27 พ.ย. 2019 เวลา 12:30 • บันเทิง
เรื่องสั้น : คำอธิษฐานต่อดวงดาว
คุณเห็นผู้ชายคนที่ยืนอยู่ตรงใกล้ ๆ ป้ายรถเมล์นั่นไหม นั่นล่ะเขา ชายหนุ่มที่แก่กว่าฉันสองปี พูดน้อย แต่ถ้าได้พูดบางทีก็มีจ้อไม่หยุด โกรธยาก หายเร็ว มีน้ำใจให้ทุกคนรอบตัวเสมอ และเขาคือคนที่ฉัน...รัก
ถ้าจะเอาเพลงอะไรมาประกอบภาพที่เห็นตอนนี้ คงต้องเป็นเพลงนี้เลย
"~เจอะคนหน้างอ อยู่ตรงหน้า ม.
ก็ไม่รู้ ว่าเธอนั้น รอใคร
เจอะเธอหน้างอ ก็ไม่เข้าใจ
ว่าคนไหน ที่ทำให้เป็นอย่างนี้~"
คนอะไรให้รอแปปเดียว ทำหน้างอเสียแล้ว
"พี่เอก มารอนานแล้วเหรอ ยืนหน้างอเป็นปลาทูแม่กลองเลย"
"พิมมาช้ามากกกกก" เขาลากเสียงยาว แต่ฉันรู้เลยว่าเขาไม่ได้โกรธหรอก
เขายื่นมือมาหยุดกึกตรงหน้า ปลายนิ้วชี้ค่อยยื่นออกมา มันสัมผัสแผ่วเบาที่ปลายจมูก และในทันทีฝ่ามือที่อบอุ่นก็เลื่อนขึ้นแล้วมาวางแปะลงบนหัวฉัน พร้อมเขย่าเบา ๆ
"คราวหน้าถ้าสายอีกนะ จะไม่ช่วยติวแล้วรู้ไหมยัยเด็กบ๊อง" เขาหัวเราะร่วนกับใบหน้าที่กำลังแดงขึ้นกับปากที่อ้าค้างเพราะลืมตัวของฉัน
ก็คนทั้งป้ายรถเมล์ยังหันมามอง จะไม่ให้ฉันเขินจนแทบม้วนไปกองอยู่ตรงนั้นได้ยังไง ตาบ้าเอ้ย ตัวฉันสั่นยิ่งกว่าหัวใจตอนนี้เสียอีก
"มาตรา 4 : ผู้ใดกระทำความผิดในราชอาณาจักร ต้องรับโทษตามกฎหมาย
การกระทำความผิดในเรือไทยหรืออากาศยานไทย ไม่ว่าจะอยู่ ณ ที่ใด ให้ถือว่ากระทำความผิดในราชอาณาจักร" เสียงเขาอ่านตัวบทประมวลกฎหมายอาญาเสียงเจื่อยแจ้ว นั่นทำเอาฉันเผลอมองจนลืมตัว
"พิม ฟังอยู่ไหมเนี่ย" เขาหันควับมาค้อน
"ฟังสิ ฟังอยู่อธิบายต่อเลยค่ะ" ฉันสะดุ้งเล็กน้อยเพราะมัวเผลอมองจนเพลินจริง ๆ
"งั้นพี่จะถามว่า ถ้าการกระทำความผิดเกิดขึ้นในเครื่องบินไทย ที่จอดอยู่ที่สนามบินเกาหลี แต่ผู้กระทำความผิดเป็นคนนามิเบีย เขาต้องได้รับโทษตามกฎหมายไทยไหม" เขาควงปากกาในมือไปมาคล่องแคล่วราวกับนักจักกลิ้งมืออาชีพที่กำลังแสดงโชว์
"ต้องสิ ใช่ไหมอ่ะ"
"เก่ง.." เขาหยุดเสียงกลางคัน
"แล้วถ้าเขาทำผิดในหัวใจชายไทย เขาต้องรับโทษตามกฎหมายที่ไหนเหรอ" พี่เอกลดเสียงลงแผ่วจนเกือบไม่ได้ยิน
"โอย มุกเสี่ยวมาก เอามาจากเพจไหนเนี่ยพี่เอก" ฉันหัวเราะเพราะอดขำไม่ได้
"สงสัยมุกนี้จะไม่ผ่าน" แล้วเขาก็หัวเราะออกมาบ้าง จนเราสองคนหัวเราะจนท้องแข็ง และแน่นอนวิชากฎหมายอาญา 1 ฉันสอบผ่านได้อย่างสบาย ๆ เพราะพี่เอกติวให้จริง ๆ
ยังจำได้ครั้งที่เราไปเที่ยวท้องฟ้าจำลองด้วยกัน ขณะที่นั่งดูดาวปลอม ๆ ที่ส่องสว่างอยู่บนโดมโค้งนั่น บทสนทนาสั้น ๆ ที่ฉันไม่เคยลืม
"ถ้าเราอธิษฐานกับดาวในท้องฟ้าจำลอง มันจะสมหวังเหมือนดาวจริง ๆ ไหมพี่เอก" ฉันกระซิบข้างหูเขา
"จะดาวไหน ๆ ถ้าเราอธิษฐานแล้วสมหวังได้จริง ทุกคนก็คงไม่เคยมีใครผิดหวังเลยสิพิม" เขากระซิบตอบกลับ
"คนบ้า" ฉันเอาศอกกระแทกไปเบา ๆ ที่แขนของเขา
"คนอะไร ไม่โรแมนติกเอาซะเลย ชิ" ฉันทำหน้างอแล้วนั่งฟังบรรยายเรื่องดาวต่ออย่างหัวเสีย ส่วนเขาได้แต่นั่งยิ้มราวกับเป็นเรื่องขบขัน ทั้งที่ฉันออกจะจริงจังกับคำถามนั่นทีเดียว
"ตาบ้า" ฉันนึกในใจ
แต่ทุกครั้งที่มีโอกาสเห็นหมู่ดาวหรือดาวตก ฉันมักอธิษฐานเสมอ คำขอไร้สาระที่ไม่อาจบอกใครได้ ฉันรู้ว่ามันไร้สาระ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะอธิษฐานทุกครั้งที่มีโอกาส
แต่ดูเหมือนว่าพรจากดวงดาวคงไม่มีอยู่จริง หลายปีที่ผ่านมาเหมือนว่าความสัมพันธ์ของเราจะไปได้ด้วยดีทีเดียว แต่มันก็แค่นิยายประโลมโลก รักหวานราวนิยายวัยรุ่นและความสัมพันธ์ในจินตนาการที่จะอยู่จนลูกเต็มบ้านและแก่ลงไปด้วยกัน นั่นมันเรื่องในจินตนาการทั้งนั้น
การประคับประคองความสัมพันธ์ให้ทอดยาวนานแน่นแฟ้น ไม่ใช่เรื่อง่ายเลย ยิ่งเราค้นพบตัวตนของกันและกันมากเท่าไหร่ เราก็ยิ่งพบว่าบางทีคนสองคนนั้นช่างต่างกันมากมายเสียเหลือเกิน การพยายามปรับตัวเข้าหากัน ก็เหมือการเอาดาวศุกร์มาชนกับดาวเสาร์ คงพอนึกภาพออกว่าอะไรจะเกิดขึ้นตามมา
"พี่เอก วันนี้ว่างไหมค่ะ อยากชวนไปทานข้าวกัน"
"พิม พี่ขอโทษนะ วันนี้พี่มีนัดประชุมเรื่องคดีต่อที่สำนักงาน ไม่แน่ใจว่าจะเสร็จกี่โมง พิมหาทานเองไปก่อนนะ เดี๋ยวสุดสัปดาห์เราไปหาอะไรทานกัน พี่สัญญา"
ใช่แล้วคำสัญญาที่พี่เอกทำตามทุกครั้ง แต่มันจะมีประโยชน์อะไรกัน เพราะฉันอยากไปวันนี้ ไม่ใช่ตอนสุดสัปดาห์ พี่เอกทำงานแล้วส่วนฉันยังเรียนปีสี่ มันเป็นความวุ่นวายและเหนื่อยล้าในช่วงใกล้เรียนจบ
อยากแค่มีคนปรับทุกข์ด้วยในตอนที่หมดพลัง แม้แต่โทรไปคุยด้วยตอนห้าทุ่ม พี่เอกก็ยังคุยด้วยแค่สี่ห้านาที แล้วก็ขอตัวไปพักเพราะทำงานมาทั้งวันแล้ว
อาจดูเหมือนฉันเอาแต่ใจ แต่คุณไม่รู้หรอกว่าผู้หญิงไม่ได้ต้องการอะไรไปมากกว่าความใส่ใจเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่สม่ำเสมอ และที่สำคัญ เธอต้องการคนที่รับฟังมากกว่าจะมาช่วยแก้ปัญหา แต่ผู้ชายกลับคิดตรงกันข้าม
"พี่เอก พิมจะไปเรียนต่อนะ พิมอยากพิสูจน์ตัวเองในบางเรื่อง"
"ไปเรียนต่อเหรอ ...อืมม ก็ดีนะ" เขาพูดแค่นั้น
"ก็ดีนะ.. น้ำเสียงพิมฟังก็รู้แล้วว่าพี่เอกไม่ได้คิดแบบนั้นเลย" ฉันเริ่มคอแห้งผาก
"พี่หมายความแบบนั้นจริง ๆ เพียงแต่…"
"แต่อะไรคะ" ฉันหวังเพียงเสี้ยวหัวใจว่าเขาจะเอ่ยคำที่รั้งหัวใจฉันไว้ได้
"ไม่มีอะไร... พี่ขอให้พิมประสบความสำเร็จนะ พี่จะเป็นกำลังใจให้เหมือนที่เป็นตลอดมา"
เสียงในสายโทรศัพท์เหลือเพียงเสียงความเงียบงัน มีเพียงเสียงถอนลมหายใจเบา ๆ ดังแทรกเป็นระยะ
"งั้นพิมว่าเราเลิกกันเถอะค่ะพี่เอก พิมอยากโฟกัสเรื่องเรียน พี่เอกเข้าใจใช่ไหม พิมว่าแบบนี้ดีสำหรับเราทั้งคู่ที่สุดแล้วค่ะ บางทีฝันของเราคงไม่ใช่ฝันอันเดียวกันอีกแล้ว" ฉันวางหูโทรศัพท์ลง แล้วน้ำตาก็พรั่งพรูออกมาไม่ขาดสาย
ใช่แล้ว ฝันของเราทั้งคู่จบลงหลังจากนั้นจริง ๆ ฝันของฉันคือการเรียนให้สำเร็จและได้ท่องเที่ยวไปทั่วโลก ส่วนพี่ฝันจะมีครอบครัวเล็ก ๆ อยู่อย่างง่าย ๆ และอบอุ่น แต่ตอนนี้มันมลายลงแล้ว เหลือเพียงความสัมพันธ์บาง ๆ ที่ฉันยังเว้นที่ไว้ให้
"เรายังเป็นพี่น้องกันได้ไหมพิม" คำขอสุดท้ายก่อนที่เราจะจบกัน
กระเป๋าเดินทางถูกเปิดอ้า เสื้อผ้าข้าวของกองเต็มเตียงนอน และซองจดหมายสีชมพูวางบนโต๊ะเครื่องแป้ง การ์ดเชิญงานมงคลสมรสของพี่เอก และหญิงสาวอีกคน ซึ่งไม่ใช่ชื่อของฉัน
หลังจากไปเรียนต่อเกือบสี่ปีที่นิวซีแลนด์ ระหว่างนั้นฉันทุ่มเทกับการเรียนอย่างเต็มที่ รับจ๊อบงานพิเศษ และเก็บเงินออกเดินทางไปเกือบทุกทวีปของโลก เพราะการเดินทางเป็นยาวิเศษในการเยียวยาหัวใจของฉัน
"ถ้าใจมันยังไม่ใช่ จะเที่ยวไปสุดขอบโลกมันก็ไม่สนุกหรอก" พี่เคยบอกฉันแบบนั้น
ฉันอยากจะบอกพี่ว่ามันไม่จริง ฉันสนุกกับมันมาก ได้พบเพื่อนใหม่ ประสบการณ์ตื่นเต้นมากมาย อาจมีเหงา ๆ บ้าง แต่นั่นทำให้ฉันลืมพี่ไปเสียสนิทในเวลานั้น ฉันจึงคิดว่าฉันคงเข้มแข็งพอจะไปงานแต่งงานของพี่ได้แล้ว ฉันมั่นใจ
แค่สงสัยนิดหน่อยว่าคนไม่โรแมนติกแบบพี่ยังจีบใครได้อีกรึนี่ ฉันยังอดขำไม่ได้ตอนครั้งแรกที่พี่ซื้อดอกไม้ให้ เป็นดอกกุหลาบที่ปากคลองฯ ห่อกระดาษหนังสือพิมพ์มาอยู่เลย เพื่อน ๆ พี่ต่างโห่ร้องตามมาสุดทาง ตอนที่พี่เดินเอามาให้ แล้ววิ่งหนีไปเสียอย่างนั้น
"คนบ้า ตาเฉิ่มเอ้ย"
เทียนมงคลส่องสว่างไสว เค้กงานแต่งวางในจานตรงหน้า พอดีฉันลดน้ำหนักอยู่เสียด้วย ฉันจึงขออนุญาตที่จะไม่ลิ้มลองมัน พี่เดินไปกับเจ้าสาวถ่ายรูปรอบงาน วันนี้ดูทั้งคู่เหมาะสมกับจริง ๆ พี่ยิ้มมีความสุขเหมือนนั้นวันนั้นไม่ผิด วันนั้นในท้องฟ้าจำลอง ใต้ดวงดาวที่ส่องประกายแม้ว่ามันจะไม่ใช่ดาวจริงก็ตาม
"ถ้าใจมันใช่ จะเที่ยวแค่ปากซอยมันก็มีความสุขนะ" ประโยคอีกอันที่พี่มักพูดเสมอตอนฉันบ่นว่าอยากเดินทางท่องเที่ยว
"พี่เอก พิมกลับละนะ ยินดีด้วยนะคะ ดีใจด้วยจริง ๆ" ฉันเดินไปบอกลาอีกครั้งก่อนกลับ
"ขอบคุณมากนะพิม อุตส่าห์มาจนได้ เพิ่งกลับมาถึงไทยไม่กี่วันเอง ขอบคุณมาก ๆ เลยนะ" พี่เอกยิ้มกว้างอย่างที่เป็นเสมอ
"อ้อ ได้ของที่ระลึกรึยัง เดี๋ยวพี่ไปหยิบให้ ของพิมพี่เตรียมไว้ให้พิเศษด้วย" พี่หันไปคุยกับเจ้าสาว เธอผยักหน้ายิ้มรับอย่างเข้าใจ
พี่เดินกลับมาพร้อมของที่ระลึกในมือ กับกระดาษที่ห่อบางสิ่งมาด้วย
"พี่อยากให้พิมมานานมากแล้ว นานตั้งแต่ตอนนั้น แต่ไม่มีโอกาสเลย ถ้าพิมไม่โอเคจะทิ้งก็ได้นะ แต่มันคือความทรงจำที่ดีที่สุดของชีวิตพี่อันนึง พี่คงบอกพิมได้เท่านี้"
พี่เอามือเหมือนจะยกมาลูบหัวฉันอย่างที่เคย แต่มันเปลี่ยนเป็นโบกมือลาเบา ๆ ก่อนจะหันกลับไปในงานอีกครั้ง
ฉันวางของที่ระลึกลงที่โต๊ะเครื่องแป้ง นั่งลงบนเตียงและค่อย ๆ แกะห่อกระดาษออกมา
มันเป็นสมุดบันทึกเล่มไม่เล็กไม่ใหญ่ ปกรองเขียนว่า
"ด้วยความทรงจำที่แสนดี"
ด้านในมีของเล็ก ๆ น้อย ๆ ทั้งตั๋วหนังเรื่องแรกที่เราไปดูด้วยกัน บัตรเข้าท้องฟ้าจำลอง การ์ดวันเกิดที่ฉันเคยเขียนให้พี่ รูปถ่ายของเราสองคนที่ร้านไอติม และบันทึกเรื่องราวมากมายในวันดี ๆ ของเรา
มีหน้าหนึ่งเขียนไว้ว่า
"พี่ก็อธิษฐานกับดวงดาวนะ ถึงจะรู้ว่ามันคงไม่สำเร็จเพราะดวงดาวหรอก แต่พี่อยากให้พิมมีความสุขเสมอนะ"
น้ำตาของฉันเอ่อท่วมในทันที ที่พลิกไปเจอรูปถ่ายของเราสองคนในวันรับปริญญาของฉัน นั่นคือก่อนหน้าที่เราจะจบความสัมพันธ์ลงเพียงไม่กี่สัปดาห์
พี่ยิ้มกว้าง ส่วนฉันหน้ามุ่ยเล็ก ๆ ที่พี่มาสายเพราะที่ทำงานวานให้จัดการเอกสารจนเลยเวลา แต่จริง ๆ ฉันดีใจที่พี่มาจนได้ และเสียใจที่ตอนนั้นฉันไม่ยิ้มให้กว้างเหมือนพี่ยิ้ม
ฉันเห็นภาพนี้มีรอยน้ำหยดลงบนนั้น รอยน้ำที่ทำเอาภาพนี้โป่งขึ้นเป็นจุด ๆ และตอนนี้น้ำตาฉันหยดตกลงไปทับซ้ำรอยบวมเหล่านั้นเช่นกัน
ฉันพลิกไปหน้าสุดท้าย พี่เขียนไว้ว่า
"ฝันของพิมพ์พี่กำลังพยายามอยู่ มันอาจไม่ใช่วันนี้ที่พี่จะออกเดินทางไปกับพิม ขอเวลาพี่หน่อย อีกไม่นานหรอก พี่จะแบกเป้ไปกับเธอทุกที่ สัญญานะ"
มีลายมือเขียนต่อด้านล่าง หมึกยังดูใหม่
"นี่เป็นความทรงจำที่ดีที่สุดในชีวิตของพี่ อยากให้พิมรู้ว่าพี่ต้องขอโทษที่มุ่งแต่ทำตามฝันในแบบที่พี่คิด โดยไม่คิดถึงใจพิมบ้าง ขอโทษจริง ๆ อยากให้พิมรู้ว่าพี่ชายคนนี้อยากให้พิมมีความสุขเสมอนะ เจ้าเต่าน้อย"
ฉันร้องไห้ออกมาอย่างไม่อาจควบคุม นั่นเพราะฝันเราอาจไม่ใช่ฝันเดียวกันตั้งแต่แรก ทุกอย่างมีเหตุผลของมันเสมอ แต่ที่ฉันมั่นใจคือ คำอธิษฐานกับดวงดาวของฉันมันสัมฤทธิ์ผล เพราะทุกครั้งที่เห็นดาวฉันจะขอพรไร้สาระข้อนี้เสมอ
"อยากอยู่ในสมุดบันทึกของผู้ชายโรแมนติกสักคนจัง" และอีกข้อที่ขอแถมไปด้วยเสมอคือ "อยากให้พี่เอกมีความสุข"
แล้วมันก็เป็นจริงจนได้
จบแล้วววววว
ดี หรือ ไม่ดีต้องขออภัยคนอ่านไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ ช่วงนี้แอดไม่ค่อย ok เท่าไหร่ เข็นออกมาได้เท่านี้จริง ๆ แต่สัญญาไว้แล้ว คงต้องทำ
ถ้าขุ่นข้องหมองใจอะไร อย่าว่าแอดนะ เขียนไปตามอารมณ์

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา