12 พ.ย. 2019 เวลา 11:30
กรณีศึกษา Bloomerent ธุรกิจแชร์ดอกไม้งานแต่ง / โดย ลงทุนเกิร์ล
ถ้าเราสามารถได้เงินคืนบางส่วนจากค่าดอกไม้ในงานแต่ง
หรือแม้แต่ได้ดอกไม้ในงานในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาดเกือบครึ่ง
ทั้งสองเรื่องคงเป็นเรื่องน่ายินดีสำหรับเหล่าเจ้าสาว
เพราะหากคิดถึงงานแต่งงาน สิ่งแรกๆ ที่มาพร้อมกันเลยก็คือ “ดอกไม้”
ที่สำคัญคือ ค่าดอกไม้เหล่านี้ถือว่าไม่น้อยเลย ขึ้นอยู่กับความต้องการของเจ้าสาว
ยิ่งสวย แน่นอนว่าราคาก็จะยิ่งสูงตามไปด้วย
แต่แม้ว่าดอกไม้เหล่านี้จะสวยงามขนาดไหน
หลังจากประดับอยู่ไม่กี่ชั่วโมง กลับต้องถูกเก็บกวาดลงไปอยู่ในถังขยะ
แปลว่าเงินที่เราจ่ายไป ก็หายไปในพริบตาเช่นเดียวกัน..
พอเรื่องเป็นแบบนี้ คุณ Danit Zamir ซึ่งก็เคยเป็นหนึ่งในเจ้าสาวที่ต้องเผชิญกับปัญหานี้เช่นกัน
เธอจึงคิดว่าถ้ามีแฟลตฟอร์มที่เอาไว้ส่งดอกไม้ให้งานอื่นสามารถนำไปใช้ต่อได้คงจะดีไม่น้อย
ต่อมาในปี 2014 คุณ Zamir ได้ก่อตั้ง Bloomerent ขึ้น
และชวนคุณ Julia Capalino เข้ามาร่วมทำธุรกิจด้วยในปี 2016
Bloomerent คืออะไร?
พูดง่ายๆ Bloomerent ก็คือตัวกลางสำหรับจับคู่ระหว่างผู้ที่ต้องการส่งต่อดอกไม้
และผู้ที่จะรับดอกไม้มาใช้งานต่อ
หลักการทำงานของ Bloomerent เริ่มจากให้ผู้ที่ต้องการจะจัดงานแต่งงานหรืองานสังสรรค์กรอกข้อมูลวันเวลาและสถานที่ รวมถึงเลือกว่าจะเป็นฝั่ง Event A หรือ Event B
Event A คือผู้ที่ต้องการจะส่งดอกไม้ต่อหลังเลิกงานแล้ว
ผู้ที่เลือก Event A สามารถติดต่อนักจัดดอกไม้ของ Bloomerent เพื่อเลือกแบบที่ต้องการ
โดยจะมีการนำรูปดอกไม้ของเราเข้าในระบบ เพื่อหาผู้ที่ต้องการจะใช้ดอกไม้ต่อ หรือฝั่ง Event B
ในกรณีที่สามารถจับคู่ระหว่าง Event A และ Event B ได้สำเร็จ
ผู้จัดงาน Event A จะได้รับเงินคืนประมาณ 10% ของค่าดอกไม้ที่จ่ายไป
ส่วน Event B ก็จะได้ดอกไม้ในราคาที่ถูกลงประมาณ 40-60%
โดยที่สามารถปรับแต่งรูปแบบของดอกไม้ได้เล็กน้อย
สำหรับการติดตั้งดอกไม้และการรับส่งดอกไม้ระหว่างงานเลี้ยง Bloomerent จะเป็นผู้ดำเนินการให้ทั้งหมด
เรื่องนี้ทำให้ Bloomerent กลายเป็นสิ่งที่เข้ามาตอบโจทย์ของเจ้าสาวหลายๆ คน
จึงไม่น่าแปลกใจว่าธุรกิจเติบโตอย่างรวดเร็ว
โดยสามารถขยายพื้นที่ให้บริการไปยังหลายๆ เมืองของสหรัฐอเมริกาในเวลาไม่นาน
เรื่องของ Bloomerent ถือเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจ
เป็นการประยุกต์ใช้ Sharing Economy ซึ่งกำลังเป็นเทรนด์ธุรกิจในปัจจุบัน
ในเมื่อทุกวันนี้ เรามีธุรกิจ Ride Sharing อย่าง Uber หรือ Grab ที่นำรถส่วนตัวไปรับส่งผู้โดยสารในเวลาที่ไม่ได้ใช้งาน รวมถึงมีธุรกิจ AirBnb ที่ปล่อยที่พักอาศัยให้ผู้อื่นเช่า
ดังนั้นหากจะมีธุรกิจ Flower Sharing บ้าง
ก็น่าติดตามว่าจะประสบความสำเร็จเช่นเดียวกันหรือไม่..
โฆษณา