Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
123 Satang สตางค์
•
ติดตาม
5 พ.ย. 2019 เวลา 04:32 • ธุรกิจ
17 วิธีคิด
"ของเหล่าเศรษฐีที่ประสบความสำเร็จในชีวิต"
ได้ยินคำว่า “เศรษฐี”
เชื่อได้เลยว่า ..
ใครๆ
ก็อยากเป็นเศรษฐีกันทั้งนั้น
แต่ว่าจะทำอย่างไรล่ะ ?
ถึงจะได้เป็นเศรษฐีกับเขาบ้าง
วันนี้..เราจะนำเอาวิธีคิด
ที่ประสบความสำเร็จในชีวิต
มากฝากกัน...
1. คนเราสามารถกำหนดชะตาชีวิตของตัวเองได้
คนรวย
มักคิดว่า..
เราสามารถกำหนดชะตาชีวิต
ของตัวเองได้
.
.
โดยไม่ต้องรอ
ให้โชคชะตา
ดวง
เทวดา
สรวงสวรรค์
หรือสิ่งที่เรามองไม่เห็น
มาเป็นผู้กำหนดตัวเอง
เช่น
การซื้อล็อตเตอรี่
เพื่อหวังรวยทางลัด
หรือการพึ่งหมอดู
เพื่อทำนายโชคชะตา เป็นต้น
แต่ในทางกลับกัน
คนที่ยากจน
มักจะโทษโชคชะตา
สิ่งแวดล้อม
หรือบุคคลรอบๆข้าง
.
.
ว่า..เป็นต้นเหตุแห่งความยากจน
หรือความล้มเหลวของตน
หรือ มักคิดว่าทรัพย์สินเงินทอง
ไม่ใช่เรื่องสำคัญ
เป็นเพียงของนอกกาย
ตายไปก็เอาไปไม่ได้
เมื่อใดที่คิดเช่นนี้..
สติปัญญา
ที่จะใช้ขวนขวายหาเงินหาทอง
ก็ย่อมหมดไปเป็นธรรมดา
ในขณะที่ คนรวย
กลับคิดเสมอว่า
เมื่อปรารถนาสิ่งใด
ก็ต้องสร้างเหตุ
และปัจจัยมาด้วยน้ำพักน้ำแรงของตนเอง
ถ้ามัวแต่รอปัจจัยภายนอกแล้ว
เมื่อไรสิ่งเหล่านั้นจะเกิดดอกและออกผล
2. มีการกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน
คนรวย
จะกำหนดเป้าหมาย
อย่างชัดเจน
ว่า ตนเองจะมีเงินเท่าไร
ในอีกกี่ปีข้างหน้า
แต่คนทั่วไป
มักจะคิดว่า
ขอแค่มีเงินเดือนไว้แค่พอใช้
ในแต่เดือนก็เพียงพอแล้ว
คนที่ประสบความสำเร็จ
มักมองการณ์ไกล
มีความฝัน
มีจินตนาการ
และกล้าที่จะลงมือทำ
เพราะเชื่อมั่นในศักยภาพของตน
3. เกิดมาแล้วต้องรวยและประสบความสำเร็จ
คนรวย
จะคิดอยู่เสมอว่า
เกิดมาแล้วต้องรวย
ไม่ว่าจะต้องลงทุน
ลงแรง ขนาดไหนก็ตาม
.
.
ถึงแม้ ตอนเกิดเราจะไม่สามารถเลือกได้ว่า
เกิดมาแล้วจะรวยเลย
แต่เราสามารถกำหนดชีวิตของเราเอง
ได้ว่าต้องการรวย
ต้องการประสบความสำเร็จมากขนาดไหน
แต่คนทั่วไปจะคิดเพียงแค่ว่า
อยากจะร่ำรวย
.
.
แต่กลับไม่ขยันทำงาน
เมื่อเจอปัญหาอุปสรรค
ก็มักจะบ่นและท้อถอย
เพราะไม่ชอบทำงานหนัก
4. คิดใหญ่ ไม่คิดเล็ก
คนรวย
จะคิดเสมอว่า
ทุกอย่างสามารถเป็นไปได้ทั้งนั้น
ขอแค่เราเห็นโอกาส
แล้วลองลงมือทำดู
ไม่ว่าสิ่งนั้นยากเพียงใดก็ตาม
และจะคิดหาหนทาง
ในการพัฒนาสินค้า
และบริการของตน
5. มองหาโอกาสต่างๆ
และไม่เสียเวลาไปกับปัญหาที่เกิดขึ้น
เมื่อเกิดปัญหา!
คนรวย
จะพยายามหาโอกาส
หรือช่องทางที่จะพลิกวิกฤต
ให้เป็นโอกาส
ไม่ตีโพยตีพาย
หรือหมดหวัง
ไปกับปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
คนที่ประสบความสำเร็จ
จะนิ่งสงบ
เผชิญหน้ากับปัญหาอย่างมีสติ
คิดพิจารณาอย่างรอบคอบ
แล้วลงมือทำ
และไม่ปล่อยเวลา
ให้ผ่านไปโดยเปล่าประโยชน์
.
.
เพราะว่าคนที่ประสบความสำเร็จ
รู้ว่าเวลามีความหมาย
ต่อให้รวยแค่ไหน
ก็ไม่สามารถซื้อเวลาได้
6. ชื่นชมคนที่ประสบความสำเร็จ
เพื่อนำแนวความคิดมาปรับใช้ในชีวิตของตนเอง
คนรวย
สนใจและชอบที่จะศึกษาว่า
คนที่เขาประสบความสำเร็จนั้น
มีแนวคิดอย่างไร
และทำอย่างไรถึงได้ร่ำรวยขนาดนั้น
และนำมาเป็นไอดอล
หรือเป็นแนวคิดในแก่ตัวเอง
มากกว่าการรู้สึกคิดอิจฉาริษยา
ในความสำเร็จของผู้อื่น
7. ชอบคบหาสมาคมกับคนที่มองโลกในแง่ดี
คนรวย
จะมองโลกในแง่ดี
เพราะเขาเหล่านั้นจะมีแนวความคิด
คำพูด และการกระทำ
ที่เต็มไปด้วยความหวัง
คนที่มองโลกในแง่ดี
จะมองสามารถเห็นโอกาสในวิกฤตเสมอ
และมักจะมองปัญหา
ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องธรรมดา
ส่วนคนที่มองโลกในแง่ร้าย
จะชอบทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่
และมองปัญหาว่า
เป็นสิ่งที่จะนำมาซึ่งความหายนะ
ยิ่งคิดก็ยิ่งเครียด
เกิดเป็นความท้อถอย
ความอึดอัด
จนต้องระบายความรู้สึกดังกล่าว
ออกมาในรูปของการกระทำต่างๆ
เช่น การก้าวร้าว
ด่าทอ
ติฉินนินทา
อิจฉาริษยา
หรือคอยจับผิดผู้อื่น เป็นต้น
การมองโลกในแง่ร้ายมากเท่าไร
ยิ่งทำให้คิดอะไรไม่ออก
ชีวิตก็ย่อมจะตกอยู่ในวังวน
ของความยากจนข้นแค้นมากขึ้นเรื่อย ๆ
ฉะนั้น คนที่ร่ำรวย
จึงเลือกที่จะไม่สุงสิงกับคนที่มองโลกในแง่ร้าย
.
.
เพราะจะเป็นการเพาะเชื้อ
แห่งการมองโลกในแง่ร้าย
เข้าไปในจิตใจโดยไม่รู้ตัว.
8. พร้อมที่จะนำเสนอสินค้า
และบริการของตัวเอง
คนรวย
พร้อมที่จะนำเสนอสินค้าของตนเอง
ให้ผู้อื่นได้รับรู้อยู่เสมอ
.
.
เพราะพวกเขาเชื่อว่า
การรอคอยให้ผู้อื่น
เข้ามาสอบถามถึงสินค้าของเรานั้น
เป็นการเสียเวลา
คนรวย
มักอยู่กับปัจจุบัน
พวกเขาจะไม่จมปลัก
อยู่กับเรื่องในอดีต
เพราะเขาตระหนักดีว่า
ทุกอย่างในโลก
ล้วนเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ
และหากเขาหลงชื่นชม
อยู่กับความสำเร็จในอดีต
เขาก็จะประมาท
หรือถ้าเขาหวาดกลัว
หรือผิดหวัง
ไปกับความล้มเหลวในอดีต
เขาก็จะไม่กล้าที่จะทำสิ่งใดอีกต่อไป
.
.
ฉะนั้น พวกเขาจึงไม่สนใจ
กับเรื่องในอดีตมากนัก
แต่จะสนใจว่า
ตอนนี้ควรจะทำอย่างไรต่อไป
เพื่อพัฒนาสินค้าและบริการ
ให้ดียิ่งขึ้นมากกว่า
9. มองปัญหาเป็นเรื่องธรรมดา
คนรวย
จะมองปัญหาที่เกิดขึ้น
เสมือนเครื่องมือ
ที่ช่วยเสริมสร้างสติปัญญา
ให้เฉียบคมมากขึ้น
และเป็นสิ่งที่ช่วยเพิ่มความรู้
เพิ่มความสามารถ
ให้แก่ตนเองอีกต่างหาก
.
.
ประสบการณ์ในการแก้ปัญหา
ที่ผ่านมานั้นเอง
จะเป็นกำลังใจให้พวกเขา
กล้าที่จะทำในสิ่งใหม่
และท้าทายมากยิ่งขึ้นไปอีก
อย่างไรก็ตาม
ทุกๆ ปัญหาที่เขาต้องเผชิญนั้น
พวกเขาจะคิดมาตรการ
เพื่อการป้องกันไม่ให้ปัญหานั้นเกิดซ้ำอีก
10. มีความเชื่อมั่นในตัวเอง
คนรวย
จะรู้สึกเชื่อมั่นในศักยภาพของตนเอง
พวกเขาจะรู้ว่าตัวเอง
สามารถทำอะไรบ้าง
มีความสามารถทำได้แต่ไหน
และจะลงมือทำ
อย่างสุดความารถ
11. ประเมินผลสำเร็จจากผลงานเป็นหลัก
คนรวย
จะประเมินผลงาน
จากสินค้าที่ขายได้
หรือผลกำไรของบริษัท
แต่คนทั่วไป
มักจะประเมินผลงาน
จากแรงงานที่ตัวเองเสียไป
.
.
นอกจากนั้น คนทั่วไป
มักเลือกที่จะเป็นลูกน้องในองค์กร
ที่มีความมั่นคง
เพื่อที่ว่าตนเอง
จะได้ไม่ต้องลงทุน
หรือมีความเสี่ยงในการทำธุรกิจมากนัก
ในทางกลับกัน
คนรวย จะทำงานในองค์กร
สักระยะหนึ่ง
เพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์
และหาโอกาสเปิดกิจการ
หรือมีธุรกิจเป็นของตนเองต่อไป
12. คิดหวังผลสองด้าน
คนรวย
คิดว่า.. คนเรา
สามารถประสบความสำเร็จ
มีความสุข
และมีเวลา
ให้กับครอบครัวได้พร้อมๆกัน
แต่คนทั่วไป กลับคิดว่า
การที่จะประสบความสำเร็จได้
จะต้องทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่าง
เรื่องส่วนตัวเก็บไว้ทีหลัง
การทำงานต้องเคร่งเครียด
เอาจริงเอาจัง
จนทำให้ละเลย
คนที่รอบข้างไปหมด
ละเลยสุขภาพของตัวเอง
นอกจากนั้น
คนรวย คิดว่า
ยิ่งมีเงินทองมากขึ้น
ยิ่งช่วยเปิดโอกาส
ให้ได้ทำประโยชน์ให้กับสังคม
ได้มากยิ่งขึ้น
แต่คนทั่วไปกลับคิดว่า
การจะร่ำรวยได้
จะต้องเกิดจากการเอารัดเอาเปรียบ
ผู้อื่นเสียเป็นส่วนใหญ่
พวกเขาจึงมองว่าคนรวยคือคนที่ไม่ดี
13. คิดว่าตนเองมีราคาเท่าไร
คนรวย
จะประเมินมูลค่าของตนเอง
จากสินทรัพย์ที่มีอยู่ทั้งหมด
หักลบกับหนี้สินทั้งหลาย
.
.
ฉะนั้น คนรวย
จึงคิดที่จะนำเงิน
ไปลงทุนมากกว่า
นำไปใช้จ่ายจนหมด
เพราะการลงทุน
ถือว่าเป็นการเพิ่มพูนรายได้
โดยที่มูลค่าเดิมก็ยังคงอยู่
ในทางกลับกัน คนทั่วไป
มักคิดที่จะจับจ่ายใช้สอย
หรือไปท่องเที่ยว
มากกกว่าการเก็บออม
หรือนำไปลงทุน
14. รู้จักวางแผนในการจับจ่ายใช้สอย
คนรวย
จะวางแผนเก็บออมเงิน
ในระยะยาว
มากกว่าการนำเงินไปใช้
มีการคิดตลอดเวลา
ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ
หรือเปลี่ยนสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
และในแต่ละวัน แต่ละเดือน
จะมีการจดบันทึกค่าใช้จ่าย
ไว้อย่างสม่ำเสมอ
เพราะจะทำให้เรารู้ว่า
เราใช้จ่ายไปกับอะไรบ้าง
แล้วสิ่งนั้นจำเป็นมากน้อยแค่ไหน
ซึ่งจะช่วยให้อนาคตเรา
จะไม่ขัดสนและลำบาก
15. รู้จักใช้เงินอย่างฉลาด
คนรวย
จะรู้จักบริหารเงิน
ให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด
ไม่ใช่ว่า หาเงินมาได้มากเท่าไหร่
ก็ใช้ไปเท่านั้น
.
.
พวกเขาจะรู้จักหา
วิธีที่สามารถ
ช่วยทำให้เงินงอกเงย
และช่วยเพิ่มพูนทรัพย์
ให้พวกเขาอย่างต่อเนื่อง
รู้จักลงทุนโดยใช้ความคิด
มากกว่าการใช้แรง
16. ไม่กลัวความล้มเหลว
คนรวย
เมื่อเจอกับความล้มเหลว
จะไม่ย่อท้อหรือหมดหวัง
แต่จะตั้งสติ
อดทน
และพยายามหาหนทางแก้ไข
และมองความล้มเหลว
ที่เกิดขึ้นเหล่านี้นี่แหละ
เป็นสิ่งที่จะช่วยให้เกิดแรงกระตุ้น
หรือเป็นตัวพัฒนาความรู้
ความสามารถของตัวเองมากกว่า
แต่คนทั่วไป
เมื่อเจอความผิดพลาด
อุปสรรค
ปัญหา
หรือความล้มเหลว
จะยอมแพ้
รู้สึกท้อ
ผิดหวังกับสิ่งที่เกิดขึ้น
และคิดว่าตนเองหมดสิ้น
ทุกสิ่งทุกอย่างแล้วในชีวิต
และจะหยุดการพัฒนาตัวเอง
โดยจมอยู่แต่กับความล้มเหลว
17. เรียนรู้ตลอดเวลา
คนรวย
จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ
อยู่ตลอดเวลา
และไม่เคยคิดว่าตนเองเก่งแล้ว
แต่คนทั่วไป จะคิดว่า
ประสบการณ์จะเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึง
ความสามารถ
จึงทำให้หลงคิดว่าตนเองเก่งแล้ว
เพราะผ่านประสบการณ์
การทำงานมาหลายปี
.
.
ฉะนั้น จึงมักไม่ยอมรับ
การสั่งสอน
หรือคำแนะนำจากคนอื่น
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
จากคนที่มีประสบการณ์น้อยกว่า
เพราะถือว่า
เป็นการเสียหน้าเป็นอย่างมาก
ฉะนั้น อย่าลืมการเรียนรู้ตลอดเวลา
ทำตัวเป็นน้ำครึ่งแก้วเข้าไว้
เพื่อจะได้เรียนรู้
พัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา
เหล่านี้คือ
"วิธีคิดของเหล่าเศรษฐีที่ประสบความสำเร็จ"
หากคุณอยากเป็นเศรษฐีบ้าง
ก็เพียงเริ่มนำทั้ง 17 ข้อนี้
เป็นหลักในการดำเนินชีวิต
และใช้มันอย่างต่อเนื่อง
จนถึงจุดที่คุณพร้อมรับการเป็นเศรษฐี
ความมั่งคั่งร่ำรวย
จะเข้ามาเยือนคุณอย่างแน่นอน
ขอบคุณบทความดีๆจาก
http://drboonchai.com
Cr moneyland
2 บันทึก
4
1
2
4
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย