11 พ.ย. 2019 เวลา 02:03 • ไลฟ์สไตล์
คอร์รัปชั่น EP.2
บทความนี้ไม่อิงการเมือง
บทความนี้.. อยากให้นักการเมืองเห็น
บทความนี้.. คาดหวังที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการที่จะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาคอรัปชั่นอย่างยั่งยืน
ย้ำอีกครั้ง.. บทความเรื่อง.. คอร์รัปชั่น.. ทั้ง 2 ตอนเป็นข้อเขียนที่เกิดจากมุมมองของชายคนหนึ่งที่ผ่านชีวิตมายาวนานระยะหนึ่งเท่านั้น.
ถ้าคอรัปชั่นคือโรคร้ายของสังคม.....
เชื้อโรคที่ก่อให้เกิดโรคนี้คืออะไรล่ะ.. ถ้าไม่ใช่ความโลภ.. ซึ่งมันติดตัวเรามาตั้งแต่เกิด..
แล้วทำไมบางคนมีเชื้อนี้เช่นกัน.. จึงไม่เป็นโรคคอรัปชั่นล่ะ.. ไม่ยากครับ.. ภูมิต้านทานยังทำงานดีอยู่ครับ..
บางคนภูมิต้านทานต่ำ.. แล้วเจอตัวกระตุ้นมาเร่งให้เชื้อความโลภแข็งแรงคือ.. ระบบนิยมทุน.. หรือทุนนิยม..
ที่มีตัว.. โอกาส..เปิดช่องทางให้เชื้อความโลภทำงานได้เต็มที่
ภูมิต้านทานคือการยับยั้งชั่งใจ..
ส่วนใหญ่เกิดจากการเรียนรู้ว่าเป็นเรื่องไม่ดี.. เช่นมีการอบรมทางด้านศาสนาเป็นต้น
ระบบทุนนิยม.. หรือระบบนิยมทุน.. ก็คือตัวเร่งปฏิกริยาให้เชื้อโรค.. ความโลภ.. แข็งแรง..
โดยควบคู่กับตัวเร่งสำคัญอีกตัวคือ.. โอกาส.. จึงก่อให้เกิดโรคร้ายอย่าง.. คอรัปชั่น.. ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
การกำจัดโรคร้ายอย่างโรค.. คอรัปชั่น.. ควรกำจัดที่ต้นเหตุ
ต้นเหตุของโรคคือเชื้อความโลภ.. กำจัดไม่ได้.. เพราะมันคือส่วนหนึ่งของชีวิตมนุษย์.. เปรียบกับเชื้อแบคทีเรียบางตัวที่มันต้องอยู่กับเราจนวันตาย..
แต่ทำให้มันไม่ลุกขึ้นมาขยันทำงานได้..ด้วยภูมิต้านทานที่ดีพอ.. และการตัดสิ่งเร้าออก..
ทั้งตัวโอกาส.. ซึ่งพอควบคุมได้ด้วยระบบตรวจสอบที่มีประสิทธิภาพสูงเยี่ยมยอด..
และตัวเร้ากระตุ้นอีกตัวคือระบบทุนนิยม.. หรือระบบนิยมทุน
ถามว่ายากมั้ย.. ตอบเลยว่ายาก.. แต่ทำได้..
ถ้ามุ่งมั่นเพียงพอ.. แล้วยังงัยล่ะ.. คือยารักษาโรคนี้
มีสิ.. แล้วคืออะไรล่ะ.....
www.blockdit.com/lungpungkathi
ก่อนจะบอกว่าใช้ยายี่ห้ออะไรมาฆ่าเชื้อทุนนิยมได้.. ลุงขอพาไปดู.. ดินแดนที่ปลอดสิ่งเร้าอย่างทุนนิยม.. แต่ไม่ใช่ดินแดนนี้จะปลอดโรค.. คอรัปชั่นอย่าง 100 %นะ..
แต่ก็นับได้ว่าเป็นดินแดนที่ได้สถิติโปร่งใสที่สุดในโลกปีที่แล้ว.. และค่าเฉลี่ยที่ดีตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาอย่างประเทศยุโรปในแถบสแกนดิเนเวียครับ
จากแหล่งข้อมูลอ้างอิงวิถีพีเดีย.. ที่หารูปภาพมาเปรียบเทียบประเทศที่มีภาพลักษณ์ในเรื่องการคอรัปชั่นจาก 180 ประเทศทั่วโลกก่อนว่ามีประเทศอะไรบ้างเริ่มจากโกงน้อยสุดไปหามากสุด.. กลางๆไม่ค่อยสนใจเนอะ.. เราเน้นประเทศไทย
รูปภาพนี้แสดงจากปี คศ.2010
ภาพจากวิถีพีเดีย.. www.blockdit.com/lungpungkathi
ส่องไทยแลนด์กันนะ
ภาพจากวิถีพีเดีย.. www.blockdit.com/lungpungkathi
จะเห็นว่าไทย.. ลำดับ 94.. อยู่ในระดับ.. กลางๆ
คราวนี้แบบแย่ที่สุดเรื่องโกง
ภาพจากวิถีพีเดีย.. www.blockdit.com/lungpungkathi
ดูแล้ว.. สังเกตุเห็นอะไรได้บ้างครับ.. ประเทศที่มีคอรัปชั่นสูงมักเป็นประเทศที่ด้อยพัฒนาหรือยังมีความยากจน.. และ..แย่งชิงอำนาจทางการเมืองสูง
ส่วนประเทศกำลังพัฒนา.. และประเทศที่พัฒนาแล้วแต่อยู่ภายใต้ระบอบเศรษฐกิจทุนนิยมจะอยู่ในระดับกลางๆ..
แต่ประเทศยุโรปแถบสแกนดิเนเวียเช่นเดนมาร์ก.. สวิตเซอร์แลนด์เป็นต้นซึ่งใช้ระบอบเศรษฐกิจแบบสังคมนิยม.. คือมีสวัสดิการภาครัฐที่ดี.. ประชาชนไม่สู้จะมีความกังวลใจในเรื่องเศรษฐกิจพื้นฐานภาคครัวเรือนเลยไม่ว่าจะเป็นเรื่องการศึกษาของบุตรธิดา.. ค่าดูแลและรักษาพยาบาล.. เงินเกษียณเลี้ยงดูผู้ชรา.. ต่างๆเป็นต้น..
ค่านิยมของชนชาวยุโรปแถบนี้ที่ชัดเจนคือจะมีระเบียบวินัยและความรับผิดชอบต่อสังคมค่อนข้างสูงมาก..
มาถึงตรงนี้ขอยกตัวอย่างประสบการณ์ตรงของลุงเองละกันนะ..
ตอนที่ครอบครัวลุงไปเที่ยวที่สวิตเซอร์แลนด์.. ช่วงเย็นขาลงจากยอดเขา.. เราก็ต้องใช้กระเช้า.. ซึ่งกระเช้านึง.. จะโดยสารได้ถึง 8 คน..
คราวนี้นักท่องเที่ยวชาวเอเซียเช่นชาวจีน.. อินเดีย.. แม้แต่คนไทยอย่างครอบครัวลุง..มากันเป็นกลุ่มๆย่อยๆ
แต่หนึ่งในผู้โดยสารขาลง.. ก็จะมีอดีตเจ้าหน้าที่สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ซึ่งเธอเกษียณแล้ว..
แต่มาเที่ยวเพื่อแวะหาเพื่อนๆในที่ทำงานเดิมของเธอ.. เธอได้เข้ามาโดยสารในกระเช้า.. ในกลุ่มของลุงคนเดียว.. ซึ่งครบ แปด พอดี..
แต่เธอได้พูดเหมือนบ่นกับเราถึงบรรดานักท่องเที่ยวชาวจีน.. ซึ่งก็ยืนรอคิวขึ้นกระเช้าเช่นกันหลายกลุ่มก่อนหน้ากลุ่มของลุง ..
กลุ่มนึงอาจจะมีเพียง 4-5คน..และ.. คนกลุ่มอื่นที่มีปริมาณไล่เรี่ยกัน..ไม่ยอมโดยสารร่วมกันให้ครบ 8 คน.. แต่จะแค่กลุ่มของตน 4-5 คน.. แล้วคนกลุ่มถัดไปก็ไม่ยอมแยกกลุ่มเพื่อจะไปให้ครบ 8 คนต่อกระเช้า..โดยที่พวกเขาก็ยินดีที่จะยืนรอกระเช้าถัดไป..
อดีตเจ้าหน้าที่ท่านนี้.. บ่นให้พวกเราฟังในขณะที่โดยสารกระเช้าขาลงเขา..แบบค่อนข้างไม่พอใจ.. เพราะมันทำให้สิ้นเปลืองพลังงานที่ใช้ไปในการขับเคลื่อนกระเช้า.. และทำให้ผู้อื่นยืนรอคิวนานขึ้น..
กรณีนี้อาจเหมือนความเห็นต่าง.. แต่ถ้าเข้าใจการดำรงค์ชีวิตของเขาก็คงพอทำความเข้าใจได้ว่า.. เขามีความเป็นห่วงและรู้สึกถึงความรับผิดชอบต่อส่วนรวมมากกว่า.. ส่วนคนเอเซียอย่างเราๆกลับมองเป็นเรื่องปกติ.. เพราะกลุ่มใครกลุ่มมัน.. เวลาอยู่ในกระเช้าเฉพาะกลุ่มก็จะมีความเป็นส่วนตัวสูง.. จะถ่ายรูปหรือคุยกันเสียงดังยังไงก็ได้
นี่แหละระบบวิธีคิดของพลเมืองชาวสังคมนิยม.. หรือจะเรียกว่า.. นิยมทำสังคมให้ดีขึ้น.. ดีขึ้น.. ทำเพื่อส่วนรวม.. ใส่ใจในสังคมมากๆ
ลุงเคยคุยกับชาวเดนมาร์กท่านนึง.. ท่านจะทำงานเป็นเทคนิคเชี่ยนด้านกังหันลม.. ปัจจุบันท่านได้เสียชีวิตไปเรียบร้อยแล้วครับ.. แต่อยากนำมาเล่าเพื่อเป็นข้อมูลประกอบในเรื่องนี้ครับ
ท่านเล่าว่าชาวเดนมาร์กจะไม่นิยมเรียนสูงๆแม้จะเรียนฟรีก็ตาม.. ส่วนน้อยมากที่จะเรียนต่อในชั้นมหาวิทยาลัย..
เพราะพวกเขาต่อไปต้องแยกบ้านจึงเรียนสายอาชีวะเป็นส่วนใหญ่.. แล้วเริ่มต้นทำงานตามมาตราฐานขั้นต่ำที่มีกำหนดไว้.. แต่รายได้จะเติบโต.. ตาม ประสบการณ์และการพัฒนาฝีมือแรงงานที่เพิ่มขึ้น..จนอาจมีรายได้มากกว่าคนรุ่นเดียวกันที่เพิ่งจบมหาวิทยาลัยด้วยซ้ำ
ดังนั้นชาวเดนมาร์กเมื่อทำงานจะมีการศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม.. เพื่อพัฒนาฝีมือแรงงานให้เก่งและมีความเป็นมืออาชีพมากขึ้น.. ซึ่งก็เท่ากับ.. เป็นการพัฒนาประเทศชาติไปในตัว
ดังนั้นสำหรับชาวเดนมาร์กหรือชาวยุโรปแถบสแกนดิเนเวียนี้ไม่ได้ยกย่องอาชีพใดอาชีพหนึ่งเป็นพิเศษ.. แต่ยกย่องและให้ค่าจ้างตามคุณภาพของฝีไม้.. ฝีมือ.. หรือ.. มีความเป็นมืออาชีพสูงในอาชีพนั้นๆครับ
ลุงเคยดูข่าวทีวีครั้งหนึ่งที่พูดถึงคนยุโรปแถบนี้ว่ามีคุณหมอท่านนึง.. แต่งงานกับพนักงานเหมือนประมาณเทศกิจ.. ดูแลเกี่ยวกับต้นไม้สาธารณะมั้ง.. ประมาณนี้.. ในเนื้อข่าวผ่านสายตานักข่าวไทยที่ชื่นชมการไม่แบ่งแยกชนชั้นอาชีพ.. มองเป็นเรื่องของคุณค่าอาชีพ.. แต่สายตาลุงกลับมองว่า.. มันเป็นมุมมองปกติของเขา.. ที่พวกเขาไม่เคยมีการมองเหยียดในด้านอาชีพเลย.. พวกเขาจะเหยียดเรื่องของการเห็นแก่ตัวและเน้นความถูกต้องมากกว่า
ก็เหมือนกับข่าวเร็วๆนี้.. ในการประชุมอาเชี่ยนล่าสุดในไทย.. ที่นายกฯไทย.. กล่าวชมเชยถึงผลิตภัณฑ์รกแกะ.. ว่าใช้ดี.. มีคุณภาพสูง
แต่ชาวนิวซีแลนด์กลับงงว่า.. เรื่องนี้มันสำคัญมากจนนายกฯไทยต้องเอามากล่าวอ้างถึงด้วยหรอ
อารมณ์คงประมาณ.. ชาวต่างชาติมาไทย.. ก็ต้องหา.. ต้มยำกุ้ง.. ผัดไท.. ทานกัน.. ซึ่งเราคนไทยก็มองเป็นเรื่องธรรมดา.. เพราะเราคุ้นเคย.. เคยชินกับอาหารพื้นบ้านเช่นนี้แล้ว
การปรับเปลี่ยนค่านิยม.. สำหรับลุงนั้นเน้นว่าทำได้.. แต่ขบวนการ.. อาจยาก.. เพราะต้องปรับเปลี่ยนความคุ้นเคย.. และวิธีคิด.. ให้เป็นแบบแผน
แต่จะปรับเปลี่ยนไปสู่สิ่งใด.. ลุงก็ขอแนะนำให้ดูตัวอย่างระบบนิยมสังคม.. อย่างประเทศยุโรบทางแถบสแกนดิเนเวียเป็นหลักเพราะดูพวกเขาแล้วจะเห็นว่า.. อยู่กินแบบไร้ความกังวล.. จนไม่ต้องร่ำรวยมากก็ได้
แต่ที่สำคัญคือ.. ต้องมีนักการเมืองที่มีอุดมการณ์.. ความมุ่งมั่นที่มากพอเป็นแกนนำ.. เพื่อไปสู่การเปลี่ยนแปลงสังคมในครั้งนี้..
ลุงก็หวังไว้ว่า.. คงจะมีนะ.. นักการเมืองท่านนี้
แค่อยากให้ข้อคิดถึงนักการเมืองไทยทั้งหลายว่า
ไม่ต้องอ้างว่าทำเพื่อประชาชนคนไทยหรอก.. เพราะพูดมา.. ความน่าเชื่อถือของพวกคุณอยู่ในระดับ.. ต่ำสุดขีด
แต่อยากให้พวกคุณทำเพื่อลูกๆ.. หลานๆ.. ของพวกคุณเองนั่นแหละ.. ที่พวกเขาจะเติบโตขึ้นมาอย่างมีความสุข.. ในสังคมที่วางใจได้ว่า.. แม้จะไม่รวย.. ก็ไม่ลำบาก.. มีที่กิน.. มีที่เรียน.. มีที่รักษาเมื่อป่วยไข้.. ปัจจัยพื้นฐานมีครบ.. ที่เหลือก็ขยันพัฒนาตนเองกันไป.. เพราะฐานะทางเศรษฐกิจก็จะถูกพัฒนาไปด้วยครับ
นะ.. นะ.. ทำเพื่อลูกหลานตนเองเหอะ.. เพราะอะไรรู้มั้ยลุงจะบอกให้ว่า..เคยได้ยินภาษิตง่ายๆอย่างนึงมั้ย..รวยไม่ทน..จนไม่นาน
ทุกวันนี้ที่ทุกคนดิ้นรนหนีจนเพราะกลัวอดตาย
แต่ถ้าทางยุโรปแถบนั้นน่ะ.. คำว่าอดตาย.. ไม่มีกิน.. ลุงคิดว่าพวกเขาคง.. งง.. อะว่า.. มีด้วยหรอ
จบหมดทุกความตั้งใจที่อยากบอกเล่ามานานแล้วในเรื่องนี้.. มันอึดอัดมาก..
เพราะมันอยู่กับความคิดลุงมานาน..
วันนี้ได้ปลดปล่อยออกมาเป็นบทความ.. ซึ่งจะอยู่แบบไม่ต้องกลัวที่จะลืมเมื่อคิดได้อีก
เหนื่อยมามากเพราะอ่านบทความยาวๆแบบนี้.. ลุงต้องขอโทษเรื่องเครียดนิสนึงนะ.. ไปล่ะ🕺Bye
ถ้าชอบ.. กด.. 👍👍👍👍👍
ถ้าใช่.. ช่วยแชร์.. และ.. กดติดตาม.. อย่าได้ยั้งเชียว

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา