ถ้าเด็กต้องเล่น แล้วเด็กวอลดอร์ฟเค้าเล่นอะไรกันนะ ห๊ะ?
เลโก้ก็ไม่ควรเล่นหรอ??!!??
จริงๆ ต้องแบ่งเป็น 2 ประเภทค่ะ คือ ควรเล่น และ ไม่ควรเล่น
เริ่มจากของ “ควรเล่น” ก่อนละกันค่ะ คุณครูจะแนะนำว่าให้เล่นของเล่นที่ทำจากวัสดุที่เป็นธรรมชาติค่ะ เช่น ไม้ ผ้า หิน ดิน ทราย ไหมพรม โคลน ดอกไม้ ใบหญ้า อะไรทำนองนี้
ทรายกับการเล่นทำอาหาร หรือเศษไม้ ลูกไม้ต่างๆ ก็จะถูกนำมาจัดเรียงตามจินตนาการ ถ้าแม่ขนัน ก็อาจจะทำของเล่นให้ลูกเองได้โดยการถักโครเชต์ หรือเย็บตุ๊กตาผ้า
อะไรก็ได้รอบกาย สามารถเป็นอะไรก็ได้ แม้แต่กล่องทิชชู่ ยังกลายเป็นกล้อง!
เพราะมันคือธรรมชาติ มันคือตัวแทนของโลก ที่สำคัญ มันเป็นของจริงค่ะ ธรรมชาติจะให้สัมผัสที่จริง มีความนุ่มนวลอ่อนโยนอยู่ในตัว และเชื่อมต่อกับสัมผัสของเด็กน้อยได้ เค้าจะได้สัมผัสในด้านต่างๆ ที่ตรงไปตรงมาที่สุดค่ะ
ของ “ควรเล่น” ต่อมา ก็คงหนีไม่พ้นอุปกรณ์เครื่องใช้ในครัว ที่เราสามารถกำหนดได้ ว่าอันไหนเล่นได้ หรืออันตรายห้ามเล่น และถ้านำไปเล่น ต้องเก็บกลับที่เดิม ซึ่งบางครั้ง หม้อที่ยืมไป กลับถูกนำไปเป็นหมวกบ้าง เครื่องบินบ้าง สิงสาราสัตว์บ้าง... แอบดูแล้วก็ตลกดี
ตุ๊กตา เป็นของควรเล่นเช่นกัน เพียงแต่ไม่ควรใส่รายละเอียดให้มากมายเกินไป ถ้าแม่สามารถทำตุ๊กตาให้ลูกเองได้ ก็ควรจะเว้นใบหน้าไว้ให้เด็กใส่จินตนาการลงไปเองค่ะ
ต่อไปเป็นของ “ไม่แนะนำ” ให้เล่น ถ้าหลีกเลี่ยงได้นะคะ ถ้าเลี่ยงไม่ได้ ก็ไม่เป็นไรค่ะ แต่อย่าไปเน้น หรือให้เล่นอีกบ่อยๆ เพื่อรักษาจินตนาการไว้ให้อยู่กับเด็กให้เยอะที่สุด
อย่างแรกเลยคือ ของเล่นพลาสติกค่ะ เพราะพลาสติกเป็นวัสดุสังเคราะห์ ไม่ได้สัมผัสจาก “ของจริง” ไม่มีความเชื่อมโยงกับธรรมชาติ
อย่างที่สอง คือ ของเล่นสำเร็จรูปต่างๆ เพราะของเล่นเหล่านี้มักถูกคิดโดยผู้ใหญ่ คิดมาให้แล้วว่าต้องเล่นด้วยวิธีไหน เช่น รถบังคับวิทยุ ก็เล่นเป็นรถ หรือวิดีโอเกมส์ต่างๆ ก็จะมีวิธีเล่นที่ถูกคิดมาแล้วเช่นกัน
แนวทางวอลดอร์ฟมองว่าเด็กๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เด็ก 0-7 ปี ควรได้ลงมือทำ เล่นอย่างเต็มที่ และอิสระอย่างแท้จริง หาได้ถูกตีกรอบด้วยวิธีการเล่นแต่อย่างใด
ของตกแต่งกาแฟที่พ่อกับแม่ไม่ได้กิน ผ่านจินตนาการ จนกลายเป็นอาหารจานใหม่ที่ลูกทำมาเสิร์ฟให้ สังเกตให้ดีว่าก้านอบเชย แปลงร่างเป็นช้อนส้อมไปแล้วค่ะ
เลโก้ล่ะคะ?? ตัวต่ออิสระ ตามจินตนาการ แม้จะเป็นพลาสติก แต่ก็น่าจะหยวนๆ นะ เพราะเสริมทักษะจินตนาการแน่นอน
ปรากฏว่าเลโก้ก็ไม่ได้ไปต่อเหมือนกันค่ะ ที่บ้านมีอยู่เพียบเลย เลยต้องเก็บไว้ก่อน รอโตก่อน...
ทำไมเลโก้ไม่ควรเล่น?
ตามแนวทางวอลดอร์ฟ เหตุผลต่างออกไปจากข้างบนค่ะ
คือ วอลดอร์ฟ มองว่าการต่อเลโก้จะสร้างกระบวนการทางความคิดของเด็ก แบบจากจุลภาค ไปมหภาค ในทางกลับกัน คุณครูอยากให้เด็กๆ มีกระบวนทัศน์แบบองค์รวม หรือ holistic ก่อน เมื่อโตขึ้น ค่อยย่อยลงไปเป็นส่วนประกอบเล็กๆ
ยกตัวอย่างเช่น ในการจะสร้างบ้านซักหลัง สถาปนิกไม่ได้เริ่มคิดจากสายไฟควรอยู่ตรงไหน เดินท่อยังไง แต่สถาปนิกเริ่มต้นจากภาพของบ้านทั้งหลังก่อน แล้วจึงค่อยๆ จำแนกแจกแจงลงไป ว่าบ้านหลังนั้นควรมีส่วนประกอบอะไรบ้าง อะไรควรอยู่ตรงไหน ถึงจะเหมาะสม เป็นต้น
ครูอธิบายว่า จริงๆ แล้ว แนวทางวอลดอร์ฟ ได้สอดแทรกวิธีคิดให้เด็ก เพื่อพร้อมสู่โลกแห่งความเป็นจริง ผ่านการเล่น การเล่านิทานอยู่ตลอด ดังนั้น ครูจึงอยากให้ที่บ้านให้ความสำคัญกับสิ่งที่ให้เด็กเล่นด้วย
“เพราะการเล่น ไม่ใช่เรื่องเล่น แต่เป็นการจำลองชีวิตจริง”
รู้แบบนี้แล้ว เห็นของเล่นลดราคา ก็ไม่กล้ากดซื้ออีกเลยค่ะ 5555
- 5
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
