23 พ.ย. 2019 เวลา 20:43 • ประวัติศาสตร์
หลักสูตรนรกบนดิน SAS
“Who Dare Wins”
หลักสูตรที่อัตราการจบน้อยที่สุด และมีผู้เสียชีวิตระหว่างการฝึกมากที่สุด ยินดีต้อนรับสู่นรกบนดิน พวกเขาคือเครื่องจักรสังหาร พวกเขาคือ SAS
“ผู้กล้า คือผู้ชนะ”
สมาชิก SAS ที่ช่วยเหลือผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์โจมตีโรงแรมดุสิต ดีทู ในกรุงไนโรบี ของเคนยา กลายเป็นวีรบุรุษชั่วข้ามคืน แต่เขาก็บอกว่า ไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่าหลักการขั้นพื้นฐานคือ "รวดเร็ว รุกฆาตและสร้างความประหลาดใจ"ตอนที่ผู้ก่อการร้าย 5 คน บุกโจมตีโรงแรมดุสิต ดีทู และทำให้มีผู้เสียชีวิตไป 21 คนนั้น สมาชิกหน่วยรบพิเศษทางอากาศแห่งกองทัพอังกฤษ หรือ SAS ได้บุกเดี่ยวเข้าช่วยผู้รอดชีวิตและยิงต่อสู้กับผู้ก่อการร้ายอย่างห้าวหาญ เด็ดเดี่ยว และรุนแรง
ทั้งที่ยังสวมเครื่องแบบไม่ครบ จนได้รับการยกย่องให้เป็นวีรบุรุษ ในขณะที่ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า ไม่แปลกใจ เพราะวีรบุรุษนิรนามนายนี้ ทำตามหลักการขั้นพื้นฐานคือ "รวดเร็ว รุกฆาตและสร้างความประหลาดใจ" ที่ทำแบบนี้ได้ ก็ต้องผ่านการฝึกหนักทั้งด้านร่างกายและจิตใจ เพื่อปลิดชีพผู้ก่อการร้ายโดยเฉพาะ ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า
การเข้าสู่ขั้นตอนการคัดเลือกเข้าร่วมกับ SAS ก็เหมือนกับการก้าวเข้าสู่นรกอยู่แล้ว ต้องผ่านความเจ็บปวด หวาดกลัว ตกอยู่ในสถานการณ์ที่สร้างความเหนื่อยล้าทั้งทางร่างกายและจิตใจ และภัยอันตรายที่แทบจะเอาชีวิตไม่รอด รวมไปถึงการทนทุกข์ทรมาณจากการฝึกต่างๆ ชนิดเรียกได้ว่าเลยขั้นขีดสุดของมนุษย์ การคัดเลือกใช้เวลา 5 เดือน มีหลักสูตรเริ่มต้น ทุกปี สำหรับอาสาสมัคร โดยแบ่งเป็นหลักสูตรฤดูร้อนกับหลักสูตรฤดูหนาว ที่จะหนักขึ้นเรื่อยๆ เพื่อทดสอบความอดทนของมนุษย์ หนึ่งในนั้นมีการเดินระยะทาง 64 ก.ม. ที่ต้องทำให้เสร็จโดยไม่หยุดภายในเวลาที่กำหนด และต้องแบกเป้หนัก 27 ก.ก. ปืนและน้ำของตัวเองไปด้วย มีเพียง 1 ใน 10 ของสมาชิกกองทัพอังกฤษที่จะผ่านการหลักสูตรนี้ไปได้
และคนที่จะผ่านต้องแข็งแกร่งอย่างยิ่ง เพราะถ้าไม่แข็งตายในช่วงหลักสูตรฤดูหนาว ก็มักจะตายเพราะความร้อนจัด บาดแผลพุพองในหลักสูตรฤดูร้อน มีรายงานว่า เมื่อปี 2524 มีผู้เข้ารับการฝึก 2 คน เสียชีวิตระหว่างขั้นตอนการคัดเลือก และเมื่อเรื่องนี้เข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรและมีการเรียกผู้บัญชาการที่เป็นผู้ควบคุมหลักสูตรเข้าไปชี้แจง เขาก็ตอบเพียงว่า เขามองว่าเรื่องนี้ "เป็นความล้มเหลวของผู้เข้ารับการฝึกของทั้งคู่" จนทำให้เกิดคำเปรียบเทียบประชดประชันที่ "กองทัพว่าตลกร้ายแล้ว SAS กลับหนักยิ่งกว่า"
หลักสูตรยังคงดำเนินต่อไป และถูกเรียกว่า "Killing House" ที่เชื่อว่า วีรบุรุษนิรนามที่ไนโรบี จะใช้สกิลทั้งหมดที่ได้จากการฝึกมาช่วยชีวิตคนได้จำนวนมาก และนอกจากSAS จะหมายถึงหน่วยงานต้นสังกัดของเขาแล้ว มันยังหมายถึง "รวดเร็ว รุกฆาตและสร้างความประหลาดใจ" (Speed, Aggression, Surprise) ด้วย ที่กองบัญชาการของ SAS ในเมืองเฮียโฟลด์ มีกำแพงที่หลากหลายเอาไว้รองรับกระสุนจริง มีห้องหลายขนาดและหลายแบบให้ฝึก คนที่เข้ารับการฝึกก็มีภูมิหลังแตกต่างกันไป บางคนมาจากครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์แบบ บางคนอยู่ในสลัมมาก่อน หรือเป็นฮูลิแกนมาก่อน แต่เมื่อมาอยู่รวมกันแล้ว พวกเขาต้องสมบูรณ์แบบ เคร่งครัดในวินัยและในฐานะเครื่องจักรสังหาร ของราชินี และประเทศอังกฤษ นั้นเอง !!!!
ที่มา : Nation Chanel
โฆษณา