12 พ.ย. 2019 เวลา 11:10 • บันเทิง
รีวิว Doctor Sleep
ไม่ว่าจะเคยดูหรือไม่ แต่เชื่อว่าใครที่ชอบดูหนังเป็นหนึ่งในกิจกรรมยามว่าง น่าจะคุ้นชื่อของหนัง The Shining หนังสยองขวัญระดับตำนานเมื่อปี 1980 ที่กำกับโดย สแตนลีย์ คูบริก ซึ่งดัดแปลงจากนวนิยายสยองขวัญชื่อเดียวกันของ สตีเฟ่น คิง กันมาบ้างไม่มาก็น้อย
หนัง Doctor Sleep หรือในชื่อไทยว่า ลางนรก ก็คือภาคต่อของหนัง The Shining นั่นเอง เป็นภาคต่อที่ใช้เวลาเนิ่นนานกว่า 40 ปี ซึ่งภาคต่อนี้ยังคงนำนิยายชื่อเดียวกันของ สตีเฟ่น คิง มาเป็นต้นฉบับเช่นเดิม และกำกับโดย ไมค์ ฟลานาแกน ที่เคยกำกับ Oculus, Ouija: Origin of Evil และสร้างชื่อสุด ๆ กับการกำกับซีรีส์ The Haunting of Hill House ของ Netflix
สำหรับแฟนหนัง The Shining นี่คือหนังที่ให้ความรู้สึกเหมือนดูหนังคนละเรื่องเดียวกัน..!? ตลอดเวลาของหนังที่ยาวกว่า 2 ชั่วโมงครึ่ง ให้ความรู้สึกที่แตกต่างจาก The Shining ค่อนข้างมาก จากหนังที่ขายบรรยากาศไม่น่าไว้วางใจและสิ่งลี้ลับในโรงแรมโอเวอร์ลุค ที่กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญให้กับครอบครัวทอร์เรนซ์ กลายมาเป็นเรื่องราวการหักเหลี่ยมเฉือนคมของผู้มีสัมผัสพิเศษ (ในหนังเรียกพลังนี้ว่า The Shining) ที่ให้ความรู้สึกไม่ต่างกับการดูหนังซูเปอร์ฮีโร่ในธีมสยองขวัญ!
Doctor Sleep มีการเล่าเรื่องราวหลายเส้นมาก ทั้งชีวิตของแดน ทอร์เรนซ์ ที่พยายามปกปิดพลังตัวเองจากปมในวัยเด็ก แต่พลังนี้ก็ทำให้เขากลายเป็น "หมอหลับ" ที่ทำหน้าที่ส่งให้คนจากไปอย่างสงบ ยังมีเรื่องราวของ แอบรา หญิงสาวที่มีพลังในแบบเดียวกับแดน และเรื่องราวของ โรส เดอะ แฮท และกลุ่ม True Knot ที่ออกล่าผู้มีพลังเพื่อความเป็นอมตะ
ความรู้สึกแตกต่างที่ราวกับไม่ใช่หนังภาคต่อของ Doctor Sleep น่าจะเป็นผลดีกับคนดูหน้าใหม่ ที่ไม่จำเป็นต้องทำการบ้าน ด้วยการดูหนังหรืออ่านนิยาย The Shining มาก่อน ก็สามารถติดตามเรื่องราวใน Doctor Sleep ได้ไม่มีปัญหา แต่หนังใช้เวลาในการปูเรื่องราวและความสัมพันธ์ต่าง ๆ ค่อนข้างมาก
หนังเรียกร้องการติดตามและจดจำในรายละเอียด ที่น่าจะทำให้ Doctor Sleep เป็นหนังที่จะทำให้ใครหลายคน Sleep ไปได้อย่างไม่ยากเย็น แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าหนังจะไม่สนุก!
ต้องบอกกันตรง ๆ ว่าหนังถูกสร้างมาให้คนที่ชื่นชอบหนัง The Shining ที่จะรู้สึกอินกับเรื่องและสิ่งต่าง ๆ ในหนังมากเป็นพิเศษ แม้จะให้ความรู้สึกที่แปลกแตกต่าง แต่ไม่ได้มีปัญหาเลยกับการติดตาม ผลกระทบจากอดีตที่ส่งต่อมาถึงปัจจุบันของแดน พลังที่เกินหยั่งของแอบรา และวิถีชีวิตอันยืนยาวของ โรส เดอะ แฮท กับพรรคพวก ล้วนแล้วแต่เป็นอะไรที่น่าสนใจและชวนติดตามมาก ๆ ว่าบทสรุปจะออกมาอย่างไร
ภาพรวมของ Doctor Sleep เป็นหนังที่น่าค้นหา ลุ้นระทึกขวัญ มีความสนุกในแบบร่วมสมัย (เหมือนดูหนังซูเปอร์ฮีโร่ในธีมสยองขวัญ) ก่อนจะกลับไปสู่โรงแรมโอเวอร์ลุคอันเป็นตำนาน และกลายเป็น 30 นาที ที่พีคมาก ๆ และทำให้ความรู้สึกหลอน ไม่ไว้วางใจในแบบ The Shining กลับมาแบบเต็ม ๆ
สิ่งที่น่าชื่นชมเลยในการทำงานของผู้กำกับ ไมค์ ฟลานาแกน และทีมงาน ก็คือการหยิบใช้ประโยชน์ในรายละเอียดและฉากตำนานของ The Shining ในแบบไม่ย่ำยี หลายฉากเป็นการคารวะและหลายฉากก็เป็นการล้อเลียน ใครที่นิยมดูหนังและสนุกกับการจับโยงเชื่อมต่อ ฉากนี้เชื่อมกับตรงนี้ เหตุการณ์ล้อกับฉากนั้น น่าจะชอบหนังเรื่องนี้มากเป็นพิเศษเลย
โดยสรุป Doctor Sleep ไม่ใช่หนังที่เหมาะกับคนดูทุกคน ใครที่ไม่เคยดู The Shining มาก่อน สามารถดูเรื่องนี้ได้เลย เพราะหนังให้ข้อมูลเท่าที่จำเป็นไว้ใส่ไว้ในหนังแล้วเรียบร้อย แต่จะโดนใจหรือไม่ น่าจะอยู่ที่รสนิยมของแต่ละคน แต่สำหรับแฟน The Shining แฟนสแตนลีย์ คูบริก แฟนสตีเฟ่น คิง นี่คือหนังที่ต้องห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง
#ตีตั๋วชนโรง
#DoctorSleepMovie
#ลางนรก
#รีวิวหนัง
โฆษณา