ว่าด้วยเรื่อง "ปากไม่ตรงกับใจ"
จริง ๆ เรื่องนี้จัดอยู่หัวข้อเดียวกับเรื่องที่เขียนเมื่อคืนได้ครับ แต่อยากเปรียบเทียบกับอีกพฤติกรรมหนึ่งเลยเขียนแยกออกมา
เชื่อว่าหลาย ๆ คนอาจจะเคยตกอยู่ในสถานการณ์ "ปากไม่ตรงกับใจ" ด้วยตัวเอง หรือรับรู้เรื่องราวลักษณะนี้จากคนใกล้ตัวกันมาบ้างนะครับ ประมาณว่า แอบชอบคนอื่นแต่ไม่กล้าบอก พอมีโอกาสกลับแสดงออกในทางตรงกันข้าม เช่น แสดงพฤติกรรมไม่ดีบ้าง ปากแข็งไม่ยอมรับบ้าง
ทำไมเราถึงแสดงออกอย่างนั้น?
พฤติกรรมปากไม่ตรงกับใจนั้น มักจะเกิดกับคนที่มีความเป็นผู้หญิงสูง (Feminine traits) ซึ่งมักจะมีความอ่อนไหวทางอารมณ์ที่สูง (ทางทีก็จะเรียกรวมกันว่า Expressive traits) คนพวกนี้จะไวต่อความรู้สึกของคนอื่น มีความเห็นอกเห็นใจคนอื่นมากกว่า ซึ่งชื่อก็บ่งบอกอยู่แล้วครับว่า แนวโน้มพฤติกรรมนี้จะพบในผู้หญิงได้มากกว่า (แต่ก็พบในผู้ชายได้เช่นกัน)
เมื่อเขาได้พบกับคนที่ชอบ จะเกิดความเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์และความคิดอย่างเฉียบพลัน ซึ่งมันจะทำให้เขารู้สึกว่า เกิดอะไรขึ้นกับเขา และทำตัวไม่ถูกว่าควรจะทำอย่างไร ควรจะพูดอย่างไร
ความเปลี่ยนแปลงนี้จะสร้างความสับสนในใจ ซึ่งปกติคนเราจะไม่ชอบเก็บความรู้สึกนี้ไว้ครับ คนบางส่วนจึงเลือกที่จะแก้ปัญหาด้วยกลไกป้องกันทางจิตแบบ Projection คือ "ที่ฉันรู้สึกแปลกแบบนี้ มันเป็นเพราะเธอนั่นแหละ" จึงตอบสนองด้วยการพยายามให้คนที่เขาชอบออกไปห่าง ๆ อาจจะขับไล่ด้วยวาจา หรือการทำเป็นเฉยชาไม่สนใจ เพื่อให้อีกฝ่ายออกห่างไปเอง โดยเขาเชื่อว่าการทำเช่นนั้น ความรู้สึกสับสนในใจจะหายไปได้ (อย่างน้อยก็ ณ ขณะนั้น)
ทีนี้มันแตกต่างอย่างไรกับคนที่เกลียดเราหล่ะ เพราะคนที่เกลียดเราก็อยากให้เราออกห่างเหมือนกัน?
มันมีความแตกต่างกันอยู่นิดเดียวครับ หากเป็นคนที่ชอบแต่ถูกขับไล่ด้วยพฤติกรรมปากไม่ตรงกับใจ คนที่ไล่จะยังมีความรู้สึก "สุขใจ" (Joyful) ที่จะได้อยู่ใกล้ ดังนั้น ให้ลองสังเกตุดูว่า เขายังแอบมาสังเกตุคนที่เพิ่งไล่ออกไปหรือเปล่า คอยเป็นห่วงเป็นใย แอบมองอยู่ห่าง ๆ อยู่หรือเปล่า หากเขาทำทีไม่สนใจแต่กลับรู้เรื่องของเราหลาย ๆ อย่าง แบบนี้แสดงว่าเขาแค่ปากไม่ตรงกับใจครับ
ซึ่งมันจะตรงกันข้ามกับคนที่เกลียดเราครับ คนที่เกลียดเราเขาจะไม่รู้สึกสุขใจที่เราอยู่ใกล้ (Disgust) ดังนั้น หากเขาไล่เราออกไป เขาจะไม่สนใจเราอีก ถ้าเป็นลักษณะนี้ก็อย่าไปเผลอคิดว่า เขาปากไม่ตรงกับใจนะครับ
แต่ก็จะมีคนที่เกลียดเราอีกประเภทหนึ่ง ที่ถึงจะไล่เราออกมาแล้วแต่ก็ยังแอบมาสังเกตุการณ์ดูว่าเราเป็นอย่างไรบ้าง อันนี้แบ่งออกได้เป็น 2 จำพวกครับ
จำพวกแรกคือ เขาไม่ชอบเรานั่นแหละ เพียงแต่เขาไม่อยากรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนไม่ดี เขาจึงมีความเห็นอกเห็นใจ (Empathy) ต่อคนที่เขาเพิ่งไล่ไปอยู่บ้าง คือสงสารก็สงสารอยู่ครับ แต่จะให้รักคงไม่ได้
กับอีกจำพวกคือ เขาไม่ชอบเรา แต่บนความไม่ชอบนั้นมันมี "ความกลัว" ผสมอยู่ด้วยเหตุผลบางอย่าง เช่น กลัวว่าเราจะได้ดีเกินกว่าเขา หรือกลัวว่าการมีอยู่ของเราจะทำให้เขารู้สึกแย่กับตัวเองมากขึ้น ด้วยความกลัวนี้เอง เขาจึงจะคอยมาสังเกตุเราอยู่บ่อย ๆ เพื่อติดตามว่า เราเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้างแล้ว ไม่ใช่เพราะห่วงใยครับ
อย่างไรก็ตาม หากมีคนที่ไม่ชอบเรามาคอยติดตามเรา ก็ขอให้สบายใจได้ครับ ธรรมชาติของคนเรา เราจะไม่เก็บคนที่ไม่อยากใส่ใจเอาไว้เป็นเวลานาน เมื่อเวลาผ่านไป สังคมและคนรอบข้างเปลี่ยนแปลงไป เขาจะค่อย ๆ เลิกสนใจเราไปเองครับ
อาจจะใช้เป็นแนวทางในการสังเกตุคนรอบข้างได้นะครับว่า ใครที่ชอบเราแต่เขาแค่ ปากไม่ตรงกับใจ
- 5
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
