18 พ.ย. 2019 เวลา 02:23 • ธุรกิจ
10 วิธีคิดที่ควรฝึกบ่อยๆ
เพราะต้องใช้ไปตลอดชีวิต
1 คิดต่าง (Think Differently)
2
การคิดต่าง
หรือที่หลายๆคน
เรียกว่า "คิดนอกกรอบ"
คือการฝึกให้ตัวเอง
คิดอะไรในแบบที่เรา
ไม่เคยคิดมาก่อน
กรอบในที่นี่
หมายถึงความคุ้นเคย
ในสิ่งที่เราคิด
หรือทำแบบอัตโนมัติ
ด้วยความคุ้นเคย
1
2 คิดล่วงหน้า (Foresee)
การคิดล่วงหน้าคือ
การที่เราฝึกมองล่วงหน้า
ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง
และสิ่งนั้นจะมีผลกระทบ
กับเรามากน้อยอย่างไร
ซึ่งสิ่งที่จะเกิดขึ้น
จะขึ้นอยู่กับการที่เรา
จะทำหรือไม่ทำ
อะไรในวันนี้นั่นเอง
การคิดล่วงหน้านี้
รวมถึงการคาดการณ์
สิ่งรอบตัวที่จะเปลี่ยนไปในโลกด้วย
เพื่อเราจะได้เตรียมตัวรับมือ
ไว้ก่อนที่สิ่งเหล่านั้นจะเกิดขึ้นจริง
3 คิดทางเลือก (Think of Alternative)
การคิดทางเลือก
คือ การรู้จักเปรียบเทียบ
อย่างเท่าเทียมถึง "ข้อดี" "ข้อเสีย"
ของสิ่งที่เรากำลังจะตัดสินใจ
เช่น จะเลือกช้างสองตัวไหนดี
ระหว่างสองตัว
ไม่ใช่เอามดไปเทียบกับช้าง
ปัญหาที่เจอบ่อยๆคือ
เรามักเอาของที่
ไม่ใช่เรื่องเดียวกัน
มาเปรียบเทียบกัน
ผลที่ตามมาจึงผิดพลาด
4 คิดสร้างสรรค์ (Creative Thinking)
หากไม่พูดถึง
ทักษะการคิดแบบสร้างสรรค์
ก็คงจะผิดปกติแน่นอน
การคิดสร้างสรรค์
หมายการคิดถึงสิ่งที่เรา
ทำ เห็น เป็น และ คุ้นเคย
แล้วหาวิธีทำ
ให้ออกมาเป็นสิ่งที่
แตกต่างไปจากเดิม
5 คิดวิเคราะห์สาเหตุ (Root Cause Analysis)
การคิดวิเคราะห์สาเหตุได้ถูกต้อง
คือรากฐานของการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน
เพราะเราจะไม่มีทางแก้ปัญหาได้เด็ดขาด
ถ้าเราไม่รู้ว่าต้นตอของปัญหาอยู่ตรงไหน
1
คนส่วนใหญ่มักบอกปัญหาได้
แต่ไม่สามารถบอกถึงสาเหตุ
ที่แท้จริงของปัญหาได้
คนที่สามารถวิเคราะห์ปัญหาได้
จึงเป็นคนที่โลกต้องการตัวมาก
6 คิดเชื่อมโยง (Connecting and Applying)
การคิดเชื่อมโยง
คือ ความสามารถ
ในการคิดเอาเรื่องราว
ประสบการณ์
ความรู้ต่างๆ
จากหลากหลายแหล่งที่มา
มาร้อยเรียงเป็นเรื่อง
เพื่อให้เห็นภาพใหญ่
ของสิ่งที่เรากำลังต้องการศึกษา
1
ถ้าเราสามารถคิดเชื่อมโยงได้เก่ง
เราจะสามารถเอาเรื่อง
ที่เรารู้จากตรงนั้น
ไปประยุกต์ใช้กับตรงนี้
ปรับเปลี่ยน แก้ไขได้ทันท่วงที
โดยไม่ต้องไปนั่งค้นคว้าหาข้อมูลใหม่
ทุกครั้งที่เจอกับปัญหา
7 คิดท้าทายกับปัญหา
คนเราจะแก้ปัญหาไม่ได้
ถ้าไม่รู้จักตั้งคำถามที่ท้าทาย
กับปัญหาที่อยู่ตรงหน้า
คำถามที่เราต้องคิดถาม
กับตัวเองใหม่คือ
ถ้าเราไม่แก้ปัญหาด้วยวิธีเดิมๆ
อะไรคือทางเลือกของเราได้บ้าง
มากกว่า 90% ของปัญหา
ที่คาราคาซังอยู่บนโลกใบนี้
สามารถแก้ได้
ถ้าเรากล้าตั้งคำถามที่แรง
และอยู่บนสมมติฐานใหม่ๆ
ไม่ยึดติดกับแนวคิดการแก้เดิมๆ
และก็ทำได้เพียงแก้ปัญหาไปทีละขั้นสองขั้น
8 คิดเป็นเหตุเป็นผล
การคิดเป็นเหตุเป็นผล
คือ การที่เราสามารถคิดย้อนไปถึง
สาเหตุของเรื่องที่เกิดขึ้นได้ว่า
เพราะอะไรและทำไม ถึงเกิดสิ่งนี้ขึ้นมา
ณ ปัจจุบันขณะ การคิดย้อนนั้น
จริงๆต้องย้อนขึ้นไปหลายขั้น
จนกว่าจะเจอสาเหตุ
ที่แท้จริงของสิ่งที่เกิด
ใครคิดย้อนไปได้ไกลเท่าไหร่
ก็มีโอกาสแก้ไขป้องกัน
สิ่งเดิมไม่ให้เกิดขึ้นอีกได้มากขึ้น
การคิดแบบเป็นเหตุเป็นผล
ถือเป็นการคิดตามหลักศาสนาพุทธ
(เพราะมีสิ่งนี้ สิ่งนี้จึงเกิด)
ที่สามารถนำไปใช้ได้กับทุกสังคมโลก
9 คิดเท่าที่จำเป็น (Think Only Necessary)
การคิดเท่าที่จำเป็นนั้น
ฟังเหมือนง่าย
แต่จริงๆแล้วยากมาก
มันหมายถึง ความสามารถที่ว่า
เรารู้ชัดเจนว่าสำหรับเรื่องนี้
เราต้องการข้อมูลแค่ไหนพอ
ในการนำมาคิดประกอบการตัดสินใจ
เคยเจอรึเปล่าว่า
คนบางประเภท
ที่ขอข้อมูลเพิ่มแล้วเพิ่มอีก
จาก 1 กลายเป็น 10
แล้วอาจยังไม่พอกับอีกคนคือ
ขอข้อมูลแค่ 5 อย่าง
ก็พอสำหรับการตัดสินใจ
1
10 คิดบทสรุป
การมีข้อมูลนับล้านอย่าง
แต่คิดวนไปวนมา
หาข้อสรุปอะไรไม่ได้
คือการเสียเวลามาก
บทสรุปนี้หมายความถึง
การตัดสินใจว่าจะทำหรือไม่ทำอะไรอย่างไร
หรือสรุปผลเรื่องใดสักเรื่อง
ให้ตกผลึกออกมาได้
1
การคิดบทสรุปให้ได้
จึงถือเป็นทักษะที่จำเป็นอย่างยิ่ง
ที่เราต้องฝึก
โดยเฉพาะในยุคที่เวลามีค่าขึ้นเรื่อยๆ
และเราไม่สามารถปล่อยเวลา
ให้ผ่านไปกับการมีกองข้อมูลมหาศาล
ตรงหน้าโดยไม่รู้จะเอามันไปทำอะไรต่อดี
ทักษะการคิด
ก็เหมือนทุกทักษะบนโลกนี้
นั่นคือ "ฝึกกันได้"
และยิ่งฝึก
เราจะยิ่งเก่ง และชำนาญขึ้น
ใครที่ยังคิดไม่เก่ง
ถ้าฝึกเป็นประจำ
ก็จะเก่ง และแซง คนที่คิดเป็น
แต่ไม่ฝึกฝนเลยได้
จากหนังสือ #ทำธุรกิจคิดเยอะจึงเหนื่อยน้อย
ขอบคุณบทความดีๆจาก
Trick of The Trade
cr.moneyland
โฆษณา