวาคม ปี 2008 Madoff ไม่มีทางเลือกและบอกกับพนักงาน BLMIS ว่า ทุกอย่างคือการหลอกลวงทั้งหมด และบอกว่าตนวางแผนที่จะมอบตัวกับตำรวจ โดย 1 วันให้หลัง Madoff ก็ถูกจับกุมในข้อหาแชร์ลูกโซ่ (Ponzi Scheme) ที่สร้างความเสียหายกว่า 65,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (2 ล้านล้านบาท)
Cr. KuCoin
ในปี 2011 Madoff ที่ขณะนั้นอายุ 73 ปี ถูกศาลตัดสินให้จำคุก 150 ปี
1
ถ้าถามว่า Madoff ปกปิดการลวงโลกแบบนี้ได้อย่างไรคงไม่มีใครรู้ เพราะแม้แต่ตัว Madoff เองก็เคยให้สัมภาษณ์ว่า “ตัวเขาเองก็แปลกใจเช่นกันว่าทำไมองค์กรอย่าง กลต. จึงตรวจไม่เจอการทุจริตเลย”
1
แต่ที่แน่ๆ เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ก่อนที่เราจะทำการลงทุนกับอะไรสักอย่างหนึ่ง
จงใช้หลักเหตุผล (Principle) ในการวิเคราะห์ความเป็นไปได้มาก่อนอารมณ์ (Perception) เสมอ
เพราะไม่ว่าคนที่มาโฆษณาให้เราลงทุนจะเป็นใคร มีชื่อเสียงมากแค่ไหน มีคนติดตามมากเท่าไหร่ เขาก็สามารถหลอกเราได้เหมือนกัน
คนที่เก่งที่สุด คนที่น่าเชื่อถือที่สุด ถ้ารวมกับการทุจริต ผลลัพธ์ก็คือ หายนะ..
โฆษณา