28 พ.ย. 2019 เวลา 06:01
ตอน 2 ฝรั่งหัวฟูมาอีกแร่ะ❗อิหยังว้ะ❓
หลังจากร่ำลากันคืนนั้น เรากับเพื่อนก็ช่วยกันเก็บกวาดร้าน และเข้านอน
คืนต่อมา ฝรั่งหัวทอง ตัวสูงๆ คนเดิม ก็มากับเพื่อนร่วมชาติสูงวัยสักหน่อย คราวนี้มากันแค่ 2 คน เกรนท์ก็ให้การต้อนรับลูกค้าชาติเดียวกันอย่างมีความสุข
เค้าก็มานั่งเมาท์กันตามประสาคนบ้านเดียวในต่างแดน ไอเราจะไปเข้าใจอาร้ายยยย ภาษาสวีดิช แค่อังกฤษยังแทบจะไม่รอดเล้ย ฮ่าๆๆ...
ดึกแล้ว ก็ถึงเวลาร่ำลาลูกค้า เราก็ยืนโบกมือขอบคุณพ่อหนุ่มหัวฟู แทนเพื่อน
และแล้ว ก่อนเค้าจะก้าวขาเดินจากไป เค้าก็ยืนแบบลังเล อ้ำๆ อึ้งๆ แล้วก็ถามเราว่า "พรุ่งฉันกับเพื่อนๆ จะมาแฮงค์เอาท์กันที่ชายหาด ไปด้วยกันมั้ย" เราก็ตกใจนะ เอออ.... ฝรั่งหนุ่มชวนไปเล่นน้ำ...หรือนี่?
"โอเค๊" ตอบพร้อมยิ้ม (อ้าววว ไม่คิดก่อนเหรอ?) ณ.ตอนนั้น เราแค่คิดว่า เค้าคงเมา พูดไปเรื่อยเปื่อย เผลอๆ เค้าแฮงค์ เค้าก็คงนอนกันทั้งวัน ยังงัย เค้าคงไปชายหาดไม่ไหวหรอก เราจึงตอบโอเคไปแบบส่งๆ 😅
เช้ามา... เราก็แต่งตัว โบกกันแดด แต่งหน้า โอ้ยย นี่ขนาดไม่หวังอะไรนะ 😂 เกรนท์เห็นว่าผิดปกติ และแปลกใจ เลยถามเราว่า ยูจะไปไหน
เราก็ตอบไปว่า หนุ่มหัวฟู เขาชวนฉันไปชายหาดกับเพื่อนๆ เขาด้วย เกรนท์ตาโตเท่าไข่ห่าน พร้อมอุทาน ''โอ้ว มาย ก้อดดดดด''
"ทำมายยยยย เกรนท์'' เราถาม
เกรนท์ เลยรีบเล่าทันที พร้อมถือแก้วกาแฟแกว่งไป แกว่งมาว่า
หนุ่มหัวฟู : ในร้านทำงานกันแค่ 3 คนเหรอ?
เกรนท์ : ปกติ ฉันทำกัน 2 คนกับแฟน
หนุ่มหัวฟู : อ้าว แล้วสาวคนนี้ล้ะ?
เกรนท์ : อ๋อ เค้าเป็นเพื่อนของแฟนฉันเอง เพิ่งมาจาก กท. มาเยี่ยมแฟนฉัน เขามีน้ำใจช่วยเราทำงานด้วยนะ
หนุ่มหัวฟู : อ้าวววว โทษทีนะ ในใจผมก็นึกว่า เค้าเป็นผู้หญิงบาร์
เกรนท์: โนวววววว..... คุณเข้าใจผิดนะ เพื่อนแฟนฉันเขาเรียนมหาวิทยาลัย ที่ กท. เชียวนะ (มีโม้ด้วยนะ เกรนท์ ฮ่าๆๆ)
หนุ่มหัวฟู : อ๋ออออ ว้าววว หรอ
พอเกรนท์เล่าจบ เราก็แปลกใจ ว่าผู้ชายเค้าเมาท์มอยผู้หญิงด้วย? ฮ่าๆ
เกรนท์ บอกว่า สงสัยเค้าคงชอบเธอนะ แต่ที่เค้าระวังตัว อาจจะเป็นเพราะ เขาอาจจะไม่ชอบเทคผู้หญิงบาร์ก็ได้ ซึ่งตอนนั้นเขาก็เข้าใจเราผิด
ซึ่งพอเขามารู้ความจริง หลังจากที่เกรนท์เล่า เขาจึงกล้าออกปากชวนเราไปร่วมกิจกรรมกับเพื่อนๆ ของเขา
จบ.. การสนทนากับเกรนท์พักนึง นินทาเขากันไม่ทันขาดคำ หนุ่มหัวฟูก็เดินมาดุ่มๆๆ คนเดียว คงจะมารับเราไปชายหาด ส่วนเพื่อนสาวเรา ก็บอกว่า เดี๋ยวจะตามไปแจมด้วย
ไฮ..... คุณมาคนเดียวเหรอ? เราถาม
ตาหัวฟู : ใช่ๆ เพื่อนของผมเมาค้าง ยังไม่ตื่นกันเลย
เรา : อ้าว แล้วคุณ ไหวเหรอ?
ตาหัวหู : ไหวครับ ชวนและนัดคุณแล้ว ยังงัยก็ต้องมา
(...... โอ้วววว เราแอบคิดในใจว่า นี่ถ้าเป็นชายไทย จะแบบนี้ป่าวว้า ...😅)
ตาหัวฟู: Let's go
วันนั้น ช่วงเวลานั้น โอ้ยย บอกไม่ถูก ความรู้สึกเหมือนเราได้เพื่อนใหม่ ที่เป็นคนละชาติ คนละความเชื่อ คนละความคิด เวลาที่เราแลกเปลี่ยนพูดคุยอะไรกัน มันสนุกไปหมด
ส่วนตัวเราเป็นคนช่างถาม ช่างคิด ช่างสงสัยมาตั้งแต่เด็กอยู่แล้ว จึงไม่ยาก ถ้าเราจะสนุกที่จะคุย และฟังเรื่องที่เราไม่คุ้นเคย กับใครสักคนที่ต่างชาติกันแบบนั้น
พักใหญ่ หนุ่มๆ สวีเดนที่เหลือก็ตามมาด้วยท่าทีอิดโรยจากการที่เค้าปาตี้เยอะ พวกเค้าตามมาสมทบพร้อมสั่ง Brunch กินกันอย่างอร่อย (Brunch คือ อาหารเช้าก็ไม่ใช่ อาหารเที่ยงก็ไม่เชิง เวลามันคาบเกี่ยวกัน)
ยิ่งพอเพื่อนสาวเรากับเกรนท์ ตามมาอีก ยิ่งสนุกกันใหญ่ เล่นน้ำกัน หัวเราะกัน พร้อมเพื่อนเก่าที่เจอใหม่ และเพื่อนใหม่ที่เพิ่งรู้จักกัน แฮบปี้มากค่ะ ได้เปิดโลกใบใหม่ในสถานที่ที่ไม่คิดว่า จะได้มีปัญญาไป (ณ.ตอนนั้นที่เป็น นศ.จนๆ)
ตาหัวฟู : เล่นน้ำมั้ย
เรา : ช้านว่ายน้ำไม่เป็น และกลัวทะเล เวลาคลื่นมา ช้านทำอะไรไม่ถูก น้ำเข้าปาก เลยไม่ชอบ
ตาหัวฟู : (หัวเราะนิดๆ) อ๋อ .... มิน่าล้ะ ถึงไม่ว่าย เห็นเดินลุยน้ำแค่เข่า (เขาพูดพร้อมทำมือประกอบ เพราะกลัวเราจะไม่ข้าใจ)
.... Come on เดี๋ยวผมจะ Protect คุณเอง
เรา: what? พร้อมขาเดินตามเขา
วันนั้น ทั้งสนุก ทั้งอาย เพราะเขาบอกว่า เราว่ายน้ำท่าหมา 🐕 ฮ่าาา😅 แป่วววว คลื่นมาที เขาก็จะคอยเซปเราด้วยการจับเอวเราดันขึ้นเหนือคลื่น รู้สึกปลอดภัยและสนุกสุดๆ ส่วนตัวแทบจะไม่ค่อยมีโอกาสได้ไปทะเล ตอนเด็กๆ แม่พาไปบางแสนครั้งเดียว จากนั้นก็ปากกัดตีนถีบ อย่าได้คิดเรื่องเที่ยวเด็ดขาด
เขาเลี้ยงเรา 1 ดื่ม พร้อมนั่งคุยแลกเปลี่ยนวัฒธรรมกันอย่างออกรสชาติ ตั้งแต่ก่อนเที่ยงยัน 4 โมงเย็น จนลืมเวลาว่า ต้องไปช่วยเพื่อนเปิดร้าน
เมืองไทยสำหรับเค้า คงไม่ต้องอธิยายอะไรมาก เพราะเค้าเอง ก็ได้เห็นหมดแล้ว หนุ่มวัย 27 ปี ตั้งก๊วนแบคแพคกับเพื่อนๆ เดินทางไปทั่วโลก หลังจากที่เค้า ได้ทำงานอย่างหนักที่สวีเดน เพื่อเติมฝันของเค้าเอง จนมาพบเรา
เรื่องเล่าของเค้า เรื่องความคิดของฝรั่ง คนนึง ฟังดูแล้ว บางอย่างเด็ก-วัยรุ่นไทย น่าจะนำมาปรับใช้นะค่ะ
คิดดู ว่าจากเด็กก็เรียน พอเข้าวัยรุ่น เค้าก็หางานปิดเทอมทำ อยากได้ของฟุ่มเฟือยนอกเหนือจากที่พ่อแม่ให้ ก็รอทำงานช่วงปิดเทอม แล้วเก็บเงินไปซื้อ มีบ้างที่เงินเก็บไม่ถึงเป้า พ่อแม่ก็เติมเงินส่วนที่ลูกขาดให้ มันเป็นการสอนลูกว่า อยากได้อะไร ต้องขยัน อดทน อดออม พ่อแม่จะคอยซัพพอร์มลูกเอง แต่ลูกต้องรู้จักพยายามเองก่อน
พอเข้าหนุ่ม-วัยสาว ได้ทำงานเต็มเวลาเพราะเรียนจบแล้ว ทีนี้เก็บเงินได้เยอะขึ้น เริ่มแบคแพคเดินทางท่องเที่ยว เปิดโลกกว้างในสิ่งพ่อแม่อาจจะให้เค้าไม่ได้
เค้าบอกว่า คนบ้านเค้า ช่วงวัยรุ่น เป็นช่วงหาประสบการณ์ จะเปลี่ยนงาน เปลี่ยนแฟน หรือท่องเที่ยว ทั่วโลก 6 เดือนต่อปี ก็จัดเต็มไปเลย จัดให้อิ่ม เพราะเมื่อเรามีครอบครัว มีลูก พวกเค้าจะไม่โหยหาอะไรแล้ว และยากที่จะออกนอกลู่นอกทาง เพราะภูมิคุ้มกันของเค้าสะสมมาค่อนข้างเต็มที่แล้วในช่วงวัยรุ่น
ไอที่เมียเลี้ยงลูกอยู่บ้านคนเดียว สามีออกมาเรียกร้อง และขอไปเฮ้วๆๆ นอกบ้าน พร้อมอ้างว่า ตั้งแต่มีลูกมีเมีย ไม่เคยได้ไปไหน เหนื่อย อยากพักผ่อน อยาเจอเพื่อนบ้าง สำหรับคนบ้านเค้าแล้ว ไม่มีนะ
เพราะฉนั้น ใครที่ยังโสด ใช้ชีวิตให้คุ้มค่าก่อนนะค่ะ บางคนรีบร้อนมีครอบครัวในอายุยังน้อย หรือคบกันระยะสั้นๆ แล้วแต่งงานทันที เราจะโหยหาชีวิตโสดทีหลัง มันก็สายไปจน อาจจะทำให้มีปัญหาครอบครัวทีหลัง ตามที่เป็นข่าวนั่นล้ะค่ะ
Bye guys. อำลาหนุ่ม ๆ พร้อมโบกมือ มันช่างเป็นวันที่ดีจริงๆ ของเด็ก กท. ที่เอาแต่เรียน และคิดแต่เรื่องค่าครองชีพ เห็นแต่ตึกและรถมากมาย วันนึงได่ไปเปิดโลก ได้พบเพื่อนใหม่ ช่างดีสุดๆ เลยค่ะ😁
วันนั้น เป็นจุดเริ่มต้น ของอดีตเมียหรั่ง ที่ได้พูดคุยกับอดีตสามีอย่างสนุกสนานและเป็นทางการขึ้นมาอีกขั้นนึง สำหรับเราสองคน
เอ๊ะ ❗ เขาวิ่งตามเรามา พร้อมกับมาพูดอะไรกับเรา❓ แล้วจะมีอะไรเกิดขึ้นต่อจากนั้นน๊า 🤔❓
โปรดติดตามตอนต่อไปนะค่ะ... ช่วยกดไลค์ กดติดตาม เป็นกำลังใจให้อดีตเมียหรั่ง ในการเขียนบทความตอนหน้าด้วยนะค่ะ 😘 เลิฟคนอ่านจร้า จุ๊บๆๆ 😘
โฆษณา