วิลเลียม โจเซฟ โอนีล (บิล โอนีล) (ในบทความนี้ผมขอย่อว่า WON นะครับ)
หนึ่งในพ่อมดตลาดหุ้นและผู้เขียนสุดยอดหนังสือการลงทุนอย่าง How to make money in stock ที่ขายดีมากกว่าสี่ล้านเล่มทั่วโลก WON เริ่มเข้าสู่วงการตลาดหุ้นในช่วงปลาย 50’s ในฐานะที่ปรึกษาการลงทุนที่ Hayden, Stone & Company (ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับที่ Richard Donchian เข้าไปใน Hayden Stone ในฐานะ Director of Commodity Research )
ในช่วงแรกของการลงทุน WON ก็เหมือนกับนักลงทุนทั่วไปที่ไม่ได้ประสบความสำเร็จตั้งแต่เริ่มต้น แต่ด้วยความอุตสาหะและความไม่ย่อท้อ WON ศึกษาวิธีการลงทุนอย่างหนัก จุดเปลี่ยนของ WON คือเขาศึกษาจนไปพบผลงานกองทุนของ Jack Dreyfrus สุดยอดผจก.กองทุนที่ทำผลงานระดับสุดยอดในช่วงยุค 50’s รวมถึงการได้อ่านผลงานของ Gerald Loeb และ Jesse Livermore ทำให้เขาพัฒนาการของเขาเป็นไปอย่างก้าวกระโดด อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญของ WON ที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จคือ WON ไม่ได้เพียงแค่ศึกษาแค่เพียงเทรดเดอร์และนักลงทุนระดับสุดยอดในตลาดเท่านั้น แต่เขาศึกษาหุ้นทุกตัวที่เคยทำผลงานระดับสุดยอดในหน้าประวัติศาสตร์ของตลาดหุ้นวอลสตรีทอีกด้วย (ถ้าสงสัยว่าWON ให้ความสำคัญกับการศึกษาหุ้นผู้ชนะขนาดไหน ลองเปิดหนังสือ How to make money in stocks หน้า Introduction จะมีเขียนอยู่ด้านบนของบทนำซึ่งเป็นคำสอนแรกของสุดยอดหนังสือหุ้นเล่มนี้ว่า “You must learn and benefit from America’s 100 Years of Super Winners” )
จนมาถึงช่วงปี 1962-1963 ที่เขาทำผลงานระดับสุดยอดโดยการซื้อหุ้น Syntex, Chrysler และชอร์ตหุ้น Korvette ทำให้พอร์ตส่วนตัวของเขาขึ้นจาก $5000 เป็น $200,000 ในระยะเวลา 18 เดือน (ผลงานอาจจะดูเว่อร์ไป แต่ถ้าถามว่าเป็นไปได้มั้ย จากที่ผมศึกษา ด้วยนิสัยของ WON ที่ชอบเล่นกับการบริหาร margin และใช้แบบเต็มสูบเมื่อถูกทางและดูจากกราฟหุ้นของสามตัวนี้แล้วคิดว่าพอเป็นไปได้ครับ) แต่ในช่วงเวลาเดียวกันนั้นเขาได้เริ่มมีปัญหากับทาง Hayden Stone เพราะดันแนะนำให้ลูกค้าที่ตัวเองดูแลทั้งหมด Short หุ้น Certain-teed ที่ทางโบรคแนะนำให้ซื้อ (แต่สรุป Certain-teed ลงยับ WON เป็นฝ่ายแนะนำถูก) จากเหตุการณ์นี้พร้อมกับเริ่มมีเงินแล้ว WON ได้ออกจากHayden Stone และทำตามความฝันในการเป็นเจ้าของธุรกิจโดยการ เปิด William O’Neil+Co., incorporated (WON จบป.ตรี Business จาก Southern Methodist University และศึกษาต่อที่ Harvard Business School ) จากนั้นต้นปี 1964 WON สร้างประวัติศาสตร์โดยการเป็นคนที่อายุน้อยที่สุดที่สามารถซื้อที่นั่งในห้องค้าของตลาด NYSE ได้ด้วยวัยเพียง 30 ปี
จากที่เล่าตั้งแต่แรกมาจนถึงตอนนี้วิธีการของ WON ถูกเรียกว่า OM (O’Neil Methodology) ซึ่งยังไม่ใช่ CANSLIM นะครับ (อธิบายเพิ่มหน้าอื่นๆ) ต่อจากนั้นเขาก็เริ่มซื้อเทคโนโลยีหลายอย่างเข้าบริษัทของตัวเองเพื่อพัฒนาต่อยอดวิธีเทรดของตัวเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการศึกษา quantitative และ qualitative analysis กับหุ้นผู้ชนะในอดีตและการหา market timing ที่ในช่วงต้นเขาไม่สามารถทำได้จากข้อจำกัดทางกำลังทรัพย์และความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี หลังนั้น innovation products ของ WON ก็ออกมาเยอะมาก ทั้ง Data graphs, Daily Graphs (MarketSmith ในปัจจุบัน) จนมาถึงการก่อตั้งหนังสือพิมพ์การลงทุนอย่าง Investor’s Business Daily (IBD)ในปี 1984
จนมาถึงช่วงปี ค.ศ. 1988 สุดยอดหนังสืออย่าง How to make money in stocks (HTMS) ก็ถูกเขียนขึ้นมาพร้อมกับระบบที่เป็นtrademark ของ WON อย่าง CAN-SLIM ก็ถูกเผยแพร่ต่อสาธารณะ หนังสือเล่มนี้ที่ถูกแปลเป็นภาษาไทยจะเป็นหนังสือ HTMS Edition ล่าสุดคือ Edition ที่ 4 ซึ่งถ้าจะให้ผมแนะนำสำหรับใครที่ยังไม่เคยอ่าน ผมแนะนำว่าไม่ว่าคุณจะลงทุนในหุ้นสไตลล์ไหนก็ตาม คุณจะได้ประโยชน์จากหนังสือเล่มนี้แน่นอนไม่มากก็น้อย หรือถ้าใครอ่านฉบับไทยอย่างเดียวแล้วสามารถอ่านภาษาอังกฤษได้ ผมแนะนำว่า “ซื้อต้นฉบับเถอะครับ” ดีแน่นอน
จากกฎสามข้อหลักนี้โอนีลก็เทรดและจดบันทึกประสบการณ์และความผิดพลาดที่เกิดขึ้นและพัฒนาจนเป็น The O’Neil Methodology จนเขาประสบความสำเร็จในช่วงต้นของอาชีพและอาศัยวิทยาการที่ทางบริษัทของเขาคิดค้นขึ้น Develop หลักการของมันจนมาเป็น CAN SLIM ที่ทุกคนรู้จัก
อย่างที่บอกตั้งแต่แรกคือ WON ให้ความสำคัญเกี่ยวกับการศึกษาประวัติศาสตร์ของหุ้นผู้ชนะและตลาดทุนมาก ฉะนั้นระบบการลงทุน ที่ต่อยอดจากแนวคิดนี้ ถูกรังสรรค์ขึ้นมาเพื่อจุดประสงค์สำคัญ 2 อย่าง คือ
WON นั้นมีความเชื่อว่าการประสบความสำเร็จในตลาดทุนจะต้องใช้ในด้านของศาสตร์และศิลป์ทั้งสองด้าน ในด้านของทางศาสตร์ WON เชื่อในด้านของการทดลองและการเก็บบันทึกข้อมูลทางสถิติทุกอย่างเราสามารถประเมินและหาค่ามันได้เพื่อใช้ในการหาหุ้นที่ดีที่สุดในตลาด ส่วนในด้านของศิลป์ WON เชื่อในด้านของทรงกราฟ การเคลื่อนไหวของราคาและปริมาณซื้อขายในรายสัปดาห์ซึ่งเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าในหน้าประวัติศาสตร์ของตลาดวอลสตรีท
ฉะนั้นจุดเข้าซื้อหลักของ WON จะได้มาจากการอ่านฐานราคาที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งได้แก่ ฐานราคา Cup with/without handle, Flat Base, Double Bottom, Ascending Base, Base on top of a base, High Tight Flag
โดยสามารถกำหนดจุดเข้าซื้อได้ 3 ประเภท นั่นคือ
1. Early Buy Point หรือจุดเข้าซื้อก่อนจุดเข้าซื้อหลัก
2. Main Buy Point จุดเข้าซื้อหลักจากฐานราคา
3. Add-up Buy Point จุดที่ใช้ในการเข้าซื้อเพิ่ม
โดยแต่ละแบบผมจะมาอธิบายอย่างละเอียดในครั้งต่อๆไป แต่ถ้าใครอยากอ่านเบื้องต้น ผมได้เขียนบทความเกี่ยวกับ Cup With Handle ไว้ในบทความนี้ครับ https://bit.ly/2TBwHn6