22 พ.ย. 2019 เวลา 09:59 • กีฬา
“โชเซ่ มูรินโญ่” มหาบุรุษแห่งโลกฟุตบอล (ตอนแรก)
วันนี้ แอดมินคมคิดขอเปลี่ยนบรรยากาศนิดนึงครับ สำหรับคนที่ชอบฟุตบอลเป็นชีวิตจิตใจ คงได้ยินข่าวว่า โชเซ่ มูรินโญ่ หรือ เฮียมูของใครหลายคน กุนซือคนเก่งที่ผ่านงานมาหลายสโมสร เข้ารับตำแหน่งผู้จัดการทีมท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ยอดทีมฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษแห่งกรุงลอนดอน หลังจากที่ทีมได้ปลด เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ กุนซือคนเก่าออกไป
โชเซ่ มูรินโญ่ กับ ภารกิจนำสเปอร์ทำผลงานดีขึ้นให้ได้
ใคร ๆ ก็ยกย่องเขาว่าเป็นยอดกุนซือที่เก่งกาจ เรียกว่าไปทีมไหน ทีมนั้นต้องเรียกแม่บ้านมาทำความสะอาดตู้โชว์เตรียมไว้ เพราะอย่างน้อยทีมนั้นจะต้องได้ 1 ถ้วยแชมป์หลังจบฤดูกาล
แต่เมื่อมีด้านสว่าง ก็ย่อมมีด้านมืด เพราะหากฝีมือในการคุมทีมสามารถทำให้คนรัก ฝีปากของเขาก็สร้างคนชังได้เหมือนกัน แต่ถึงจะชังยังไง ทุกคนก็เห็นตรงกันว่า เขาเป็นคนที่เก่งของจริง และสร้างสีสันให้กับวงการได้
ว่าแต่ เขาเป็นใคร ทำอะไร ทำไมใคร ๆ ถึงได้ยกย่องเขาขนาดนี้ แล้วเราจะเรียนรู้อะไรได้บ้าง คมคิด จะมาเล่าให้ฟังกันครับ
โชเซ่ มูรินโญ่ เริ่มต้นด้วยการเป็นนักฟุตบอลในดิวิชั่น 2 ของลีกโปรตุเกส และจบการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา จากนั้นก็ทำงานเป็นครูพละ ผู้ฝึกสอนทีมเยาวชน แมวมอง ผู้ช่วยผู้จัดการทีม รวมไปถึงควบตำแหน่งเป็นล่ามอีกต่างหากในสมัยที่ทำงานเป็นผู้ช่วยเซอร์ บ็อบบี ร็อบสัน ซึ่งทำหน้าที่ผู้จัดการทีมสปอร์ติง ลิสบอนและบาร์เซโลน่า ก่อนจะมาเป็นผู้ช่วย หลุยส์ ฟาน กัล หลังจากที่ร็อบสันลาออกจากบาร์เซโลน่า
สมัยที่อยู่บาร์เซโลน่ากับบ็อบบี ร็อบสัน ส่วนทางขวา คือ โรนัลโด สุดยอดตำนานกองหน้าชาวบราซิล ที่มูรินโญ่ ชื่นชอบมาก
เมื่อวิชาแก่กล้า เฮียก็ขอปล่อยของด้วยตัวเอง ด้วยการกลับไปบ้านเกิดเพื่อคุมทีมเบนฟิก้าและยูนิเอาไลเรีย แต่จุดสูงสุดในอาชีพที่บ้านเกิดของเฮียเกิดขึ้นในช่วงปี 2003 และ 2004 คือ การพาปอร์โต้ ทีมม้ามืดของโปรตุเกสและยุโรป คว้าแชมป์ลีกโปรตุเกส ยูฟ่ายูโรปาลีก (ชื่อเดิมสมัยนั้น คือ ยูฟ่าคัพ)โปรตุกีสซูเปอร์คัพ และซิวแชมป์ลีกสมัยที่ 2 ก่อนจะคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ซึ่งเป็นถ้วยรางวัลยอดปรารถนาที่สโมสรยุโรปทีมทีมอยากคว้ามาครองให้ได้
เถลิงแชมป์กับปอร์โต้
ชื่อเสียงและอิทธิพลของเฮียมูสะเทือนไปทั่วยุโรป มีแต่ทีมอยากได้ตัวไป ในหนังสือชีวประวัติของแกเคยเขียนไว้ว่าถึงขนาดมีเอเยนต์ปลอมโทรมาหาเฮีย แถมบางคนเสนอว่าถ้าตกลงมาคุม จะทำการซื้อโรนัลดินโญ่ (นักเตะบราซิลที่เก่งที่สุดในเวลานั้น) ให้เฮียแกใช้
แต่สุดท้าย เอเยนต์ของเฮียที่แท้จริง คือ จอร์จ เมนเดส ก็ตกลงเจรจากับเชลซี สโมสรจากพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ซึ่งตอนนั้นเป็นทีมเศรษฐีใหม่ภายใต้การบริหารงานของ โรมัน อบราโมวิช เจ้าสัวรัสเซียที่พร้อมประเคนเงินให้ช็อปไม่อั้น หวังเพียงแต่เห็นทีมได้แชมป์
ด้วยกลยุทธ์ฟุตบอลที่เน้นการตั้งรับแล้วสวนกลับ เน้นความรวดเร็ว กองหน้าริมเส้นที่มีฝีเท้าจัดจ้าน และความรู้ทางแท็คติกที่แตกฉาน แม้แฟนบอลทีมอื่นจะบ่นว่า น่าเบื่อ เพราะอยากเห็นทีมเล่นเกมบุก แต่แฟน ๆ เชลซีไม่ค่อยแคร์เท่าไรค่ะ เพราะมันทำให้หลายทีมในอังกฤษที่คุ้นเคยกับการเปิดเกมบุกรับมือกับแท็คติกอันล้ำลึกของเฮียแกไม่ทัน และ มูรินโญ่ ก็พาเชลซีคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2004-2005 ไปครองได้ในรอบ 50 ปี พ่วงด้วยแชมป์ลีกคัพ ปีถัดมาป้องกันแชมป์ลีกได้สำเร็จ แถมยังได้ถ้วยเอฟเอคัพไปประดับเกียรติอีก ก่อนจะออกจากเชลซีในฤดูกาล 2007-2008 ตอนเดือนกันยายน ท่ามกลาวข่าวลือว่าเขาไม่ลงรอยกับเจ้าของทีม
โชว์ฝีมือที่เชลซี
แต่ด้วยชื่อเสียงที่สะสมมา ทำให้เขาได้งานใหม่ที่อิตาลี คราวนี้ เป็นคิวของอินเตอร์มิลาน ก่อนจะพาทีมขึ้นสูจุดสูงสุดด้วยการเป็นสโมสรแรกของดินแดนพิซซ่าที่คว้า 3 แชมป์รวด นั่นคือ แชมป์ลีกอิตาลี อิตาลีคัพ และยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกในฤดูกาลเดียว ก่อนจะย้ายไปคุม เรอัล มาดริด ในลีกสเปน ปี 2010 คว้าแชมป์ลีกและแชมป์โกปาเดลเรย์มาครอง ก่อนจะออกไปท่ามกลางข่าวลือว่าเขาทะเลาะกับคนในสโมสร (อีกครั้ง)
3 แชมป์กับสโมสรในอิตาลี
คนเก่งแบบนี้ ฟ้าก็ยังเห็นใจอยู่ ปี 2015 เขากลับมาคุมเชลซีคำรบ 2 แฟน ๆ ดีใจอย่างมากจนถึงขั้นทำป้ายผ้าเขียนว่า “The Second Coming” ซึ่งเป็นการเล่นความหมายเชิงศาสนาถึงการกลับมาบนโลกของ (พระเจ้า) มูรินโญ่นั่นเอง แต่คราวนี้ เขาไม่ประสบความสำเร็จเท่าไร ก่อนจะโดนอัปเปหิก่อนคริสมาสต์ 1 สัปดาห์
การกลับมาครั้งที่ 2 ของพระเจ้าของเหล่าสาวกเชลซี
จากนั้น ในปี 2016 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมที่กำลังโหยหาแชมป์ลีกมานานถึง 3 ปีนับแต่ที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน วางมือไป ก็แต่งตั้งเขาพร้อมภารกิจคว้าแชมป์ลีกให้ได้ แม้จะไม่สำเร็จ ท่ามกลางการค่อนขอดเรื่องสไตล์การเล่นที่น่าเบื่อ เอาแต่ตั้งรับ ขัดใจแฟน ๆ ที่อยากเห็นทีมเปิดเกมบุกแบบเลือดสาดกันไปข้าง แต่เฮียก็ยังนำถ้วยอีเอฟแอลคัพ (เอฟเอคัพเดิม) และยูฟ่ายูโรปาลีก มาปลอบใจแฟนผีแดง ลดความกดดันลงได้หน่อย
ถ้วยยูโรป้าลีกกับผีแดง
แต่คนเราดวงจะไปด้วยกันไม่รอด มันก็ไม่รอดจริง ในปี 2018 จะด้วยทั้งแผนการเล่นผิดพลาด การซื้อขายในตลาดนักเตะที่ไม่เข้าท่า ลูกทีมบางคนไม่รับคำสั่ง ตัวปัญหา หรือจะอะไรก็ตาม มันมาบรรจบกันกลายเป็นศุกร์เข้า เสาร์แทรก ราหูทับลัคน์ ทำให้เฮียมูต้องกระเด็นออกจากตำแหน่งอีกครั้งหลังจากที่ทีมแพ้ให้คู่อริตลอดกาลอย่างลิเวอร์พูลในศึกแดงเดือด ก่อนวัน คริสมาสต์เพียงไม่กี่วัน (อีกแล้ว)
และคราวนี้ โชคชะตาก็นำพาเขา มาสู่สโมสรแห่งใหม่ ที่ชื่อว่า ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ สโมสรที่เขาเคยบอกว่า “จะไม่มีวันมาคุม”
ตอนต่อไปของ มหาบุรุษฟุตบอลที่ชื่อว่าโชเซ่ มูรินโญ่ แอดมินจะเอาคำพูด วีรกรรม ความเดือดเลือดพล่านที่เรียกว่าคู่แข่ง นักข่าวและแฟนบอลด้วยกันยังต้องยอม อย่าลืมติดตามกันด้วยนะค้า
โชเซ่ มูรินโญ่
ถ้าชอบบทความของคมคิด สามารถกดไลค์ กดแชร์ ฟอลโลว์ และร่วมแบ่งปันความคิดเห็นกันได้เลยนะคะ
ขอขอบคุณภาพจากเว็บ
Metro
Dailymail
Dailypost
The Guardian
/แอดคิด
โฆษณา