6 พ.ย. 2019 เวลา 14:30 • ประวัติศาสตร์
วีรบุรุษเอธิโอเปีย EP.1
พวกคุณเคยได้ยินชื่อ หรือเคยได้รับรู้เรื่องราวของชายผู้นี้ไหม? ฮีโร่ผิวดำชาวเอธิโอเปีย 'อาเบเบ บิกิลา (Abebe Bikila)'
เขาได้อำลาโลกนี้ไปแล้วกว่า 46 ปี ตั้งแต่เดือนตุลาคม ค.ศ. 1973 ขณะอายุเพียง 41 ปี เพราะเลือดคั่งในสมองจากอุบัติเหตุ
https://en.wikipedia.org/wiki/Abebe_Bikila
ในช่วงที่เขายังมีชีวิตอยู่ เขาทำอะไรมาบ้างน่ะหรือ ถึงได้เป็นฮีโร่ ไม่ใช่เฉพาะของเอธิโอเปียเท่านั้น แต่เขายังเป็นฮีโร่ของชาวแอฟริกาทั้งหมด เป็นสัญลักษณ์ของนักสู้ และเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนทั่วทั้งโลก
ทารกน้อยผิวดำ กำเนิดขึ้นบนโลก เมื่อ 7 สิงหาคม 1932 ในวันที่มีการแข่งขันวิ่งมาราธอน โอลิมปิกเกมส์ครั้งที่ 10 ที่ลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา
เมื่อยังเด็ก ชีวิตประจำวันของเขา คือวิ่งเท้าเปล่าช่วยพ่อไล่ต้อนฝูงแกะ อาจเพราะเหตุนี้ รวมกับพรสวรรค์ในการวิ่ง เขาจึงคว้าชัยชนะในการวิ่งแข่งขันหลายครั้ง
สมัยเป็นนักเรียน แต่เขาก็ไม่คิดจะยึดการวิ่งเป็นอาชีพ
เมื่ออายุได้ 16 ปี 'บิกิลา' เข้ารับราชการเป็นทหารองครักษ์ประจำวังในรัชกาลของจักรพรรดิไฮเล เซลาสซี
ครั้งนึง เขาได้เห็นกลุ่มคนในชุดนักกีฬา บนเสื้อมีคำว่า“Ethiopia” กลางหลัง เดินอย่างผึ่งผายท่ามกลางการต้อนรับของคนในชาติ ซึ่งก็คือตัวแทนทีมชาติ
ที่เพิ่งกลับมาจากการแข่งโอลิมปิกครั้งที่ 16 ที่เมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย เขาเริ่มมีความฝันตั้งแต่ตอนนั้น และสัญญากับตัวเองว่าจะต้องเป็นนักวิ่งทีมชาติให้ได้
เขาเริ่ม วิ่ง-วิ่ง-วิ่ง
วิ่งกับพี่ตูน วิ่งกับพี่ตูน
ม่าย-ช่าย- ม่าย-ช่าย
สมัยนั้นพี่ตูนคงยังไม่เกิดสินะ!
เขาคงจะวิ่งกับฝูงแกะก็ได้ และไม่ว่าเขาจะวิ่งกับใคร เขาก็ วิ่ง-วิ่ง-วิ่ง
วิ่งไปเรื่อยๆ ทุกวัน ทุกวัน ทุกวัน
เมื่อมีการวิ่งมาราธอนกีฬาสามเหล่าทัพ นักกีฬาทีมชาติเอธิโอเปียผู้เป็นฮีโร่ในขณะนั้น คือ 'วามี บิราตู (Wami Biratu)' ก็ได้พ่ายแพ้ให้แก่ 'บิกิลา' อย่างขาดลอย
1
'บิกิลา'ทำลายสถิติระดับชาติของ'บิราตู' ในการวิ่ง 5,000 และ 10,000 เมตร ท่ามกลางความตกตะลึงของบรรดาแฟนๆ บิราตูทั้งประเทศ
วิ่งไปเรื่อยๆ ทุกวัน ทุกวัน ทุกวัน
ความฝันของ'บิกิลา'ก็เข้าใกล้ความจริง !
ด้วยความที่ 'บิกิลา' อายุน้อย และไม่มีประสบการณ์ ทำให้เขาไม่ติดทีมชาติ แม้ว่าเขาจะมีผลงานอันโดดเด่นปรากฎให้เห็นก็ตาม
แต่ในที่สุด เมื่อ 'วามี บิราตู' นักวิ่งทีมชาติตัวหลักประสบอุบัติเหตุข้อเท้าหัก โชคชะตาก็หันมาเข้าข้างเขา 'บิกิลา' ถูกเรียกให้ร่วมทีมชาติแทนทันทีอย่าง
ฉุกละหุกเพียงไม่กี่นาทีก่อนเครื่องบินจะทะยานขึ้นจากเอธิโอเปีย มุ่งหน้าไปยังกรุงโรม ประเทศอิตาลี เจ้าภาพกีฬาโอลิมปิกครั้งที่ 17 (ค.ศ. 1960)
เมื่อทุกอย่างถูกเตรียมการล่วงหน้าไว้สำหรับ 'วามี บิราตู' ดังนั้นเมื่อได้ 'บิกิลา' มาแทน ทำให้สปอนเซอร์รองเท้ากีฬาอย่างอาดิดาส มีรองเท้าเหลือให้เขาไม่กี่คู่
ซึ่งเจ้ารองเท้าพวกนั้นมันไม่เข้ากับเท้าของเขาเอาซะเลย เขาต้องถูกรองเท้ากัดจนเป็นแผลในการฝึกซ้อมทุกครั้ง ท้ายสุด 'บิกิลา' ตัดสินใจลงแข่งวิ่งมาราธอนด้วยเท้าเปล่า
ที่จุดสตาร์ต นักวิ่งผิวดำผอมโปร่งไม่ใส่รองเท้าจากแอฟริกา ที่ไม่มีใครรู้จัก ยืนอยู่ท่ามกลางนักวิ่งผิวขาวทั้งจากรัสเซียและยุโรปที่มีชื่อเสียงในช่วงนั้น
บิกิลาไม่สนใจเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในเชิงเย้ยหยันและเหยียดผิว เขาเคยชินกับการวิ่งเท้าเปล่ามาเกือบทั้งชีวิต ตั้งแต่ตอนช่วยพ่อต้อนฝูงแกะเมื่อตอนเด็ก
จากจุดสตาร์ต10 กิโลเมตรแรก เขาวิ่งเกาะกลุ่มกับนักวิ่งส่วนใหญ่ พ้นระยะ 15 กิโลเมตรเขาเข้ากลุ่มนักวิ่งนำ พอถึง 20 กิโลเมตร เหลือเพียงเขาที่วิ่งเกาะติดเบียดไหล่ชนไหล่กับ นักวิ่งหมายเลข 185 ทั้งคู่วิ่งทิ้งห่างนักวิ่งคนอื่นไปเรื่อยๆ
ด้วยเหตุที่ 'บิกิลา' ไม่เคยวิ่งแข่งขันระดับชาติมาก่อน เขาไม่รู้จักใครเลย แม้แต่ตัวเก็งอย่าง 'ราดิ เบน แอพเดสเซลัม' ชาวโมรอกโก เขาก็ไม่รู้จัก ทีมโค้ชเอธิโอเปียเลยบอกให้ 'บิกิลา' วิ่งให้ทันหมายเลข 26
เมื่อถึงช่วง 1 กิโลเมตรสุดท้าย 'บิกิลา' จึงเร่งฝีเท้าเต็มที่เพื่อหาหมายเลข 26 ที่คิดว่าอยู่ข้างหน้า แต่หาไม่เจอ เขาไม่เห็นใครอยู่ข้างหน้าเลย แท้ที่จริงเขาได้วิ่งแซงและทิ้งคู่แข่งอย่าง 'ราดิ เบน แอพเดสเซลัม' มาแล้ว โดยไม่รู้ตัว เพราะก่อนแข่ง 'แอพเดสเซลัม' เปลี่ยนหมายเลขใหม่เป็น 185
หมายเลข 185 ที่วิ่งเกาะติดกับเขาในช่วงหนึ่ง ก่อนที่ 'บิกิลา' จะเร่งฝีเท้าทิ้งห่างออกไปเรื่อยๆ เพื่อตามหาหมายเลข 26 คู่แข่งที่ไม่มีจริง
'บิกิลา' เร่งฝีเท้าเต็มที่ เสียงเท้าเปล่าของ 'บิกิลา' กระทบพื้นดัง...แปะ แปะ แปะ...แซงและทิ้งคู่แข่งไปตลอดจนเข้าเส้นชัยด้วยเวลา 2 ชั่วโมง 15 นาที 16.25 วินาที ทิ้งห่างผู้ชนะอันดับ 2 ถึง 26 วินาที ทำลายสถิติวิ่งมาราธอนโอลิมปิกก่อนหน้าถึง 8 นาที
เสียงเย้ยหยันทั้งหลายถูกกลบด้วยเสียงปรบมืออันดังกระหึ่มของฝูงชนนับหมื่น รอบประตูชัยคอนสแตนตินในกรุงโรม เมื่อเขาวิ่งเข้าเส้นชัย
'บิกิลา' กลับเอธิโอเปีย เยี่ยง "วีรบุรุษ" เขาเป็นนักกีฬาผิวดำคนแรกจากแอฟริกาที่ชนะเหรียญทองโอลิมปิก และกลายเป็นขวัญใจของคนนับล้านทั่วโลกภายในเวลาชั่วข้ามคืน
โฆษณา