Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Mancunian Thailand
•
ติดตาม
24 พ.ย. 2019 เวลา 22:05 • กีฬา
" เกมส์ที่ไม่ง่าย? "
FT : Sheffield United 3 - 3 Manchester United
พรีเมียร์ลีกนัดที่ 13 ของแมนฯยู. เกมส์นี้เป็นเกมส์ที่สำคัญมากเนื่องจากถ้าแมนฯยูชนะ จะขึ้นไปอยู่อันดับที่5 ทันที เพื่อเป็นการเบียดตัวเองให้ไปอยู่ในพื้นที่ Top6 เพื่อพื้นที่การไปเล่นบอลยุโรป
การไปเยือนเชฟฯยูที่ บรามอลล์เลน ไม่ใช่งานง่ายอยู่แล้ว เพราะเชฟฯยูในปีนี้ถือว่าเป็นอีกทีมที่เป็นม้ามืดในการแย่ง Top 6 อีกหนึ่งทีม และก่อนหน้านี้เขามักทำได้ดีเสมอเวลาเจอทีม Big 6 แม้แต่จ่าฝูงลิเวอร์พูลเองก็เกือบพลาดท่ามาแล้ว
ก่อนเกมส์จะเริ่มแมนฯยูมีปัญหาเรื่องอาการบาดเจ็บของผู้เล่นหลายคน แม้กระทั่งกองกลางตัวหลักของทีมอย่าง แมคโทมิเน่ ที่โชว์ผลงานได้ดีมาตลอดดันมาเจ็บไปอีกคนบวกกับป้อกบาที่เจ็บอยู่ก่อนแล้ว ตอนแรกก็น่าสนใจว่าโอเล่จะจัดตัวผู้เล่นกองกลางยังไงกันแน่
ปรากฎว่าโอเล่มาในระบบ 3-4-3 โดยใช้คู่กลางเป็น เปเรร่า จับคู่กับ เฟร็ด ส่วนเซนเตอร์3ตัวใช้ แม้กไกวร์ ลินเดอเลิฟ และคนที่ผมเซอร์ไพร้ส์ที่สุดคือ"ฟิล โจนส์"
นอกจากนั้นก็ใช้ผู้เล่นชุดเดียวกับเกมส์ที่ชนะไบรท์ตั้นไป 3-1 ทั้งหมด
เกมส์เริ่มขึ้นในช่วงแรกนั้น แมนฯยูเป็นรองเชฟฯยู อย่างเห็นได้ชัด คือแมนฯยูไม่มีโอกาสยิงเลยในช่วง30นาทีแรก และเกือบเสียประตูจากลูกโหม่งจ่อๆของ แม็คโกลดริค. แต่ เดเคอา เซฟไว้ได้
หลังจากนั้นในนาทีที่ 18 มีจังหวะการวางบอลยาวมาที่ทางขวาของสนาม ซึ่งเป็นตำแหน่งรับผิดชอบของฟิล โจนส์ ซึ่งเหมือนจะไม่มีอะไร แต่สุดท้ายมหาเทพฟิล โจนส์ ก็ทำเรื่องงามไส้เข้าจนได้ แทนที่จะเคลียร์บอลออกไป ทั้งๆที่ถึงบอลก่อน แต่ไม่รู้ไปทำอิท่าไหนโดน "มูเซ่" เบียดล้มไปได้ ก่อนที่มูเซ่จะส่งให้ "เฟล็ค" ยิงเข้าไป
จังหวะนี้เป็นความผิดพลาดที่อับอายที่สุด เพราะบอลไม่มีอะไรเลย แถมโจนส์เองก็อยู่ในมุมที่จะถึงบอลก่อน แม้กไกวร์ เองก็คงไม่คิดว่าโจนส์จะเสียบอลแบบนี้. เป็นสิ่งที่กองหลังไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง เสียประตูแบบน่าเจ็บใจ
ต้องยอมรับว่าเชฟฯยูเองก็วางแท็คติกมาดีมาก แมนฯยูตั้งเกมส์ไม่ได้เลย มีโอกาสยิงเพียงแค่ครั้งเดียว สุดท้ายจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์ 1-0
เริ่มครึ่งหลังมาโอเล่ ถอดโจนส์ออกทันทีและส่งมหาบุรุษอย่างเจสซี่ ลินการ์ดลงมาแทน และเปลี่ยนรูปแบบจาก 3-4-3 ไปเป็น 4-2-3-1 แทน แต่ในช่วงต้นครึ่งหลังก็ยังทำอะไรได้ไม่มากนัก
และสุดท้ายในนาทีที่ 52 ก็มาเสียประตูอีกจนได้ จากการเสียบอลกลางสนามของ อันเดรียส เปเรร่า สุดท้ายบอลมาถึง มูเซ่ ลากเข้าไปยิงอย่างสวยงาม ซึ่งจังหวะนี้ต้องยอมรับว่ายิงสวยจริงๆ แต่อันเดรียสเองก็ไม่ควรพลาดเสียบอลแบบนี้เช่นกัน
ตั้งแต่เปิดฤดูกาลมาเกมส์ไหนที่แมนฯยูถูกนำก่อน ผลจะออกมาที่แพ้ 100% ในฐานะแฟนแมนฯยูเองก็ถอดใจไปแล้วและไม่คิดว่าจะกลับมาพลิกสถานการณ์ได้
หลังจากนั้นเมื่อนำ 2-0 เชฟฯยูเองก็เริ่มผ่อนเกมส์ลงเช่นกัน ซึ่งทำให้แมนยูมีพื้นที่เล่นกลางสนามค่อนข้างเยอะ ต่างจากในครึ่งแรกที่กองกลางอย่าง เฟร็ด และ เปเรร่า ไม่สามารถ Build Up เกมส์ได้เลย แต่เมือเชฟฯยูผ่อนเกมส์ลง กองกลางของแมนฯยูก็เล่นง่ายขึ้น
ในที่สุดก็ตีไข่แตกจนได้ในนาที่ที่ 72 จากลูกยิงสุดสวยของ แบรนดอน วิลเลี่ยม แบ็คซ้ายดาวรุ่งเด็กปั้นสโมสร ยิงเข้าไปอย่างสวยงามนี่ถือว่าเป็นประตูแรกของเขาในทีมชุดใหญ่ และยังเป็นประตูที่จุดประกายความหวังให้กับยูไนเต็ดอีกด้วย
เมื่อโมเมนตั้มเริ่มเหวี่ยงมาทางแมนฯยู โอเล่ตัดสินใจถอดกองกลางอย่างเปเรร่าออกและส่ง "เมสัน กรีนวูด" ลงมาเล่นริมเส้นด้านขวา และให้ "แดน เจมส์"ไปเล่นฝั่งซ้าย. ซึ่งตัวรุกทั้ง4 ตัวจะสลับตำแหน่งกันตลอดเวลา.
และในนาทีที่ 77 แรชฟอร์ดครอสบอลจากทางขวา บอลผ่านมาถึงกรีนวูด แทปอินเข้าไป ทำให้แมนยูตีเสมอ 2-2 ได้ และนี่ก็เป็นประตูแรกในพรีเมียร์ลีกของ เมสัน กรีนวูด อีกด้วย
เมื่อตีเสมอได้ แมนฯยู ที่กำลังคึกอย่างมาก บวกกับ เชฟฯยู ที่เริ่มสติหลุดทำบอลเสียกันง่ายๆ แมนฯยูเองก็ได้ประตูขึ้นนำ 3-2 จาก"มาร์คัส แรชฟอร์ด" ในนาทีที่ 79 เรียกได้ว่าใน 7นาที แมนฯยูยิงถึง 3ประตู ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นเลยในยุคของโอเล่
เมื่อเป็นฝ่ายขึ้นนำแมนฯยูเองก็ยังไม่ผ่อนเกมส์มากนักพยายามจะทำประตูที่ 4 แต่เมื่อเชฟฯยูเริ่มตั้งหลักได้ โอเล่ ตัดสินใจถอด อองโตนี่ มาซิยาล ออกในนาทีที่ 85 และส่ง "แอกเซล ตวนเซเบ้"ลงมา เปลี่ยนแผนกลับไปเป็นหลัง 3 เช่นเดิม
เห็นได้ชัดว่าโอเล่ตั้งใจจะรักษาสกอร์นี้ให้ได้ ผ่อนเกมส์ลงและไม่บุกแลกกับเชฟฯยู เกมส์กำลังจะจบอยู่แล้วอยู่ในช่วงนาทีสุดท้ายก่อนทดเวลาบาดเจ็บ. สุดท้ายก็มาโดนตีเสมอจนได้ในนาทีที่ 90 จาก "แม็คเบิร์นนี่" สุดท้ายเกมส์จบที่ 3-3 ถือว่าเป็นเกมส์ที่สนุกและได้ใจแฟนบอลพอสมควรแม้ผลจะไม่ชนะก็เถอะ
ลูกตีเสมอของ แม็คเบิร์นนี่ เป็นที่ถกเถียงว่าแฮนด์บอลหรือเปล่า? เพราะจังหวะแต่งบอลของแม็คเบิร์นนี่ บอลไปถูกจุดก้ำกึ่งระหว่างแขนกับหัวไหล่
ซึ่งในมุมมของผมเองผมคิดว่าน่าจะแฮนด์บอลครับ แม้ว่าแม็คเบิร์นนี่จะพยายามดึงแขนหลบแล้ว แต่ถ้าตามกฎ ถ้าบอลโดนแขนผู้เล่นเกมส์รุกไม่ว่าจะเจตนาหรือไม่ยังไงก็คือแฮนด์บอล แต่สุดท้ายกรรมการให้ประตูและตัดสินว่าไม่แฮนด์บอล ซึ่งนี่ทำให้ผมตั้งคำถามกับเรื่องนี้พอสมควร เพราะบางครั้งลูกแบบนี้กรรมการบางคนก็บอกว่าแฮนด์ บางคนก็บอกว่าไม่แฮนด์ ซึ่งมาตรฐานมันอยู่ตรงไหน?
จริงๆผมไม่มีปัญหานะครับถ้าเสียประตูเพราะเกมส์นี้ผมสนุกมาก และผมเห็นความตั้งใจของนักเตะที่ไม่ยอมแพ้ ผมรู้สึกพอใจแล้ว เพียงแต่ว่าผมอยากให้มันมีมาตรฐานที่ชัดเจนมากกว่านี้ ถ้าลูกนี้กรรมการตัดสินว่าไม่แฮนด์ ต่อไปถ้าเจอเหตุการณ์แบบนี้กรรมการก็ควรไม่ให้แฮนด์บอลทุกครั้ง เพื่อความแฟร์
ผมไม่ได้มีปัญหากับกรรมการ เพราะในหลายๆครั้งแมนฯยู ก็ได้ประโยชน์จากกรรมการเช่นกัน. เป็นเรื่องธรรมดาที่จะเสียประโยชน์บ้าง
สิ่งที่โอเล่ต้องแก้ไขปรับปรุงก็คือ "ความเคี่ยว" และการรักษาสกอร์ ยิ่งเกมส์ที่เรามีโอกาศไม่มากและกำลังขึ้นนำอยู่ โอเล่ต้องวางแผนที่จะรักษาสกอร์ให้ดี และลดความผิดพลาดส่วนบุคคลให้ได้
มีหลายเกมส์ที่เรามีโอกาศจะคว้า3 แต้มแต่ก็ดันทำแต้มหล่นเพราะเรื่องแบบนี้. การนำ 3-2 การที่โอเล่ไม่เปิดเกมส์บุก และผ่อนสปีดเกมส์ให้ช้าลงนั้น เป็นสิ่งที่เข้าใจได้ เพราะถ้าไปบุกซี้ซั้วโดนสวนกลับมาแล้วเสียประตู จะยิ่งไปกันใหญ่
เพียงแต่ว่าการผ่อนเกมส์นั้นไม่ใช่การถอยลงไปรับแลัวเปิดโอกาสให้คู่ต่อสู้บุกใส่อยู่ฝ่ายเดียว เพียงแค่ครองบอลไปมาต่อบอลไปมา เป็นฝ่ายครองบอลให้นานที่สุดแค่นี้ก็พอแล้ว. เพราะการถอยลงไปรับแล้วให้เขาบุกใส่ มีสิทธิ์จะเสียประตูสูงเช่นกัน
สิ่งนี้เป็นเรื่องยากเพราะการจะเพิ่มความเคี่ยวได้นั้นมันต้องใช้ประสบการณ์เป็นหลัก ซึ่งต้องยอมรับกันว่าโอเล่เองยังมีมันไม่มากพอ
สุดท้ายแม้ว่าผลจะจบลงที่ผลเสมอ แต่เกมส์นี้เป็นอีก 1 เกมส์ที่น่าประทับใจ แม้ว่าจะทำ3แต้มหลุดมืออย่างน่าเสียดายก็ตาม
- การได้เห็นผู้เล่นของเราสู้ตายและเชื่อมั่นว่าจะพลิกสถานการณ์ได้ แบบนี้สิถึงจะเป็นนักเตะที่สโมสรแมนฯยูต้องมี ซึ่งสิ่งนี้เป็นเอกลักษณ์ของแมนยูที่เคยมีมาตลอด
- การได้เห็นนักเตะดาวรุ่งสโมสรยิงประตูแรกของตัวเองได้ มันก็น่าภูมิใจเช่นกัน และทั้ง 3 ประตูในวันนี้คือ ผลผลิตของอาเคเดมี่ของสโมสรทั้ง 3 ประตู และเป็นผู้เล่นดาวรุ่งทั้ง 3 คน ไม่ใช่สตาร์ในทีม
- การแก้เกมส์ของโอเล่เองก็มีพัฒนาการที่ดีขึ้นมาเรื่อย แสดงให้เห็นว่าเขาเองก็มีฝีมือพอสมควร อีกอย่างแม้ว่าเกมส์นี้จะเสมอแต่ผลงาน 7 นัดหลังสุดของโอเล่คือ ชนะ 5 เสมอ 1 แพ้ 1 มันก็ไม่ใช่เรื่องแย่อะไรนักหนา แม้จะไม่ได้ขึ้นที่ 5 แต่คะแนนก็ไม่ได้ทิ้งห่างจนเอื้อมไม่ถึง
สิ่งสำคัญต่อจากนี้ที่โอเล่ต้องทำคือการรักษาโมเมนตั้มให้ได้. เกมส์นี้อาจจะหลุดเสมอก็ตามแต่โอเล่ต้องบอกให้นักเตะลืมมันไปซะ และทำนัดหน้าให้ดีที่สุดเล่นด้วยความมั่นใจอย่าท้อถอย ผมเชื่อว่าแฟนแมนฯยู ภูมิใจกับการเล่นของนักเตะวันนี้ ถึงจะมีคนหัวร้อนและด่าอยู่บ้าง แต่คนที่เข้าใจก็มีมากเช่นกัน
ผมแอบห่วงมาตั้งแต่ก่อนเตะแล้วผมมีความรู้สึกว่าวันนี้แมนฯยูจะไม่ชนะ ผมตั้งเป้าไว้ขอแค่ไม่แพ้ก็พอในเกมส์นี้. อย่าลืมนะครับเชฟฯยูไม่ใช่ทีมไก่กาที่เราจะชนะเขาได้ตลอด และเราก็ยังมีปัญหาเรื่องอาการบาดเจ็บของผู้เล่นตัวหลักอีก สเปอร์ อาร์เซน่อล เชลซี 3ทีมนี้ยังชนะเชฟฯยูไม่ได้เลย
การเสมอแบบนี้อาจจะน่าเสียดายแต่ไม่น่าเกลียด แมนฯยูจะเจอปัญหาเสมอกับการรับมือกับทีมที่มีระบบเกมรับที่เหนียวแน่น ผมเชื่อว่าไม่มีใครคิดหรอกครับว่า แมนฯยูจะยิงได้ถึง3ลูกใน7นาที ขนาดนิวคาสเซิลเรายังยิงไม่ได้เลย ด้วยคุณภาพนักเตะชุดนี้การทำได้แบบนี้ก็ไม่ใช่เรื่องแย่สำหรับผมเลยครับ
เราทุกคนต่างรู้กันดีว่า แมนฯยูในตอนนี้ผู้เล่นส่วนใหญ่คือนักเตะดาวรุ่ง โค้ชเองก็ยังเป็นมือใหม่ในการคุมทีม ต้องให้เวลาเขาในการพัฒนา และเราก็เห็นพัฒนาการของโค้ชและนักเตะอยู่ตลอดเวลา ถ้าเทียบกับช่วงแรกๆของฤดูกาล กับ ตอนนี้ สำหรับผมแล้วมันคือพัฒนาการที่ดี แม้จะไม่เร็ว แต่ก็ดีขึ้น
มันก็เหมือนการปลูกต้นไม้นั่นแล่ะครับ เราต้องใช้เวลา ในการเปลี่ยนจากเมล็ดพืชให้กลายเป็นต้นกล้าและสุดท้ายก็เป็นต้นไม้ใหญ่ที่ให้ร่มเงาได้ แฟนบอลเองก็ต้องทำหน้าที่เป็นปุ๋ยที่ดีเพื่อให้นักเตะด้วย
สำหรับผมในการเป็นแฟนผี ไม่มีอะไรมีความสุขมากไปกว่า
"การที่เราเห็นต้นกล้าที่เราปลูก เติบโตเป็นต้นไม้ใหญ่อีกแล้ว"
แทบรอไม่ไหวเลยล่ะ 😊😊😊
ปล. พรุ่งนี้จะทำตัดเกรดนักเตะครับ ผมไม่อวยอย่างเดียวแน่นอน มีหลายคนที่ผมอยากด่ามาก แต่เดี๋ยวจะยาวเกินไป
บันทึก
4
4
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย