28 พ.ย. 2019 เวลา 04:32 • ท่องเที่ยว
ตอนที่ 7 (สุดท้าย) : เดินเขาลาก 3 ชั่วโมงขึ้นไปชมรังเสือ 'วัดทักซัง'
#สักครั้งที่ภูฏาน (7) 🇧🇹
🌏 วันนี้เราตื่นกันตั้งแต่เช้า โดยมีอากาศเย็นๆ สัก 15-16 องศาฯ มารอต้อนรับ โปรแกรมวันนี้ถือว่า 'สำคัญ' ที่สุดของการเดินทางมาเยือนประเทศภูฏาน เพราะเราจะเดินขึ้นเขากันหลายชั่วโมง เพื่อไปเยี่ยมชมความไฮไลท์ของทริป นั่นคือ 'วัดทักซัง' (Taktsang Monastery) หรือวัดรังเสือ (Tiger's Nest) อัญมณีแห่งเมืองมังกรสายฟ้า
🚐 คณะของเราพักกันที่เมืองหลวงทิมพู โดยเส้นทางไปยังทักซังต้องย้อนขึ้นไปผ่านเมืองพาโร ดังนั้นเราจึงใช้เวลาเดินทางค่อนข้างนาน และต้องนั่งรถชมวิวภูเขาไปอีกอย่างน้อยก็ 1 ชม.เต็มๆ กว่าจะถึงพาโร และต่อไปอีกที่ทักซังประมาณครึ่งชม.หย่อนๆ
ทิมพูยามเช้า
🛣 ในระหว่างทางช่วงที่เราผ่านสนามบินเมืองพาโร เส้นทางช่วงนี้ต้องชื่นชมว่าสวยสะบัด.. เพราะถนนจะวิ่งเลียบขนานไปกับแม่น้ำพาโร (Paro Chu) มีมุมสวยๆ ให้เก็บภาพความประทับใจได้หลายจุด โดยเฉพาะบริเวณโค้งน้ำตัดกับสะพานรถผ่าน ให้ฟิวเหมือนมายุโรปอย่างไรอย่างนั้น
🚩 เสพวิวเพลินๆ ได้ไม่นาน เราก็มาถึงตีนเขาทางขึ้นทักซังเป็นที่โล่งเชิงเขาไม่ใหญ่นัก รถของเราเข้าไปจอดบริเวณลานจอดแคบๆ มีทัวร์ฝรั่งกรุ๊ปเล็กๆ ข้างหน้า 2 - 3 คณะมารอขึ้นก่อนหน้า รวมไปถึงนักท่องเที่ยวจากอินเดีย และปากีสถานอีกจำนวนหนึ่ง แต่ก็ดูบางตาไม่พลุกพล่าน
ลานทางขึ้นเขา
⛰ ณ จุดขึ้นแห่งนี้ เราเงยหน้าทอดสายตาผ่านต้นสนใหญ่ และแมกไม้ในพื้นที่ มองไปบนยอดเขาข้างหน้า ก็เห็น 'วัดทักซัง' อยู่ไกลลิบๆ ขนาดใหญ่กว่าหัวไม้ขีดนิดเดียว โดยมีลักษณะเป็นสิ่งปลูกสร้างสีกลมกลืนกับหน้าผาสีเทาๆ แต่มีสีส้มๆ ของหลังคาแซมออกมาให้ดูสะดุดตาเล็กน้อย
😥 คาดคะเนด้วยสายตา.. เดาได้ว่า เหนื่อยแน่ๆ เพราะเส้นทางกว่าจะไปถึง เราต้องขึ้นเขาที่ชันมากๆ ใครมีถั่งเช่า ยาบำรุงอะไรกินดักไปก่อนจะเป็นสิ่งที่ดีมากๆ เนื่องจากคงต้องใช้พลังและกำลังขาในการเดินขึ้นไปอย่างหนักหนวง
🐴 หลังจากประเมินดูแล้ว หากเราจะเดินขึ้นไปจากจุดนี้ คงหมดแรงข้าวต้มแน่ จึงจำต้องมองหาตัวช่วยด้วยการใช้บริการเช่าวินม้าแคระ นั่งขึ้นไปสักครึ่งทาง เพื่อเก็บพลังไว้เดินบนเส้นทางที่ชันมากๆ โดยสนนราคาในการเช่า ก็อยู่ที่ประมาณ 400 บาท
🐎 เราได้ม้าคู่ใจแล้ว ก็กระโดดค่อมขึ้นไปจนเป้าเกือบฉีกจัดท่าทางให้ดูมั่นคง ก็ออกเดินทาง ขึ้นไปบนเขา ช่วงแรกเรานั่งแบบตัวเกร็ง และสงสารม้าที่ตัวไม่ใหญ่มาก ไม่รู้ว่าจะแบบน้ำหนักเราไหวไหม แต่สุดท้ายม้าที่เราขับก็เดินไปข้างหน้าช้าๆ ด้วยความแข็งแรง
ขี่ม้าขึ้นทักซัง
🚧 เส้นทางในช่วงที่ขึ้นเขานี้.. ค่อนข้างโหด เพราะเป็นทางชันเกิน 45 องศา แถมยังเป็นทางแคบๆ เลยจากนั้นก็เป็นหน้าผาสูง รวมไปถึงทางตรงนี้เพิ่งรับน้ำฝนมาหมาดๆ นั่นจึงทำให้เกิดเป็นทางเลนลูกรัง บางช่วงมีน้ำขังจนดินเหลวเละเทะ เดินขึ้นคงต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่าชั่วโมงแน่ๆ
😓 แม้ว่าเราจะขับม้าขึ้นมา แต่ก็ใช่ว่าจะสบาย.. เพราะตลอดทางคนควบคุมม้าจะปล่อยให้ม้าเดินขึ้นไปเองแบบฟรีสไตล์ หากม้าหลุดออกจากเส้นจะส่งเสียง "ฮึ่ย..ฮึ่ย" บังคับให้กลับเข้ามา บางเส้นทางเป็นที่ชันมากๆ ม้าก็มักหาทางเดินที่ง่ายที่สุดนั่นคือชิดกับหน้าผา ทำให้ทุกครั้งเวลาที่ม้าเลือกทางนี้ เราจะเสียวเกร็ง และขมิบจุดสำคัญจนหายใจไม่ทั่วท้อง
ระหว่างทางขี่ม้า
🐴 มาตัวที่เรานั่งมานี้ เป็นหัวหน้าฝูงเดินนำเพื่อนๆ และยูก็ทำหน้าที่ได้ไม่บกพร่อง เพราะยูเลือกเดินชิดขอบหน้าผาตลอด บางช่วงก็แวะกินน้ำ บางช่วงก็เดินออกนอกเน้นทางให้เราเสียวเล่นๆ ดีงาม..
🚩 เราใช้เวลาบนหลังม้าประมาณหนึ่งชั่วโมงก็ขึ้นมาถึงครึ่งทางพอดี สงสารม้า และก็ชื่นชมความทรหดอย่างมาก ลงจากม้าเสร็จ แม้เราจะพูดภาษาม้าไม่เป็น แต่ก็แสดงความขอบคุณผ่านความรู้สึกไปให้ เราลูบคอมันหลายครั้ง เหมือนมันจะรับรู้ เพราะมันรีบหันหน้ากลับ และสะบัดคออย่างเร็วไว.. เหมือนกับบอกว่า "มึงไปได้แล้ว.."
จุดพักครึ่งทาง
🏃♂️หลังจากผ่านการขับม้ามาหนึ่งชั่วโมง เรามองไปตามทางข้างหน้าที่ต้องใช้กำลังของเราเดินไปแล้ว ก็รู้สึกท้อ.. เพราะยังต้องใช้เวลาอย่างต่ำก็ชั่วโมงครึ่งกับการไต่ความสูงตามทางเดินขึ้นไป โดยจากจุดนี้เราจะเห็นวัดทักซังอยู่ใกล้เข้ามา แต่ก็ยังถือว่าไกลอยู่พอควร
เห็นทักซังแล้ว
🚶♂️เราเดินไปอย่างช้าๆ ค่อยๆ ก้าวทีละก้าว ไม่อยากนึกอะไร ของทุกอย่างที่แบกมา รู้สึกเป็นภาระ ดีที่ไกด์ช่วยแบกแทนให้เลยเบาไปเปราะ จากนั้นเราก็ใช้สมาธิค่อยๆ ก้าวขาไปเรื่อยๆ ช้า ขวา ขวาซ้าย หยุด และนั่งพักจิบน้ำทุกๆ 100 เมตร
😔 ร่างกายของเรา ณ เวลานั้น.. แบตเตอรี่ Low สุดๆ แต่ทางเดินที่ต้องไปถึงตัววัดทักซังยังอีกยาวไกลหลายกิโลเมตร เรากัดฟันเดินไป พักไป เช็คเหงื่อไป ถอนหายใจไป ใช้เวลานานมากกว่าจะไปถึง
🌏 แม้ร่างกายจะ "เหนื่อย และล้า ไขว่คว้าเท่าไหร่ไม่ถึงเธอสักที.." แต่ตลอดเส้นทาง..ธรรมชาติที่นี่บริสุทธ์มากๆ เราสูดโอโซนดีๆ ไปตลอดทาง และชมวิวสวยๆ ของตันไม้ ของภูเขา ช่วยให้ผ่อนคลายเป็นของแถม
ทางเดินขึ้นทักซัง
🏞 หลังจากผ่านเส้นทางเดินช่วงแรกที่เป็นทางชัน แต่ช่วงกลางถึงปลาย เราก็เจอแต่ทางราบที่มีน้ำตกอยู่ข้างหน้าด้วย ช่วงนี้.. ต้องเรียกว่าเป็นสวรรค์ของการเดินทางครั้งนี้จริงๆ เราเดินไปสัก 15 นาที ก็ใกล้ถึงจุดชมวิวสุดท้าย ที่จะเห็นวัดทักซังเต็มๆ ตา แบบใกล้ๆ..
ทางราบ
⛩ ในที่สุด 'รังเสือ' ในตำนาน 'วัดทักซัง' ก็มาปรากฎตรงหน้าเราเป็นขวัญตา 'หายเหนื่อย' ใช่ไหม.. เปล่า!!! ยังไม่หาย แค่ดีใจที่ได้หยุดพักถ่ายรูปกันยาวๆ
เราสังเกตหน้าของของทุกคนที่มานั่งถ่ายรูปตรงบริเวณนี้ เกือบทั้งหมด นั่งถ่ายรูปกันแบบตาโหล เหงื่อชุ่ม หน้าโทรมกันทุกคน..
วัดทักซัง
📷 จากจุดที่เราแวะถ่ายรูปตรงนี้ ยังไม่ถึงตัววัดทักซัง แม้จะห่างกันแค่เอื้อมมือ เพราะเรายังต้องเดินลงบันไดจากยอดเขาลงไปสู่พื้นด้านล่างอีกหลายร้อยขั้น ขาลงไม่เท่าไหร่ แต่เราพอจะเดาขาขึ้นได้ไม่ยาก..
ทางเดินลงไปยังวัด
💦 คณะเราเดินลงมาถึงจุดล่างองชะง่อนผา จากนี้จะเป็นทางเดินเล็กๆ ไม่กี่เมตรไปยังตัววัด.. อากาศตอนนี้ดีสุดๆ แถมระหว่างทางเราก็ต้องเดินเลียบกับน้ำตกขนาดย่อม ตอนเดินผ่านก็มีละอองน้ำมากระทบกับตัวจนรู้สึกสดชื่น
น้ำตกริมทางเดิน
🏯 เอาสาระสักหน่อย.. สำหรับ 'วัดทักซัง' ถือเป็นวัดสำคัญสำหรับคนภูฏาน และชาวทิเบต ที่ตั้งปฏิญาณไว้กับตัวเองว่า จะตายดับสักทีในชีวิตนี้ก็ต้องมาสักการะวัดทักซังให้ได้สักครั้ง
😇 ภายในเขตวัดมีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อยู่ทั้งหมด 13 แห่ง หรือเรียกว่สวัดย่อมๆ ก็ได้ ใครที่ตั้งใจอยากไหว้พระให้ได้ 9 วัดที่ภูฏาน แนะนำให้มาที่วัดทักซังแห่งนี้ เพราะมาครั้งเดียวจะได้แถมไปอีก 4 วัดฟรีๆ ไม่คิดเงินเพิ่ม..
วัดทักซัง
🚩 ขณะเดียวกัน 'วัดทักซัง' ยังมีอีกชื่อ โดยเป็นที่รู้จักของคนท้องถิ่นว่าเป็น 'วัดรังเสือ' เพราะมีตำนานถึงคนสร้าง ชื่อ คุรุรินโปเช นักบุญคนสำคัญขี่เสือมาพำนัก และแสดงอภินิหารมากมายจนคนเลื่อมใส เลยเรียกกันต่อๆ มาว่าเป็นวัดรังเสือ และตั้งอยู่บนหน้าผาสูงลิบลิ่วกว่า 900 เมตร
🌏 เราใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากมายบนวัดทุกจุดสำคัญจนครบ ขอทุกเรื่อง บริจาคทุกอย่าง เผื่อแผ่ไปยังทุกคนที่รู้จักจนหมดสิ้น เตรียมหอบบุญกลับบ้านกลับเมือง
ธงมนต์
🌧 หลังเดินลงมาจากวัด เราก็ต้องเตรียมตัวรับเรื่องสยอง เพราะเห็นฝนตั้งเค้ามาอยู่บนเขาลูกใกล้ๆ หากลงไปช้าพูดได้คำเดียวว่า 'เละ..' ดังนั้นเราใช้พลังก๊อกสุดท้ายของร่างกาย ไต่ขึ้นบันไดขึ้นมาจากหุบเขา กว่าจะก้าวขึ้นมาได้แต่ละขั้นเรียกว่า เหนื่อยจนใจจะขาดอยู่รอนๆ ..
บันไดทางขึ้น-ลง
🏃♂️ เราคลานขึ้นมาได้จนถึงบันไดขั้นสุดท้าย.. เส้นทางจากนี้เราจะต้องเดินเท้าลงเขาอีก 1 ชั่วโมงเต็มๆ และน่าจะต้องเร็วกว่านั้น นั่นจึงทำให้เราต้องเร่งสปีดฝีเท้าลงมาด้วยความเร็วมากกว่าเสียงเต้นของหัวใจ เพื่อให้ทันลงไปยังตีนเขาได้ทันเวลา ก่อนฝนตกและฟ้ามืด
🚶♂️เราสาวเท้าลงมาแบบนันสต๊อปหลายสิบนาที มีพักบ้างในช่วงเวลาสั้นๆ แล้วก็ต้องรีบจ้ำลงมา ระหว่างทางเราก็เห็นนักท่องเที่ยวบางคนเพิ่งจะเดินทางขึ้นมาไม่รู้ว่า เขาจะไปถึงข้างบนสักกี่โมง..
วิวระหว่างทาง เมฆฝนเริ่มมา
🚩 ท้ายที่สุดคณะเราก็เดินลงมาเกือบจะถึงจุดสตาร์ทแล้ว ฝนก็ค่อยๆ พรำลงมา จนเริ่มก็หนาเม็ดขึ้น แต่เราก็เดินลงมาถึงด้านล่างแบบทันเวลาพอดี..
🌏 หันกลับไปมองทางที่ลงมาเมื่อไม่กี่นาทีนี้ ก็ไม่เชื่อว่าตัวเองจะทำได้ เราเก็บเรื่องราวทั้งหมดของการขึ้นทักซักไว้ตรงจุดนี้ สิ้นสุดทริปแห่งความทรงจำครั้งหนึ่งในชีวิตที่ 'ภูฏาน'..
วัดทักซัง
#bhutan #bhutantravel #paro #thimphu #taktsang #tigernest #landofhappiness #travel #เที่ยวภูฏาน #ภูฏาน #ท่องเที่ยว #พาโร #ทิมพู #วัดทักซัง #รังเสือ #วิว #ภูเขา #เที่ยวละข่าว #tiewlanews
โฆษณา