12 พ.ย. 2019 เวลา 11:49 • ธุรกิจ
แนะช่องทางรวย ด้วยการหาเงินจาก “ความขี้เกียจ”
รู้มั้ยว่าเด๋วนี้คนบนโลกเรา “ขี้เกียจ” จนมีคนหาเงินสามารถทำเงินได้จากความขี้เกียจที่ว่า เราจะเล่าให้เจ้าฟังว่ามันคืออะไรยังไง
Credit: Search Engine Journal
เพิ่งอ่านเจอสรุปงาน “Thailand 2020 ก้าวข้ามพายุเศรษฐกิจ” จัดโดยหนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ โดย “คุณกระทิง” หมายเลข 1 จาก KBTG - KASIKORN BUSINESS TECHNOLOGY GROUP บริษัทที่เน้นพัฒนาเทคโนโลยีในเครือธนาคารกสิกรไทย ฉายภาพเทรนด์ที่น่าสนใจที่จะ Disrupt the Disruptors หรือแปลความง่ายๆว่า “จะกระทบแม้กระทั่งคนที่เปลี่ยนแปลงโลกเองเสียอีก”
คือนี่เป็นยุคที่ทุกคนไม่ว่าจะเป็นผู้นำหรือผู้ตาม มีโอกาส “โดนเท” ได้ตลอดเวลา เมื่อเทคโนโลยีมันวิ่งเร็วมากขนาดนี้ เช่น airbnb โดน OYO จากอินเดียเข้ามา disrupt จากที่ airbnb เองก็เคย disrupt กลุ่ม Online Travel Agency หรือ OTA เช่นพวก Agoda, Booking.com, Expedia มาก่อน (กรรมตามทัน หรือ เทคโนโลยีไล่ล่ากันแน่นะนี่)
1
กระทิง พูลผล ที่มา Techsauce
คุณกระทิงพูดถึง “เศรษฐกิจคนขี้เกียจ” หรือ Lazy Economy ว่าจะมีบทบาทต่อการสร้าง Disruption ใหม่ๆบนโลก
ทีนี้อะไรคือเศรษฐกิจคนขี้เกียจล่ะ...?
เรื่องของเรื่องคือ สมัยนี้คนต้องการความสะดวกสบายในชีวิตมากขึ้น ต้องการความง่าย ความด่วน ความสบายจนกระทั่ง “ยอมเปย์” หรือจ่ายเงินซื้อความสบายดังกล่าว เพื่อให้ตัวเองมีเวลามากขึ้น ยกตัวอย่างง่ายๆเลยคือ
- ขี้เกียจทะเลาะกับแท็กซี่ - เรียก Grab Taxi / Grab Car
- ขี้เกียจเดินทางไปกินอาหารที่ร้านดังเพราะคนเยอะ ขี้เกียจรอ - สั่ง Foodpanda / Grabfood / Lineman
- ขี้เกียจทำความสะอาดบ้าน - ใช้เครื่องดูดฝุ่นแบบโรบอทหรือหุ่นยนต์
มีการสำรวจออกมาพบว่าบริษัทประเภท Startup 100 รายทั่วโลก มี 34 รายที่ให้บริการปิดช่องว่างความขี้เกียจของคนเลยทีเดียว (ตกลงมันดีมั้ยเนี่ย เทคโนโลยีเนี่ย) เช่น บริษัท IBM ผู้ซึ่งเคยเป็นเจ้าโลกทางด้านคอมพิวเตอร์สำนักงาน ตอนนี้ทำ “Drone ส่งกาแฟ” อยู่ ในขณะที่ GoJEK ดาวรุ่งพุ่งแรงจากประเทศอินโดนิเซียผู้ปฏิวัติการเดินทางด้วยรถมอเตอร์ไซค์ กำลังพัฒนาบริการ “เติมน้ำมันถึงที่ โดยไม่ต้องไปที่ปั๊มน้ำมัน” เนื่องจากเมืองใหญ่ๆในอินโดนิเซียนี่รถติดบรรลัย แบบที่ กทม. “จิ๊บๆ” ไปเลยทีเดียว
Drone ส่งกาแฟ / Credit: Robotnews
Credit: Brand Inside
รู้หรือไม่ว่า แค่ในราชอาณาจักรไทยอย่างเดียวนั้น ปัจจุบันธุรกิจส่งอาหาร หรือ “food delivery” ที่ให้บริการโดย GrabFood / FoodPanda / LineMan และอื่นๆอีกมากมายนั้น มีมูลค่ารวมกันถึง 30,000 ล้านบาท (สามหมื่นล้านบาท)
GrabFood ที่มา Grab Thailand
ทีนี้มองไปในอนาคตคือ ธุรกิจส่งอาหารถึงบ้านเนี่ย มันจะลามลึกลงไปในห่วงโซ่อุปทานคือจะลามไปถึงเศรษฐกิจระดับครัวเรือนเลยทีเดียวเชียว
ลองนึกภาพดู ทุกวันนี้เราสั่งอาหารจาก “ร้านอาหารดัง” มาทานที่บ้านได้ เพราะเราขี้เกียจออกไป แต่ถ้าไม่ใช่ร้านอาหารดัง แต่ดันมี “เมนูเด็ด” แค่ไม่กี่เมนู เธอไม่ต้องเปิดร้านอาหารก็ได้นะ แต่เธอสามารถ “ขายเมนูเด็ด” ไปถึงลูกค้าโดยตรงได้เลย แบบนี้เค้าเรียกว่า “Direct to Consumer” หรือ “D2C” ซึ่งปัจจุบัน Grab กำลังตั้ง “ครัวกลาง” อยู่ใจกลาง กทม. เพื่อให้ร้านอาหารมาเช่าครัวขายอาหารออนไลน์กัน ในอนาคตพวกเธอที่มีเมนูเด็ด ก็อาจจะมาผัดกับข้าวมือเป็นระวิงอยู่ในครัวกลางของ Grab ก็ได้นะ (เผลอๆรวยกว่าเป็นมนุษย์เงินเดือนนะ)
1
ครัวกลางของ Grab / Credit: Droidsans
Food Panda เค้าไปทั่วประเทศแล้วนะ ที่มา FoodPanda
ที่นี้ ลองมองลึกไปถึงระดับ “วัตถุดิบ” ถ้าเธอไม่ได้เป็น Supermarket หรือร้านขายของชำที่ปกติมีคนมาซื้อของ แต่ที่บ้านเธอดันมี “ใบกะเพราสุดพิเศษ” แบบหายากมาก มีเฉพาะในท้องถิ่นแถวบ้านเธอ เธอก็สามารถส่งตรงถึงร้านอาหารดังๆที่รับซื้อแพงๆได้นะ เพราะเธอสามารถ Post ขายลง Platform ที่ขายของออนไลน์ หรือที่เรียกว่า E-Commerce ได้
และนั่นแหละคือจุดกำเนิดของ Alibaba ซึ่งเป็น Platform ขายของทางออนไลน์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกยุคปัจจุบัน เพราะ Alibaba อยากให้คนจีนแผ่นดินใหญ่ ที่อยู่ไกลความเจริญสามารถมีช่องทางขายสินค้าของตัวเองได้
Credit: MarketingOops.com
พวกเธอพอเห็นภาพมั้ย ว่าเธอสามารถมองดูตัวเองแล้วคิดใหม่ได้ว่า อนาคตข้างหน้าพวกเธอสามารถ “รวย” ด้วยการหาเงินจาก “ความขี้เกียจ” ได้ไม่ยากเลยนะ
ขอแค่เธอมี “ของดี” ในตัวเอง ลองกลับไปพิจารณาตัวเองดู ว่ามีทักษะหรือวัตถุดิบอะไรในตัวเธอเองหรือในครอบครัวที่จะเอามาใช้หาเงินจาก “เทรนด์” ที่กำลังเกิดขึ้นในโลกบ้าง อย่าเอาแต่เล่น Facebook อ่านข่าวดารา ดราม่าไปวันๆ
อะ ปิดท้ายด้วย 10 พฤติกรรมของคนขี้เกียจแห่งราชอาณาจักรไทย ให้พวกเธอลองไปดูกันว่า “ฉันจะหาเงินจากพฤติกรรมเหล่านี้ยังไง”
Credit: Marketeer Online
1. ออกกำลังกาย
2. รอคิวซื้อของ
3. ทำความสะอาดบ้าน
4. อ่านหนังสือ
5. ทำอาหาร
6. คุยกับคน
7. ดูแลผิวพรรณตัวเอง
8. เรียนหรือทำงาน (แบบนี้ก็ได้เหรอ)
9. ชอปปิ้ง
10. เดินทาง
ใครสนใจไป Search เพิ่มเติมเองกับคำว่า “Lazy Economic”
2
#สุลต่านตกอับ
โฆษณา