21 พ.ย. 2019 เวลา 12:00 • กีฬา
ทำไมโรงเรียนประจำชายล้วนส่วนมาก ถึงนิยมให้เด็กเล่นกีฬา Rugby ??
ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนประจำชายล้วนของไทย ทั้งวชิราวุธวิทยาลัย, ภ.ป.ร.ราชวิทยาลัย, โรงเรียนเตรียมทหาร และโรงเรียนจุฬาภรณ์ต่างๆ รวมไปถึงบางโรงเรียนที่เป็นสหฯหรือไม่ประจำ เช่น ปริ้นส์รอย, เพลินพัฒนา, ปิยชาติพัฒนา หรือสุรวิทยาคาร (ถ้าผมตกหล่นโรงเรียนไหนไปรบกวน Comment ได้นะครับ) ก็มักจะมีกีฬารักบี้เป็นกีฬาประจำโรงเรียนทั้งสิ้น
จริงๆแล้วเราได้รับวัฒนธรรมนี้มาจากฝั่งยุโรปครับ โรงเรียนประจำ(Public School) ของประเทศอังกฤษนั้นหลายๆโรงเรียนก็มีรักบี้เป็นกีฬาประจำโรงเรียนกันมาช้านานแล้ว
ดังนั้นคำถามจึงเกิดขึ้นว่า ทำไมถึงต้องเจาะจงเป็นกีฬารักบี้ที่เป็นที่รู้จักน้อยกว่า ? ทำไมไม่เอากีฬายอดนิยมอย่างฟุตบอล/บาสเกตบอล มาเล่นกันแทน ?
วันนี้ผมจะมา”เล่า”ให้ฟังในฐานะนักรักบี้คนหนึ่งครับ ว่ากีฬานี้มีข้อดีอย่างไร และมันสอนอะไรให้กับคนที่ลงไปเล่นบ้างครับ
*** สำหรับใครที่ไม่คุ้นเคยกับกีฬานี้ ผมเคยอธิบายกติกาคร่าวๆเอาไว้ตามลิ้งค์นี้เลยครับ สามารถอ่านทำความเข้าใจก่อนได้ : https://web.facebook.com/lao.unfold/posts/374585063477947?__tn__=-R
1
🏉 The ruffian’s game played by gentleman 🏉
“รักบี้คือกีฬาของคนป่า ที่เล่นโดยสุภาพบุรุษ”
สมัยเด็กๆผมเคยได้ยินคำกล่าวนี้มาจากอาจารย์ในโรงเรียนครับ ซึ่งเป็นความจริง 100%
หลายๆคนอาจจะเห็นว่ารักบี้คือกีฬาที่รุนแรง ป่าเถื่อน เล่นแล้วเจ็บตัว มีแผลแตกเลือดออก กระดูกหัก กระดูกร้าวกันเยอะแยะมากมาย
อันนี้ไม่เถียงครับ เพราะกีฬารักบี้ต้องมีการปะทะตลอดเวลา แต่ผมอยากให้สังเกตุว่าการปะทะแต่ละครั้งของกีฬารักบี้นั้นจะเป็นการเอาส่วนที่หนาที่สุดชนเข้าไป ไม่ว่าจะเป็นไหล่ หรือด้านข้างลำตัว และเวลา Tackle นั้นจะไม่มีการ Tackle เหนือคอไปยังจุดที่อันตราย
เพราะเราไม่ได้ต้องการที่จะทำร้ายคู่ต่อสู้ (ถ้าเราอยากทำร้ายฝ่ายตรงข้ามเราคงไปเล่นกีฬาต่อสู้แบบอื่นไปแล้ว) เป้าหมายของนักรักบี้ทุกคนคือการนำลูกไปวาง Try ให้ได้เท่านั้นเองครับ
การปะทะทุกอย่างในกีฬารักบี้จะอยู่ภายใต้กฎกติกา ถ้ามีการเล่นที่อันตรายเมื่อไหร่จะมีการลงโทษทันที ทั้งการเสียลูกโทษไปจนถึงโดนไล่ออกจากสนาม
อีกอย่างนึงที่เราจะเห็นได้ยากในวงการรักบี้คือการนอนเจ็บเพื่อถ่วงเวลา หรือการ Overacting เพื่อเรียกความสงสารจากกรรมการ ที่เราจะเห็นได้ทั่วไปโดยเฉพาะกีฬาฟุตบอล
ซึ่งตรงนี้ก็เป็นธรรมเนียมของรักบี้ที่ต้องการจะบอกว่านี่ไม่ใช่กีฬาของคนสำออย บางคนแผลแตกบนหัวยังเล่นต่อแบบไม่รอปฐมพยาบาลก็มี
*** ผมไม่ได้จะบอกว่าคนเล่นกีฬาอื่นคือคนสำออยนะครับ แต่มันเป็นจารีตของกีฬาเหล่านั้นไปแล้วว่าการแกล้งเจ็บเพื่อเรียกฟาวล์เป็นการทำเพื่อชิงความได้เปรียบ คนอื่นๆก็ทำตามกันมาเรื่อยๆ จะไปแก้ไขก็คงจะยาก แต่ก็เป็นสีสันของกีฬานั้นๆเช่นกัน
นักรักบี้ทุกคนจะถูกสอนมาว่า “ไม่ว่าการปะทะในเกมจะรุนแรงแค่ไหน แต่จบเกมทุกคนคือเพื่อนกัน” สังเกตุได้จากธรรมเนียมปฏิบัติหลังจบเกม ทีมที่ชนะจะวิ่งมาตั้งแถวรอเพื่อแสดงน้ำใจต่อผู้แพ้ตามรูปที่ผมนำมาใช้เลยครับ
เมื่อผู้แพ้เดินเข้าไปในแถวเราก็จะเห็นอากัปกิริยาต่างๆที่แสดงถึงความเป็นมิตร การจับมือ พูดคุย ตบหลังปลอบใจ นี่คือการแสดงความเคารพต่อคู่แข่ง และเป็นการบอกว่าเมื่อคุณเดินผ่านตรงนี้ไปทุกอย่างในเกมนั้นก็จบในเกมเท่านั้น
ก็ไม่แปลกใจที่หลายๆโรงเรียนจะนำกีฬานี้มาสอนให้นักเรียนเข้าใจถึงคำว่าสุภาพบุรุษโดยแท้จริงครับ
👨‍👨‍👦‍👦👨‍👨‍👦‍👦 Teamwork : การทำงานเป็นทีม 👨‍👨‍👦‍👦👨‍👨‍👦
รักบี้คือกีฬาประเภททีมที่ใช้คนเยอะมากเป็นอันดับต้นๆ และเป็นเพียงไม่กี่กีฬาที่มีตำแหน่งถึง 10 ตำแหน่ง และแต่ละตำแหน่งมีหน้าที่รับผิดชอบที่แตกต่างกันมากๆ
นักรักบี้ในสนามมีฝั่งละ 15 คน แบ่งหยาบๆเป็น 10 ตำแหน่ง ได้แก่ Prop, Hooker, Lock, Flanker, Number Eight, Scrumhalf, Flyhalf, Center, Wing และ Fullback
และยังไม่นับตัวสำรองอีก 15 คนที่ต้องทดแทนตำแหน่งกันได้อีกด้วย
การเป็นกีฬาที่ใช้คนเยอะ และ มีตำแหน่งหน้าที่แตกต่างกันนั้นทำให้รักบี้เป็นกีฬาที่ต้องอาศัย Teamwork มากที่สุดกีฬานึงของโลก
การเข้าสกรัมและแถวทุ่มที่กองหน้าทั้ง 8 คนต้องมีการซ้อมแผนแต่ละแบบมากว่าร้อยรอบก่อนจะนำมาใช้จริง การเข้าปะทะระหว่างเกมที่มีหน้าที่ต้องรีบเข้าไปช่วยกันปกป้องการครองบอลเพื่อเล่นเกมบุกต่อไปก็ต้องอาศัยความเข้าใจของทุกคนภายในทีม
กองหลัง 7 คนที่ต้องแบ่งภาระกันป้องกันพื้นที่ด้านกว้างกว่า 70 เมตร หรือในเกมบุกที่จะต้องวิ่งเพื่อทำระยะและมีแผนการเล่นการจ่ายบอลหลายสิบแบบที่ถ้ามีคนพลาดแค่คนเดียวก็จะทำให้จังหวะเสียทั้งหมดได้
ไหนจะยังมีจังหวะที่กองหลังต้องเข้าไปช่วยกองหน้า หรือจะต้องเล่นร่วมกันอีกตลอด 80 นาที
เห็นมั้ยครับว่าต้องใช้ Teamwork ที่สูงมากๆ ยิ่งมีคนเยอะเท่าไหร่ยิ่งต้องสามัคคีกันเท่านั้น แล้วไม่ใช่แค่สามัคคีกันแค่ 15 คนนะครับ ตัวสำรองอีก 15 คนถ้าได้โอกาสลงมาเล่นก็ต้องเข้าใจกันทั้งหมดเช่นกัน
ความเห็นส่วนตัวของผมที่เล่นกีฬาประเภททีมมาหลายชนิด ผมก็ยังคิดว่ารักบี้คือกีฬาที่ต้องใช้ความสามัคคีมากที่สุดครับ
🔑 Discipline : ระเบียบวินัยกับตัวเอง 🗝
เนื่องจากกีฬารักบี้เป็นกีฬาที่ต้องใช้ทักษะทางด้านร่างกายเป็นหลัก ทำให้นักกีฬาต้องมีระเบียบวินัยเป็นอย่างมาก
กีฬาอื่นๆอาจจะนัดเพื่อนออกมาเล่นกันในวันหยุดโดยไม่ต้องฝึกซ้อมหรือฟิตร่างกายอะไรมาก แต่สำหรับรักบี้นั้นไม่ใช่ครับ แค่ขาดซ้อมไปไม่กี่วันร่างกายไม่พร้อมแล้วลงไปเล่นนี่ถึงขั้นพิการได้เลย
เพราะฉะนั้นผมจึงมองว่ามันเป็นกีฬาที่เหมาะกับเด็กผู้ชายวัยรุ่นมากๆ เพราะจะเป็นการฝึกระเบียบวินัยทั้งในและนอกสนามระยะยาวให้กับเด็กได้เป็นอย่างดี
*** กีฬาอื่นเองก็สอนวินัยได้ดีมากๆเช่นกันนะครับ เพียงแต่ผมมองว่ารักบี้นั้นใช้ Commitment ที่สูงกว่านิดนึง
และด้วยความที่มันเป็นกีฬาที่ไม่ Mass จึงทำให้ไม่มีเรื่องของสิ่งยั่วยุมาคอยกวนใจด้วยครับ ไม่เหมือนกับฟุตบอลที่รุ่นเยาวชนก็ตกเป็นที่จับตาจากสื่อและสโมสรฟุตบอลต่างๆไปแล้ว
ข้อแตกต่างเด่นๆของกีฬารักบี้ผมพอจะเล่าออกมาได้ประมาณนี้ ส่วนเรื่องทั่วไปอย่าง การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า หรือการฝึกสมาธิให้อยู่ในเกม พวกนี้มีอยู่ในทุกกีฬาครับ ก็เลยไม่ได้นำมาพูดถึงเท่าไหร่
เครดิตรูปภาพจาก PPTV HD 36
ในโพสต่อๆไปก็จะนำเรื่องน่าสนใจของหนังสือเล่มอื่นๆ รวมไปถึงเกร็ดความรู้ต่างๆ มาเล่าให้ฟังเรื่อยๆ สนใจก็กดติดตามเพจ “เล่า” ไว้เพื่อที่จะไม่พลาดเนื้อหาดีๆในอนาคตครับ
ติดตามเรื่อง “เล่า” ผ่าน facebook ได้ที่
#เล่า #เล่าหนังสือ #เล่าความรู้ #unfold #ส่งเสริมการอ่าน #ส่งเสริมการเรียนรู้ #rwc2019 #RugbyWorldCup2019
โฆษณา