"ตรงไหนของ...แมนฯยู"
ตอนนี้ปัญหาอาการบาดเจ็บของนักเตะแมนฯยูเริ่มจะดีขึ้นตัวหลักเริ่มกลับมาลงสนามได้ และผู้เล่นคนสำคัญที่เจ็บไปนานอย่าง "พอล ป็อกบา" ที่มีปัญหาอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้า ล่าสุดตอนนี้ถอดเฝือกเรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะกลับมาลงสนามได้หลังพักเบรคทีมชาติ หรือไม่ก็ต้นเดือนธันวาคม
ปัญหาก็คือเขาจะกลับมาเล่นในตำแหน่งใด?
การที่เขาเจ็บไปนานทำให้ "เฟร็ด" ได้รับโอกาสลงเล่นมากขึ้น ในช่วงแรกก็ทำผลงานได้ไม่ดีนัก แต่พอเริ่มปรับตัวได้ เขาก็เริ่มทำผลงานได้ดีขึ้น และการจับคู่มิดฟิลด์ตัวกลางระหว่าง แม็คโทมิเน กับ เฟร็ด กลายเป็นคู่ที่ลงตัวมากในเวลานี้
แล้วเมื่อป็อกบากลับมาควรจะทำยังกับตำแหน่งของเฟร็ดดี?
เพราะการที่จะให้เฟร็ดกลับไปนั่งสำรองแล้วให้ป็อกบามาเล่นคู่กับแม็คโทมิเนเหมือนเดิม ก็คงไม่ใช่เรื่องดีนัก เพราะทั้งคู่กำลังเข้าขากันไม่ควรที่จะปรับหรือเปลี่ยนอะไรตอนนี้
ก่อนอื่นต้องพูดถึงตำแหน่งถนัดของ ป็อกบา ก่อน
จริงๆตำแหน่งที่เขาถนัดที่สุดคือ มิดฟิลด์ตัวกลางฝั่งซ้าย ในแผนที่ใช้มิดฟิลด์ 3 ตัว เช่น 4-3-3 หรือ 4-3-1-2 เขาเป็นมิดฟิลด์ที่มีความสามารถในการ transition จากรับเป็นรุก และโดดเด่นในการพาบอลขึ้นหน้า ไม่ว่าจะเป็นการโยนบอลยาว หรือ การเลี้ยงบอลพาขึ้นไปเอง.
แต่เราจะเรียกว่า Box to Box ก็เรียกได้ไม่เต็มปาก เพราะป็อกบาไม่ได้ลงไปต่ำถึงกรอบเขตโทษของตัวเองแล้วพาบอลขึ้นหน้าจนถึงกรอบเขตโทษฝั่งตรงข้ามเหมือนที่ผู้เล่นสไตล์ Box to Box ชอบทำกัน
เนื่องด้วยแผนการเล่นที่โซลชาใช้เป็นหลักในฤดูกาลนี้คือ 4-2-3-1 มีมิดฟิลด์ตัวกลาง 2 ตัวยืนต่ำอยู่ที่สุดแผงกองกลาง คือปักหลักอยู่หน้ากรอบเขตโทษฝั่งตัวเอง.และมีหน้าที่ในการสกรีนบอลก่อนที่จะถึงกองหลัง และ ในบางครั้งก็ต้องพาบอลขึ้นหน้ามาเช่นกัน
คู่ของเฟร็ดและแม็คโทมิเน ค่อนข้างลงตัวเพราะว่ามีการแบ่งหน้าที่กันชัดเจนคือทั้ง 2 คนมีลักษณะการเล่นที่คล้ายกัน คือเล่นเกมรับได้ประมาณนึงและสามารถพาบอลขึ้นหน้าได้ประมาณนึง จะสังเกตุได้ว่าถ้า แม็คโทมิเนตัดบอลได้ก็จะส่งให้เฟร็ดพาบอลขึ้นหน้า กลับกันถ้าเฟร็ดตัดบอลได้ก็จะส่งให้แม็คโทมิเนพาบอลขึ้นหน้าแทน
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือทั้ง2คนมีความขยันมากพอที่จะวิ่งขึ้นวิ่งลงได้ตลอดเวลา. ถ้าเกิดเสียบอลและจะโดนสวนกลับทั้งคู่จะรีบวิ่งกลับมาทันที
แต่ป็อกบาไม่ใช่!!
ป็อกบาเป็นกองกลางประเภทที่มีทักษะสูง เขามีไอเดียในการสร้างสรรค์เกมรุกที่สูงมาก แต่การจะให้เขาแสดงความสามารถได้อย่างเต็มที่เราต้องให้เขาทำหน้าที่ในเกมรุกเป็นหลัก หรือพูดให้เข้าใจง่ายๆคือเราต้องมีคนคอยซัพพอร์ทเขไม่ให้เขาทำหลายอย่างเกินไปและไม่ต้องกังวลเกมรับในยามที่เขาเสียบอล เพราะฉะนั้นเขาถึงเหมาะกับแผนที่มีมิดฟิลด์3ตัว เพราะมีคนช่วยเหลือเขาในเกมรับถึง 2 คน
หรือถ้าจะเล่นแผนที่มีมิดฟิลด์แค่ 2 คน คนที่เป็นคู่หูของเขาจะต้องเป็นคนที่มีความสามารถในเกมรับได้ดีมาก ที่สามารถเบรคเกมรุกของฝ่ายตรงข้ามได้ด้วยตัวคนเดียว อย่างที่เขาเล่นกับทีมชาติฝรั่งเศส คู่หูของเขาคือ "ก็องเต้" ซึ่งเราคงไม่ต้องพูดถึงเรื่องความสามารถในเกมรับของเขาอีกแล้ว
"ซึ่งในทีมแมนฯยูตอนนี้ไม่มีผู้เล่นแบบนั้น"
การที่โซลชาเลือกที่จะเล่นแผน 4-2-3-1 แล้วให้ป็อกบายืนต่ำและไม่สามารถเติมสูงได้ ต้องเป็นห่วงเรื่องเกมส์รับเสมอ เพราะคู่หูของเขาไม่ใช่คนที่มีความสามารถในเกมรับสูงขนาดนั้น แบบนี้ก็ไม่สามารถดึงศักยภาพของเขาออกมาได้เต็มที่
เพราะฉะนั้นเราก็ควรให้ป็อกบาเป็นตัวสำรอง ?
การทำแบบนี้ก็จะทำให้ประสิทธิภาพในเกมรุกลดลงไปอีก และเนื่องจากแมนฯยูตอนนี้ไม่มีผู้เล่นที่มีความคิดสร้างสรรค์อยู่เลย ป็อกบาเป็นคนเดียวที่สามารถทำเรื่องนี้ได้ ยังไงเขาก็ควรได้ลงสนาม
แบบนี้เราจะแก้ปัญหานี้ยังไง ?
ง่ายๆครับ เปลี่ยนไปเล่นแผนที่มีมิดฟิลด์ตัวกลาง 3 ตัว จะ 4-3-3 หรือ 4-3-1-2 ก็ได้. แบบนี้คงเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด จับลงทั้ง 3 คนไปเลย. เฟร็ด แม็คโทมิเน ป็อกบา
แต่ถ้าให้ผมคาดเดาผมก็ยังเชื่อว่าบอสของเราคงเลือกใช้ 4-2-3-1 เช่นเดิม. แล้วถ้าเป็นแบบนี้ป็อกบาจะเล่นตำแหน่งไหนดี ?
ถ้าดูจากแผงกองกลางทั้งหมด คนที่ยังทำผลงานได้แย่ที่สุดก็คงเป็นตำแหน่งของ อันเดรียส เปเรร่า. ซึ่งเป็นมิดฟิลด์ตัวรุกที่ยืนอยู่หน้ากองหลัง ซึ่งจากที่ผมสำรวจความเห็นของแฟนแมนฯยูหลายคนก็เห็นตรงกันว่าถ้าจะใช้แผนนี้ ป็อกบาควรเล่นตรงนี้แทนที่อันเดรียสที่สุดในเวลานี้
ถามว่าป็อกบาเล่นได้ไหม?
ได้ครับด้วยทักษะที่เขามี ไม่ว่าจะเป็นการเล่นในพื้นที่แคบๆ หรือ การสร้างสรรค์โอกาส ป็อกบามีคุณสมบัติที่จะเล่นได้จริงๆ แต่ต่อให้เล่นได้ก็เถอะสุดท้ายมันก็ไม่ใช่ตำแหน่งที่เขาถนัดอยู่ดี แต่มันก็คือทางเลือกที่ดีที่สุด ณ ตอนนี้จริงๆ
แต่ถ้าเกิดเราให้เขาเล่นตรงนี้ เราก็ต้องยอมรับสิ่งที่มันขาดหายไปให้ได้เช่นกันครับ. การที่เขายืนปักหลักอยู่หลังกองหน้ามันทำให้เราขาดการโยนบอลจากแนวลึกไป หลายคนคงจำนักเปิดสนามที่แมนฯยูถล่มเชลซี 4-0 ประตูที่ 3 เกิดจากการวางบอลยาวจากฝั่งตัวเองให้แรชฟอร์ดเข้าไปยิง เราจะได้เห็นอะไรแบบนี้น้อยลง เพราะเฟร็ด กับ แม็คโทมิเน ทำเรื่องพวกนี้ได้ไม่ดีเท่ากับป็อกบาแน่นอน
และอีกสิ่งที่หายไปคือ ประสิทธิภาพในการเล่นเพรสซิ่งแดนบน เพราะป็อกบาไม่ใช่ผู้เล่นประเภทวิ่งไล่เพรสซิ่งอย่าง เปเรร่า หรือ ลินการ์ด เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ก็จะเสียไปเช่นกัน
พวกเราจะรับเรื่องนี้ได้หรือเปล่า?
ในความคิดเห็นส่วนตัวของผม ผมรับได้ครับ ถ้าเราอยากจะได้อะไร เราก็ต้องยอมเสียบางสิ่งไปเช่นกัน อย่างที่เราเคยได้ยินอยู่เสมอ "ของฟรีไม่มีในโลก"
ส่วนตัวผมเองก็อยากให้ลองจับป็อกบามาเล่นดูสักนัด แล้วค่อยตัดสินกันอีกทีว่าเขาควรจะเล่นตำแหน่งไหนกันแน่ ไม่ลองก็คงไม่รู้จริงไหมครับ ?
สุดท้ายสิ่งที่ผมพูดมาทั้งหมดคงไม่ไปถึงหูของโซลชาอยู่แล้ว ผมไม่ได้เป็นโค้ชเป็นแค่แฟนบอลคนหนึ่ง ผมก็แค่พูดจากความคิดผม ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นหรือไม่เกิดขึ้นเลยก็ได้ จริงๆโซลชาอาจจะมีแผนในหัวแล้วก็ได้ แล้วแผนนั้นอาจจะดีก็ได้ อีกไม่นานเราคงได้รู้กัน
แต่ไม่ว่าจะยังไงผมไม่อยากให้ทุกคนคาดหวังว่าทุกสิ่งมันจะต้องดีแน่นอน เพราะมันอาจจะทำให้เรารู้สึกแย่เวลาผลไม่ได้ตามที่หวัง
สิ่งสำคัญที่สุดคือไม่ว่าผลมันจะออกมายังไง ผมอยากให้เคารพการตัดสินใจของโซลชาและป็อกบา ผมไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ที่ป็อกบาโดนเหยียดสีผิวอีก และโปรดจงเชื่อใจในโค้ชและนักเตะของเรา เพราะเขาเองก็ต้องการทำทุกอย่างให้ดีที่สุดเพื่อประโยชน์ของสโมสรที่เรารักอยู่แล้ว การคอยซัพพอร์ท และให้กำลังใจโค้ชและนักเตะของเรามันคือหน้าที่ของ...
"แฟนบอลที่ดี" ไม่ใช่หรือ?
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
