Blockdit Logo (Mobile)
The Conclusion - อาสาสรุป
•
22 พ.ย. 2019 เวลา 05:20 • ธุรกิจ
ถ้าคุณเป็นคนที่บ้างาน! โหมงานหนัก! ลองอ่านบทความนี้ดูนะครับ เป็นเรื่องราวของพี่ท้อฟฟี่ แบรดชอว์ คอลัมนิสต์ แห่ง THE STANDARD ที่ได้เล่าบนเวที “Start It Now”
ผมขออาสาสรุปให้กับทุก ๆ คนเพราะผมคิดว่ามันเป็นประโยชน์มาก
ยิ่งในยุคที่คนเราโหยหาความสำเร็จในระยะเวลาอันสั้น
ประมาณ 9 ปีก่อน พี่ท้อฟฟี่ทำงานในบริษัทเอเจนซี่โฆษณายักษ์ใหญ่เจ้าหนึ่ง ธรรมชาติของงานเอเจนซี่โฆษณาก็คือหนักอยู่แล้ว ผนวกกับความเป็นคนที่โหยหาความสำเร็จ เรื่องงานต้องมาก่อนเรื่องอื่นไว้ทีหลัง!
ทำงานอะไรพี่ท้อฟฟี่จะลุยเต็มที่จนมันสำเร็จเสมอ และเกิดความภูมิใจในตัวเอง เชื่อว่าการทำงานหนักทำให้เรามีคุณค่า และทำให้เราเก่งขึ้น
หน้าที่การงานของพี่ท้อฟฟี่ก็ได้เติบโตเรื่อย ๆ เนื่องจากเป็นคนเก่งและทุ่มเท
และในวันแม่ของปีนั้น พี่ท้อฟฟี่พึ่งทะเลาะกับแม่ ซึ่งปีนี้พี่ท้อฟฟี่ก็ไม่ได้กลับบ้าน ซึ่งพี่ท้อฟฟี่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะก็อยากใช้เวลากับการทำงานมากกว่า
วันนั้นพี่ท้อฟฟี่ตื่นมาแล้วรู้สึก “เจ็บหน้าอก” นอนต่อแล้วก็ยังไม่ดีขึ้น
เลยตัดสินใจไปโรงพยาบาลเพราะคิดว่าแค่ไปหาหมอ เอายามากินก็กลับไปทำงานต่อได้
เมื่อพบคุณหมอ คุณหมอถามพี่ท้อฟฟี่ว่า
สูบบุรี่ไหม? ไม่ครับ ดื่มเหล้าไหม? ไม่ครับ เล่นยาไหม? ยิ่งไม่เลยครับบบ
“หัวใจของคุณห้องนึงกำลังจะหยุดเต้น” คุณต้องได้รับการผ่าตัดด่วน
พี่ท้อฟฟี่ช๊อก ทำอะไรไม่ถูก และได้โทรหาคุณพ่อเพื่อให้คุยกับคุณหมอ
หลังจากนั้นคุณพ่อก็ได้บอกกับพี่ท้อฟฟี่ว่า
“ลูกรัก ไม่ต้องกลัวนะ เราจะทำทุกทางเพื่อให้ลูกมีชีวิตอยู่ต่อ”
คำพูดของคนที่เคยละเลย ความรู้สึกผิดของพี่ท้อฟฟี่เกิดขึ้นเต็มหัวใจ
การผ่าตัดบอลลูนครั้งแรก “ล้มเหลว”
ต้องทำการผ่าตัดแบบบายพาส ซึ่งมีโอกาสสำเร็จเพียง 25% เท่านั้น
ในช่วงเวลานั้นพี่ท้อฟฟี่ได้นึกถึงช่วงเวลาที่ผ่านมา ที่ผ่านมาเราทำอะไรอยู่ “แม้จะสำเร็จในหน้าที่การงาน แต่การใช้ชีวิตนั้นล้มเหลวอย่างรุนแรง”
เมื่อความตายอยู่ตรงหน้าจึงรู้ตัว ถ้ารอดไปได้ เราจะเปลี่ยนแปลงตัวเองใหม่! ในหัวของพี่ท้อฟฟี่คิดเช่นนั้น
พี่ท้อฟฟี่ลืมตาตื่นขึ้นมาในห้องผู้ป่วย การรอคอยที่แสนยาวนาน
สิ่งที่อยากเจอที่สุดคือ “ครอบครัว” ที่อยู่ตรงหน้าในตอนนี้
หลังจากเหตุการณ์นี้ พี่ท้อฟฟี่และครอบครัวก็ได้บทเรียนครั้งยิ่งใหญ่
ครอบครัวเข้าใจกันมากขึ้น ไม่เคยปล่อยให้เกิดการทะเลาะกันข้ามวันอีกเลย
พี่ท้อฟฟี่ได้แชร์ 2 สิ่งที่ได้เรียนรู้จากเหตุการณ์นี้ นั้นก็คือ
1.ไม่มีคำว่าเดี๋ยว มีแต่คำว่า “เดี๋ยวนี้”
ชีวิตนั้นไม่แน่นอน อะไรก็เกิดขึ้นได้เสมอ อย่าปล่อยปละละเลยกับสิ่งที่สำคัญจริง ๆ ในชีวิต กับคนที่รักเราอย่างแท้จริง ดูแลเขาให้ดีในวันที่เราสามารถดูแลได้ และมีเขาให้ดูแล
2.”อย่ามีความสำเร็จที่เดียวดาย”
รักงานแค่ไหนก็ตาม อย่าบ้าไปกับมัน และอย่าตายไปกับมัน แค่รักมันก็พอ การทำงานหนักจะไม่มีประโยชน์ ถ้าไม่เหลือใครร่วมยินดีกับเรา หรือไม่เหลือเราให้คนมาร่วมยินดี
หวังว่าบทความนี้ จะมีประโยชน์กับใครหลาย ๆ คน
อย่างน้อยก็กับผม ที่วันนึงเคยบ้างานและล้มป่วยเช่นกัน เลยอินกับเรื่องพี่ท้อฟฟี่มาก ๆ
ขอบคุณพี่ท้อฟฟี่ที่แบ่งปันเรื่องราวมาเป็นบทเรียนให้กับผมและทุก ๆ คนครับ
สำหรับคนที่อยากอ่านสรุปงาน “Start It Now” แบบเต็ม ๆ ทั้งงาน
สามารถไปอ่านได้ที่ : http://bit.ly/StartItNowTalk2019
#StartItNowTalk
#TheConclusion #อาสาสรุป
พี่ท้อฟฟี่ แบรดชอว์ คอลัมนิสต์ แห่ง THE STANDARD
โฆษณา