Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ย่อยประวัติ
•
ติดตาม
19 พ.ย. 2019 เวลา 10:00 • ประวัติศาสตร์
ชายผู้รอดชีวิตกลางทะเล 438 วัน Salvador Alvarenga
ในทางวิทยาศาสตร์ มนุษย์เราขาดอาหารได้นาน 10 วันก่อนที่จะค่อยๆหมดแรง อวัยวะภายในพังไปทีละส่วน และเข้าสู่สภาวะวิกฤติ
มนุษย์ขาดน้ำได้เพียง 4-7 วันเท่านั้น คุณผู้อ่านจะเริ่มหน้ามืด ตามมาด้วยการล่มสลายของอวัยวะภายใน และตายจากไป
นี่คือเรื่องจริงของชายชาวเอลซัลวาดอร์ ที่ลอยคว้างอยู่กลางทะเลบนเรือประมงลำเล็กไร้หลังคา ขาดน้ำและอาหารยาวนานกว่า 14 เดือน สิ่งเดียวที่เขามี คือความหวังและศรัทธา
Salvador Alvarenga
Salvador Alvarenga (ซัลวาดอร์ อัลวาเรงก้า) เกิดปี 1975 ที่เมืองอาฮัวชาปัน ประเทศเอลซัลวาดอร์ ในครอบครัวชาวไร่ และต่อมา Alvarenga ก็ย้ายมายึดอาชีพชาวประมงที่หมู่บ้าน คอสตา อาซูล ในประเทศเม็กซิโก
วันที่ 17 พฤศจิกายน 2012 Alvarenga มีกำหนดออกหาปลาในทะเลน้ำลึกซึ่งจะต้องออกจากฝั่งไปพอสมควร และอยู่กลางทะเลติดต่อกันนาน 30 ชั่วโมง โดยเป้าหมายคือจับปลาฉลามและปลาดาว
สิ่งผิดปกติอย่างแรกของทริปนี้คือ คู่หูของ Alvarenga ที่ออกเรือด้วยกันประจำลาป่วย ทำให้เขาต้องติดต่อหนุ่มน้อยวัย 23 ที่มีประสบการณ์เดินเรือไม่มากนักชื่อ Ezequiel Cordoba (เอเซเคล คอร์โดบ้า) มาเป็นผู้ช่วยแทน ในตอนแรก Cordoba ออกอาการลังเลเพราะพายุกำลังตั้งเค้า แต่ด้วยความต้องการเงินเขาจึงตอบตกลง และทั้งคู่ก็ออกเดินเรือ
เรือที่ใช้ในการทำประมงครั้งนี้ยาว 7 เมตร ลักษณะคล้ายเรือแจว ไม่มีหลังคา ไม่มีไม้พาย ใช้มอเตอร์เป็นตัวขับเคลื่อน บนเรือน้อยมีเพียงอุปกรณ์ตกปลา ถังน้ำแข็งไว้แช่ปลาและวิทยุสื่อสาร
ธรรมชาติดูจะเป็นใจให้ชาวประมงทั้งสองมากทีเดียว หลังจากที่ออกเรือมาไกลชายฝั่ง 120 กม.และง่วนหาปลากันทั้งคืน พวกเขาก็ได้ปลาเต็มลำเรือน้ำหนักรวมเกือบ 500 กก. ก่อนจะงีบหลับเอาแรงรอกลับบ้านในตอนเช้า
1
Alvarenga ตื่นก่อนเพราะรู้สึกถึงความเปียกตามร่างกาย ฝนเทลงมาอย่างหนัก คลื่นลมแรงขึ้นเรื่อยๆ เขารีบปลุก Cordoba เพื่อประเมิณสถานการณ์ จนสุดท้ายก็ต้านแรงธรรมชาติไม่ไหว ทั้งคู่จำต้องทิ้งปลาทั้งหมดลงทะเลเพื่อให้เรือเบาที่สุด และเร่งเครื่องเต็มสปีดฝ่าพายุกลับเข้าฝั่ง
เมื่อมองเห็นภูเขาบนฝั่ง และเหลือระยะทางอีกเพียง 24 กม.จะถึงชายหาด แต่แล้วโชคชะตาก็เล่นตลก เครื่องยนต์ตัวจิ๋วของพวกเขาพัง เพราะความเสียหายจากพายุและไม่มีอะไรใช้พายได้ เท่ากับตอนนี้หนทางรอดเดียวของพวกเขา คือการวิทยุขอความช่วยเหลือ
Alvarenga วิทยุหาเจ้านายของเขาเพื่อแจ้งพิกัด เจ้านายรับสายและเขียนมันลงกระดาษอย่างรวดเร็ว แต่ดูเหมือนจะไม่มีอะไรหยุดยั้งคนที่ดวงกำลังแตกได้เลย ก่อนที่เขาจะบอกพิกัด 4 หลักสุดท้าย วิทยุก็มาแบตหมดเสียอีก!
ผู้เขียนไม่กล้าแม้แต่จะนึกภาพตาม ชาวประมงสองคนที่ไร้ทางช่วยเหลือตัวเอง นั่งมองภูเขาบนชายฝั่งค่อยๆเล็กลง เล็กลง จนกระทั่งลับสายตาไปเพราะลมพัดเรือของทั้งคู่ออกสู่มหาสมุทรแปซิฟิค
ณ เวลานั้น ไม่มีใครรู้ตำแหน่งของ Alvarenga และ Cordoba แน่ชัด ด้านเจ้านายก็สั่งระดมทีมค้นหาเต็มพิกัด 3 วัน 3 คืน แต่ก็ไร้วี่แวว และสุดท้ายก็ต้องยกเลิกไปเนื่องจากมีงบอยู่จำกัด
เวลาผ่านไปเพียง 5 วัน เสบียงทุกอย่างก็หมด เรือลำน้อยถูกพัดด้วยลมพายุไปไกลชายฝั่งถึง 450 กม.ก่อนที่จะหยุดนิ่ง ทิ้งทั้งคู่ไว้ในมหานทีอันเวิ้งว้าง
ตำแหน่งที่พวกเขาอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิคนั้น ถือเป็นเส้นทางเดินเรือที่คนไม่ค่อยใช้กันครับ รวมถึงทั้งสองคนไม่มีปืนยิงพลุเพื่อส่งสัญญาณ ทางเดียวที่จะทำให้คนเห็นได้คือโบกมือ แต่กระนั้น เมื่อดูจากภาพใหญ่แล้ว พวกเขาก็เป็นเพียงจุดเล็กๆที่ยากจะสังเกตเห็น
ดังนั้น ตนคือที่พึ่่งแห่งตน
ทั้งคู่โชคดีเจอขวดพลาสติกลอยอยู่กลางทะเลจึงเก็บมาใช้รองน้ำฝนไว้ดื่ม แล้วถ้าฝนไม่ตกล่ะทำอย่างไร? 1.กรีดข้อมือและดื่มเลือดตัวเอง และ 2. ดื่มปัสสาวะ
ด้านอาหาร พวกเขาไม่มีอุปกรณ์อะไรสักอย่างเพื่อตกปลา จึงต้องรอให้มีนกหรือปลากระโดดขึ้นมาบนเรือ จึงจะมีกินกันสักมื้อหนึ่ง
ไม่รู้เดือน รู้เวลา วิธีเดียวเพื่อคลายเครียดคือนั่งคุยกับอีกคน ดูปลา หรือไม่ก็นอนซึ่งดูจะเป็นวิธีที่ดี เพราะไม่เสียพลังงานมากนัก เวลาหนึ่งชั่วโมง คงยาวนานเหมือนหนึ่งวันสำหรับคนทั้งคู่
ผ่านไป 4 เดือน ในที่สุด Cordoba ก็สูญสิ้นความหวัง เขาเริ่มป่วยจากการตรอมใจและอาหารเป็นพิษ ซึ่งทำให้เขาปฎิเสธที่จะกินอาหาร และค่อยๆตายจากไปกลายเป็นเพียงศพบนเรือ
Alvarenga พยายามอย่างยิ่งเพื่อยื้อชีวิตบัดดี้ของเขา แต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้มาก หลังจากที่รุ่นน้องจากไป 4 วัน ตัวเขาเองก็คิดจะฆ่าตัวตายให้พ้นวิบากกรรม แต่รอดมาได้เพราะความรักในพ่อแม่และความศรัทธาพระคริสต์
1
Alvarenga ปล่อยศพเพื่อนให้ลอยไปในมหาสมุทรหลังจากที่ตายได้ 6 วัน ตอนนี้เหลือเพียงเขาคนเดียวแล้ว มันยิ่งยากกว่าเดิมถึงสองเท่ากับการต้องสู้เพียงลำพัง
วันใดท้องฟ้าแจ่มใส เขาก็ต้องเผชิญกับความร้อนระอุของแดดกลางทะเล วันใดฟ้าครึ้มเย็นสบาย ก็ขอให้เตรียมใจไว้เลยว่าพายุใหญ่กำลังจะมา และเขาต้องใช้แรงอันน้อยนิดเอาชีวิตรอดฝ่าพายุทั้งคืน
Alvarenga เริ่มเรียนรู้การนับวันเวลาโดยสังเกตข้างขึ้นข้างแรมของพระจันทร์ จนเวลาผ่านได้ประมาณ 8 เดือน ในที่สุดสิ่งที่เขารอคอยก็มาถึง
เรือเดินสินค้าขนาดใหญ่ สัญจรผ่านมาทางที่เรือน้อยอยู่ เขารีบลุกขึ้นโบกมือให้คนบนดาดฟ้าเรือนั้น 3-4 คนอย่างรวดเร็ว และทุกคนก็เห็น Alvarenga
แต่อนิจจา ... เรือเดินสินค้าลำนั้น ไม่แม้แต่จะชะลอดู
การอยู่ไปวันๆ โดยไร้ความหวังนั้นเจ็บปวด แต่การมองเห็นความหวังที่เฝ้ารอมานานนับปีพังครืนลงต่อหน้าต่อตา มันสามารถทำให้หัวใจของคนแตกสลายได้เลย
Alvarenca ต้องเข้มแข็งขนาดไหน จึงจะสามารถกลับมาสู้อีกครั้งและดำเนินชีวิตต่อไปโดยท่องคำว่าต้องรอดซ้ำไปซ้ำมา สะกดจิตตัวเองอยู่ท่ามกลางมหาสมุทรแปซิฟิคอันได้ชื่อว่าเงียบเหงาที่สุด
จนกระทั่งเวลาผ่านไป 15 รอบพระจันทร์ หรือ 14 เดือน
Salvarenga ตื่นขึ้นมาในตอนเช้า และมองเห็นลูกมะพร้าวลอยอยู่ ชายหนวดเครารุงรังรู้โดยทันทีว่า ถ้ามีลูกมะพร้าวต้องมีต้นมะพร้าว และต้นมะพร้าวต้องอยู่บนฝั่ง หัวใจของเขาพองโตขึ้นมาอีกครั้ง และผ่านไปอีกไม่กี่วัน ในที่สุดเขาก็มองเห็นภูเขาอยู่ไกลลิบๆ
วันที่ 30 มกราคม 2014 หลังลอยคอมา 438 วัน Alvarenca ต้องเผชิญการตัดสินใจครั้งสำคัญ ว่าเขาจะรออยู่บนเรือและหวังให้ลมพัดเข้าหาฝั่ง หรือจะเสี่ยงกระโดดลงเรือและใช้แรงที่มีอยู่น้อยนิดจากการขาดสารอาหาร ว่ายนำไปให้ถึงฝั่ง ที่น่าจะห่างออกไปประมาณ 15 กิโลเมตร
เขาเลือกอย่างหลัง และเขาทำได้สำเร็จ!
Alvarenca หอบร่างที่ไม่มีอะไรเหลือแล้วของเขาไปถึงชายหาด ก่อนจะได้รับความช่วยเหลือจากชาวบ้านในหมู่เกาะมาแชล ซึ่งอยู่ห่างจากหมู่บ้านที่เขาจากมาถึง 10,800 กม.
1
ชีวิตคนเรา อาจมีบางครั้งที่ต้องเผชิญกับมรสุมถาโถม เหมือน Alvarenca ผจญกับคลื่นลมนานนับปี
สิ่งสำคัญคือการที่เราศรัทธาในอะไรบางอย่าง ไม่ว่าจะเป็นคนที่เรารัก หรือศาสนา แรงผลักนี้เองจะช่วยให้เราลุกขึ้นและก้าวต่อไปอย่างมั่นคง ไม่ว่าความหวังของเราจะพังทลายลงกี่รอบก็ตาม
ผู้เขียนขอเป็นกำลังใจให้กับทุกคนครับ
เกร็ดเล็ก: เมื่อกลับถึงบ้านเกิด Alvarenca ถูกฟ้องจากครอบครัว Cordoba ว่าพาบุตรของเขาไปตาย และเป็นไปได้ว่าจะถูกกินเพื่อเอาชีวิตรอด
4
เกร็ดน้อย: เขาใช้เวลารักษาตัวในโรงพยาบาลเพียง 11 วันก่อนจะหายเป็นปกติ แต่ก็มีอาการหวาดระแวงและกลายเป็นโรคกลัวทะเล
- Xyclopz
10 บันทึก
74
30
10
10
74
30
10
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย