3 พ.ย. 2019 เวลา 01:43 • การศึกษา
“เมอร์คาบา” : เชื่อมโยงจิตวิญญาณแห่งบา ...
ในโพสก่อนๆ ชายได้บอกแล้วว่าการทำสมาธิแบบอียิปต์ที่เรียกว่าเมอร์คาบานั้น จะต้องเชื่อมโยงจิตวิญญาณทั้งสามให้ได้ ในศาสตร์แห่งพลังจักรวาลอาจเรียกว่า “ตัวตนหลากมิติ” ของเราเอง โดยบาคือตัวตนภาคสว่าง, ส่วนชาโดว์คือตัวตนภาคมืด ทีนี้ ปัญหาก็คือ คนส่วนใหญ่เชื่อมโยงผิด ไปเชื่อมโยงกับตัวตนของคนอื่น ผลก็คือ เมื่อตายแล้วไม่อาจฟื้นคืนชีพเป็น “เทพเจ้า” ได้ ไม่ได้รับความอมตะ ไม่แก่ไม่เฒ่าได้ ทำให้ไม่อาจสำเร็จเป็นอาคห์ การทำสมาธิแบบเมอร์คาบาก็คือการทำสมาธิเพื่อให้เราแน่วแน่อยู่กับตัวตนทั้งสามคือ คา, บา, ชาโดว์ ทำให้เราเข้าสู่ภาวะตัวตนหลากหลายมิติ เลื่อนระดับสู่ “มิติที่สี่” ได้ เมื่อสำเร็จเป็นอาคห์เมื่อใด เราก็จะเลื่อนระดับสู่มิติที่ห้าได้ นั่นเอง ในโพสนี้จะกล่าวอธิบายว่าสมาธิแบบเมอร์คาบา ทำอย่างไรจะเชื่อมโยงกับบาได้?
“บาคือตัวตนภาคสว่าง ตัวตนเบื้องบนของเรา” เป็นเหมือนแหล่งเก็บ “คุณสมบัติพิเศษ” ของเรา และสามารถนำทางชีวิตแก่เราได้ ให้เจริญรอยตามตัวตนภาคสว่างของเราเอง ในทิเบตเรียกว่า “คุรุเบื้องสูง” ทว่า หลายคนมักเชื่อมโยงผิด ไปเชื่อมโยงกับตัวตนของผู้อื่น เจริญตามรอยคนอื่นไป ถามว่าแล้วจะเชื่อมโยงกับตัวตนของเราเองได้อย่างไร? จะแยกแยะได้อย่างไรว่านี่คือตัวตนภาคสว่างของเรา? ก็มีวิธีสังเกตุครับ ให้ดูว่า “บริบทในชีวิต” ของเราถูกสร้างมาให้เจริญไปตามรอยทางใด? เช่น ถ้าเหตุปัจจัยทั้งหลายทั้งมวลในชีวิตของเรามันนำทางเราไปเป็น “ผู้อุปถัมภ์” ตัวตนภาคสว่างหรือบาของเราก็จะมีบทบาทเป็นผู้อุปภัมภ์ หรือเทพผู้ให้การสนับสนุนผู้อื่น โดยธรรมชาติของมนุษย์นั้นคือ “สัตว์สังคม” แต่ละทีมจะมีตำแหน่งต่างๆ กัน เช่น หัวหน้า, กุนซือ, นางแก้ว, ขุนพลแก้ว, ขุนคลังแก้ว ฯลฯ เป็นต้น เราจะต้องสังเกตุดูบริบทในชีวิตเราดีๆ ว่าธรรมชาตินำทางเราไปทางใด? ก็ให้ “คล้อยตามธรรมชาติ” อย่างนั้น เพราะ “บา” นั้นนำทางชีวิตเราอยู่แล้ว เพียงแต่เราชอบฝืนธรรมชาติเอง ทำให้เรา “ขาดจากบา” ไป เช่น เมื่อเราเห็นคนอื่นได้ดี เรามักมีแนวโน้มที่จะ “อยากได้อย่างเขาบ้าง” เมื่อนั้นก็จะเดินออกจาก “ทางชีวิตของเราเอง” ไปเดินตามทางชีวิตของคนอื่น เราก็จะหลุดจากบาของเรา เราไม่อาจที่จะ “เอาคนอื่นเป็นที่ตั้ง” หรือให้คนอื่นมาชี้นำชีวิตเราได้ เราจะต้องสังเกตุด้วยตัวเองว่าชีวิตเราถูกธรรมชาติจัดสรรให้ไปทางใด แล้วคล้อยตามธรรมชาตินั้น บาก็จะสามารถนำทางชีวิตเราได้ดีขึ้น บางคนรู้จักบาของตน ว่ามี “นาม” ว่าอะไร เช่น กวนอิม เขาก็จะแน่วแน่เดินตามทางของกวนอิม ดำเนินไปใน “วิถีกวนอิม” นั่นเอง
ไม่เดินตามบาตน ก็จะไม่เป็นตัวของตัวเองครับ!
โฆษณา