9 พ.ย. 2019 เวลา 01:21 • ปรัชญา
เมื่อเราโตขึ้นเรามีเวลาให้กับทุกเรื่องน้อยลง
ทำไมผมถึงคิดแบบนั้นนะหรอ...ก็เพราะว่าเราโตขึ้น เราเป็นผู้ใหญ่ เราไม่ใช่เด็ก เราภาระ เรามีหน้าที่ แล้วเรามีครอบครัว เราต้องรับผิดชอบหลายๆอย่าง นี้แระที่ใครๆเค้าเรียกว่าผู้ใหญ่
สมัยตอนเด็ก
เมื่อเราเจอเรื่องที่แย่ เช่น อกหัก เรามีเวลาฟูมฟายเสียใจกับความรักที่เสียไปได้ยาวนาน 1 สัปดาห์ 2 สัปดาห์ หรือเป็นเดือน เราหยุดเรียนได้เพราะเรื่องนี้ หรือแค่เราโดนรังแก แกล้งบ่อยๆ เรามีเวลาอยู่กับมันได้นานเท่าที่เราต้องการ ไม่พลังงานเรายังพักได้ ตราบที่เราต้องการ
เมื่อเราเจอเรื่องที่ดี เช่น ของเล่นใหม่ เรามีความสุขกับมันได้ยาวนานจนกว่าเราจะเบื่อมัน ความรัก เรามีเวลาทบทวน มีเวลาใส่ใจ มีเวลาเติมหวาน ครอบครัว เรามีเวลาเต็มที่กับพ่อและแม่ มีพลังงานล้นเหลือ
สมัยที่เราโตขึ้น เผชิญกับโลกความเป็นจริง
เมื่อเราเจอเรื่องแย่ ไม่ไม่อาจมีเวลาให้กับได้นานอย่างที่ใจต้องการ เมื่อเราอกหัก เราไม่สามารถฟูมฟายได้นาน เพราะเราต้องทำงาน ต้องแคร์ผู้คน
เราเป็นผู้นำ เรามีภาระหน้าที่ เราเสียใจขนาดไหน ตอนนี้ก็ต้องทำงาน พร่งนี้ก็ต้องทำงาน เจอเรื่องงาน เจอเรื่องครอบครัว เราไม่พลังงานแต่เราพักไม่ได้
เมื่อเราเจอเรื่องดี เราไม่อาจดีใจกับมันได้นาน เพราะเรื่องดีอยู่ได้ไม่นานกว่าที่เราคิดไว้ เช่น วันนี้เราทำงานสำเร็จได้ตามเป้าหมาย ก่อนเวลากำหนด หัวหน้าชมเรา แต่มาพร้อมหน้าที่ใหม่ เราเจอความรักแต่เราไม่มีเวลาให้กับความรัก เราโตมาทำงานมั่นคงทำให้พ่อแม่ภูมิใจ แต่เรากับไม่มีเวลาให้พวกท่าน เราคิดว่ายิ่งโตยิ่งมีอิสระ มีเวลาแต่มันไม่ใช่เลย เราดีใจได้แค่ 1 นาที 1 ชั่วโมง 1 วัน แต่น่าจะไม่เกิน 1 วัน
สมัยชรา
เรามีทุกอย่าง เงินทอง เวลา แต่ไม่มีครอบครัว ไม่พลังงาน เราดีใจที่ได้เกษียณอายุ แต่ดีใจได้ไม่นานเมื่อพบว่าลูกๆของเรา มีครอบครัวแล้วพวกเค้าต้องดูแลครอบครัวของพวกเค้า ไม่มีเวลาให้เรา หลานๆพวกเค้าโตกว่าจะมีเล่นกับคนชราอย่างเรา พวกเค้ามาหาให้เราเพราะเรามีขนม ของเล่น แต่สุดท้ายพวกเค้าก็จากไปอยู่ในสังคมพวกเค้า
ยิ่งเราโตมากขึ้นเท่าไหร่ เรายิ่งไม่มีเวลาให้กับสิ่งไหนได้นานที่ต้องการ ทุกช่วงที่เราโตมักจะมีข้อจำกัด เงื่อนไขของมัน
โฆษณา