11 พ.ย. 2019 เวลา 14:10 • สุขภาพ
วันแดงเดือดของหมีฟูกับพยาธิเม็ดเลือด ตอนจบ
วันแดงเดือดของหมีฟูกับพยาธิเม็ดเลือด ตอนจบ
เสาร์ 9 พ.ย. 14 น. กว่า ๆ
คุณพ่อ คุณแม่และไดนก กลับมาจากกินข้าวเช้า ตอนบ่ายกว่า ๆ.. เข้ามาที่คลินิค เป็นรอบสองของวัน
หมีฟูยังเลือดไหลออกจมูกอยู่เลย .. แต่น้อยลงกว่าตอนที่เราไปกินข้าว
น้ำเกลือขวดที่สอง ยังต้องรออีกนานกว่าจะหมด..
หมอบอกอาการดีขึ้นบ้างแล้ว ให้พวกเรากลับไปพักผ่อน แล้วก่อนห้าโมงคลินิคปิด ค่อยมารับหมีฟูกลับบ้าน
“.. ฟูอยู่ได้นะ ๆ เดี๋ยวก็ดีขึ้น ๆ ขอกลับไปพักหน่อย เหนื่อยเพลียกันมาก ๆ เดี๋ยวกลับมารับ..” (คนบอกหมา)
16.30 น.
ล้อหมุน.. ไปรับพี่ฟูกลับบ้าน...
16.50 น.
เห็นจำนวนรองเท้าที่จอดอยู่หน้าประตูคลินิคแล้วคิดในใจว่า ..วันนี้คนไข้ (หมา แมว) ของหมอเยอะจริง ๆ ขนาดนี่จะเป็นเวลาปิดแล้วนะเนี่ย ..
ดีใจที่ฟูมาแต่เช้า นี่เรามารับกลับ ไม่งั้นหมอคงไม่มีเวลามาดูแลเยอะอย่างตอนเช้าแน่เลย
คนส่งกระแสจิต “ฟู.. เป็นยังงัยบ้าง??”
หมีฟู “มากันแล้วเหรอ ฟูหลับไปงีบนึงนะ ฝันอะไรมั่วตั้วไปหมดเลย แต่ตื่นมา เห็นหน้ายายกับพี่นก ก็สบายใจละ กลับบ้านเราเถอะ น้ำเกลือหมดแล้ว”
หมอบอก โชคดีวันนี้แล็ปงานน้อย ตรวจเร็ว ..
ผลเลือด เม็ดเลือดแดง ฮีมาโตคริต
เกร็ดเลือด และเม็ดเลือดขาว ของพี่ฟูมีประมาณครึ่งเดียวของค่าปกติ
ผลเลือด เม็ดเลือดแดง ฮีมาโตคริต เกร็ดเลือด และเม็ดเลือดขาว ของพี่ฟูมีประมาณครึ่งเดียวของค่าปกติ
และ สำหรับเชื้อ ที่เราต้องการรู้ผล...
แถ่มแท้ม...
ไม่พบเชื้อ!?!
หมอบอกว่าเป็นไปได้ ที่การดูด้วยกล้องจะไม่เห็นเชื้อ .. แต่อาการที่ฟูเป็น 90% เป็นพยาธิเม็ดเลือดตัว “E” หมอให้ยาไปครอบคลุมที่คาดว่าจะเป็นแล้ว …
และหมอยังแนะนำให้ตรวจพี่ ๆ น้อง ๆ ของฟูที่เหลือ เพราะมีโอกาสเป็นเหมือนกัน
ค่าตรวจเท่าไรคะหมอ ..ตัวละ 500 บาทครับ
ถ้าตรวจเจอก็ให้ยา ก่อนจะปล่อยให้เป็นเยอะอย่างฟู
อีก 6 ตัวเหรอ
คิดเลขในใจ วันนี้ค่าตรวจ ค่าหมอ ค่ายาฉีดและกิน อาหาร A/D รสไก่ รวมกัน ก็เกือบ 3 พันห้าแล้ว
เอาว่า สุ่มละกัน 3 จาก 6 ตัว ถ้าเจอเชื้อก็ต้องกินยารักษาไปให้หมด ...
ยาสำหรับพี่ฟู กลับมาบ้านต้องดูแลกินต่ออีก 1 เดือน มี Doxycycline 100 mg 2x1 เช้าหลังอาหาร (ระวังกินพร้อมธาตุเหล็ก แคลเซียมในอาหารพวกตับ นม เลือดหมู เพราะยาจะจับกับแร่ธาตุพวกนี้) ส่วนมื้อเย็น กิน Ferrous ของหมา 2x1 บำรุงเลือด เม็ดเลือด
(คนที่เคยเลี้ยงหมาที่กินยายาก แล้วต้องป้อนยานานหลาย ๆ วันคงเข้าใจอารมณ์)
และหมอยังให้ Transamin แคปซูล 250 mg (ห้ามเลือด)และ Folic 5 mg (กระตุ้นการสร้างเม็ดเลือด) เพื่อให้ทานต่ออีก 7 วัน ถ้าเลือดยังไหลไม่หยุด
ยา4ตัวของพี่ฟู
และก็ได้กินจริง ๆ เพราะเมื่อพี่ฟูมาถึงบ้าน ก็มีอาการเลือดไหลออกจมูกอีกแล้ว..
แม้ไม่มากเท่ากับเมื่อเช้าก่อนหาหมอ แต่ก็รอง ๆ กันนิดเดียว
ประคบน้ำแข็งแล้วก็ยังไม่ดี เริ่มกังวลมาก ๆ เพราะนี่ก็มืดเข้าไปทุกที เลือดออกมากอย่างนี้ คลินิคปิดวันอาทิตย์ (พรุ่งนี้) จะยังไงต่อ ถ้าเป็นอะไรมาก ก็ต้องรีบรักษาให้ดีที่สุดในวันนี้
ประคบน้ำแข็งแล้วก็ยังไม่ดี เริ่มกังวลมาก ๆ เพราะนี่ก็มืดเข้าไปทุกที เลือดออกมากอย่างนี้ คลินิคปิดวันอาทิตย์ (พรุ่งนี้) จะยังไงต่อ ถ้าเป็นอะไรมาก ก็ต้องรีบรักษาให้ดีที่สุดในวันนี้
สุดท้าย ประสานกับหมอคนเดิม ได้พี่ป๋อง จนท. มาช่วยห้ามเลือด และให้น้ำเกลืออีกเข็ม (เราต้องขับรถเข้าเมืองซื้อสาย IV set 20 drop สองชุดอีก)
เรียกว่าตั้งแต่เช้ายันค่ำ เหนื่อยแฮ่กกันทุกคน
แถมหมา ๆ ยังพากันเอารองเท้าพี่ป๋องที่จอดหน้าบ้าน (ลืมใส่ตู้รองเท้า) ไปแทะกันอร่อยอีก
นอกจากค่ายาแล้ว ยังต้องแถมรองเท้าคู่ใหม่ให้พี่เค้าอีกด้วยนะเนี่ย ... พวกเอ็งนี่มัน.. จริง ๆ
จมูกเป็นแผลเปิด เลือดเลยยิ่งไหลมากกว่าปกติ
กลางคืนแล้ว ตอนแรกจะรอจนสี่ทุ่มให้น้ำเกลือ 500 ซีซี ..แต่ไม่ไหว ตาจะปิด คุณแม่ก็เลยตัดสายน้ำเกลือ (ไม่งั้นพี่ฟูอาจลุกไปมา ทำเสาแขวนล้มหรือกัดสายน้ำเกลือ) แล้วเข้านอน
ฟูก็ฉี่บนผ้าที่ปูนอน ก็เช็ดกันตามระเบียบ
วันอาทิตย์ 10 พ.ย.
พี่ป๋องเจ้าหน้าที่ก็มาช่วยเซ็ตน้ำเกลือให้อีก วนเรื่องยา อาหาร ฉี่ ทั้งวัน จนค่ำ
มีช่วงบ่าย ๆ ที่คุณแม่ปอกส้มโอ กลิ่นน้ำมันระเหยซีตรัส ฟุ้งไปถึงฟูที่นอนอยู่ ฟูฮัดชิ้วว .. จนเลือดออกอีกหน่อย …
 
ช่วงเย็น ๆ พี่ฟูพอมีแรง ประจวบกับมีพี่ ๆ น้อง ๆ มายืนเป็นกองเชียร์หน้าบ้าน ฟูเลยมีกำลังใจเดินไปฉี่ในสนามหญ้า เดิน แล้วหมอบพัก อยู่ครึ่งชั่วโมง..นี่ก็ถือสายน้ำเกลือรออยู่ ตามใจหมา..
พี่ฟูขอนอนนั่งเล่นหน้าบ้านอยู่กับพี่ๆน้องๆสักครู่ตอนค่ำๆวันอาทิตย์
ระหว่างนั้น พี่ ๆ น้อง ๆ ฟู (แบ๊ว พี่ถุง บิวตี้ มุด จิ๋ว ไวท์) ก็เดินมาดมใกล้ ๆ แต่ไม่ถึงขั้นถูกตัว คงรู้สึกไม่ชอบกลิ่น จากการไปคลินิคและมีกลิ่นเลือด กลิ่นป่วย ๆ (เคยมีรุ่นก่อนที่ตัวแม่บัดดี้ป่วยมาก เจ้าตัวเล็ก..ลูกสาว มีอาการกลัว ไม่กล้าเข้าใกล้เลย)
หลังเติมกำลังใจจากพี่ ๆ น้อง ๆ และธรรมชาติ ก็ได้เวลากลับเข้ามานอนในบ้านอีกรอบ... ต้องให้น้ำเกลือกันอีกเข็ม ก่อนพี่ฟูจะทำเสาน้ำเกลือล้ม ตอนเราเผลอกันช่วงดึก
คุณแม่บอกว่า ฟูก็ตกใจ ยืนนิ่งเป็นสิบนาที แหม ถ้าเสาไม้ที่เราดัดแปลงเป็นเสาน้ำเกลือกันชั่วคราว ตกคว่ำใส่พี่ฟู คงได้คอหักตาย ก่อนจะตายเพราะพยาธิเม็ดเลือดนะเนี่ย ..
วันจันทร์ 11 พ.ย.
วันนี้ ฟูมีแรงขึ้นมาก กินง่ายขึ้นกว่าเมื่อวาน ที่จะเลือกกินแต่ หมูพะโล้ ไม่กินไข่ ไม่กินปลาดุกปลาทู ไม่กินเม็ด (อาหารเม็ด) ฯลฯ
แต่ตอนนี้ ฟูหิว ฟูกินปลาทูคลุกข้าวได้แล้ว ..
ตอนน้ำตาล บางแก้ว 13 ปี ป่วยเป็นคนไข้ติดเตียงอยู่ 1 ปี กิน ขี้ เยี่ยว น้ำเกลือ เช็ดตัว ฯลฯ ทำกันเองในบ้าน คุณพ่อคุณแม่ก็เป็นหลักในการดูแล มีเด็ก ๆ ช่วยกันนิด ๆ หน่อย ๆ หลังจากน้ำตาลเสียชีวิต เราก็คิด ๆ ว่าจะไม่เลี้ยงหมาอีก เพราะเหนื่อย เข็ดขี้อ่อนขี้แก่จริง ๆ
แต่มันก็มาถึงจุดนี้ แค่นี้เหนื่อย
เหนื่อยกาย เพราะคนก็แก่ขึ้นเรื่อย ๆ และเศรษฐกิจแบบนี้ ทุกอย่างต้องรัดเข็มขัด เหนื่อยใจ…
เอาว่าอย่าประมาทกับเวลาทั้งของตัวเอง ของหมา อะไรก็เกิดได้ทั้งนั้น
หมาขนาดหมีฟู (นนไม่เกิน 25 กก. อายุ 1 ปี เทียบเท่าอายุ 18 ปีคน ถ้า 2 ปี คือ เบญจเพส คน)
อายุน้อย อายุมาก ก็ป่วยได้ ไม่ว่าคน ไม่ว่าสัตว์
และเตือนใจกัน ..ดูแลกันให้ดีเรื่องเห็บหมัด ถึงแม้จะไม่สามารถป้องกันได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ก็ต้องพยายามดูแล เพื่อลดความเสี่ยงต่อโรคที่มาจากสัตว์ตัวจิ๋วจอมเบียดเบียน
ไม่ว่าจะอาบน้ำ โรยแป้ง ใส่เข็มขัด ทั้งหมดคือสูตรกำจัดเห็บหมัด ที่บ้านเราก็ทำแล้ว แต่เนื่องจากมีสนามหญ้า มีดิน มีร่องกระเบื้อง และมีสุนัขและควายข้าง ๆ บ้าน ที่เห็บหมัดสามารถดูดเลือด ออกไข่และทำให้ตัวอ่อนโตได้รุ่นแล้วรุ่นเล่า มันก็ไม่มีทางหมด
เห็บตัวเมีย เหมือนลูกเกด ตัวผู้แบน ๆ สีน้ำตาลเข้ม ๆ จะผสมพันธุ์กันบนตัวน้องหมา แล้วค่อยร่วงไปออกไข่บนพื้นหญ้าพื้นดิน
คนที่เคยคิดว่า เห็บตัวเมีย ถ้าทำให้ตาย ท้องแตกแล้วไข่จะออกมาจากท้องกลายเป็นตัวอ่อนมากมาย..
ไดนก เคยเจอข้อมูลที่ว่า ไม่เป็นความจริง เพราะมันต้องคลอดปกติทางช่องคลอดแม่ ถึงจะมีเมือกหุ้มให้ตัวอ่อนสมบูรณ์ หากตายท้องกลม ตายอุบัติเหตุ ตัวอ่อนจะไม่สามารถรอดมามีชีวิตได้
เห็บหมัด-หมา เป็นของคู่กัน
เราก็พยายามอยู่กันแบบไม่เบียดเบียน แต่มันก็ต้องกระทบกระทั่งกันบ้าง
คิด ๆ ไปก็ไม่ต่างจากคนที่มีหลายแบบ หลายสถานะมาอยู่ร่วมกัน
“เราต้องคิดให้เป็นมากกว่าตัวเห็บหมัด”
จะไม่เบียดเบียนคนอื่น ไม่ทำร้ายคนอื่น ..
เพราะเราเป็นคน ไม่ใช่เห็บหมัด
เรื่องนี้ ยาว... และเป็นเรื่องจริงค่ะ
Based on True Story
วันแดงเดือดของหมีฟูกับพยาธิเม็ดเลือด
รูปนี้ถ่ายเมื่อตอนเย็นวันจันทร์ค่ะ พี่ฟูดีขึ้นมากแล้วค่ะ ขอบคุณทุกกำลังใจ
อยากขอบคุณ ไดโนเอฟซี ที่สละเวลาอันมีค่า อ่านจนจบถึงตรงนี้ เป็นกำลังใจให้ “ทั้งคนและหมา”
นกหวังว่าเพื่อนพี่น้องจะได้รับประโยชน์กลับไปบ้าง เป็นการตอบแทนนะคะ
ขอได้รับคำขอบคุณและมีความสุขมาก ๆ ค่ะ
#สโนไวท์กับพี่น้องทั้ง7
นกไดโนสคูล🐦
11-11-19
วันลอยกระทง
โฆษณา