2 ธ.ค. 2019 เวลา 05:00 • ประวัติศาสตร์
“เจงกิสข่าน (Genghis Khan) ผู้ก่อตั้งจักรวรรดิมองโกล” ตอนที่ 1
กำเนิดยอดคน
เจงกิสข่าน (Genghis Khan) เป็นผู้สถาปนาอาณาจักรมองโกลและเป็นผู้นำที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์
ซีรีย์นี้จะเป็นเรื่องราวของเขา
เมื่อนานมาแล้ว ณ ที่ราบทางตะวันออก ได้มีหญิงวัย 16 ปีผู้หนึ่งชื่อ “โฮลุน (Hoelun)” เธอได้แต่งงานกับชาวเผ่าเมอร์คิดผู้หนึ่งที่ชื่อ “ชิเลตู (Chiledu)”
ชิเลตูได้เดินทางมาเป็นระยะทางยาวไกลเพื่อมาแต่งงานกับโฮลุน
โฮลุน (Hoelun)
ระหว่างทางกลับไปยังบ้านเกิดของชิเลตู ได้มีคนๆ หนึ่ง ได้จับตามองคู่บ่าวสาวที่เพิ่งแต่งงานกันใหม่ๆ
คนๆ นั้นคือ “เยซูไก (Yesugei)”
เยซูไก (Yesugei)
เยซูไกกำลังออกล่าสัตว์พร้อมเหยี่ยวของตน และเขาก็ได้พบเห็นสองสามีภรรยา ขณะที่ตนกำลังอยู่บนหน้าผาสูง
1
ในเวลานั้นเยซูไกก็มีภรรยาอยู่แล้ว แต่เขาก็อยากมีเพิ่ม และโฮลุนก็มีหน้าตาที่สวย เป็นที่ต้องตาต้องใจของเยซูไก
เยซูไกได้ขี่ม้ากลับไปยังค่ายของตน ก่อนจะรวบรวมพี่น้องของตนและออกติดตามชิเลตูกับโฮลุน
เมื่อกองทัพของเยซูไกขี่มาถึงคู่สามีภรรยา โฮลุนเห็นว่าทั้งคู่คงไม่สามารถหนีไปได้แน่ๆ โฮลุนจึงบอกให้ชิเลตูรีบหนีไป ซึ่งชิเลตูก็ได้หนีไป ทิ้งให้โฮลุนติดอยู่กลางวงล้อมของเยซูไก
โฮลุนจึงต้องยอมไปกับเยซูไกแต่โดยดี
นี่คือวิถีของชนเผ่าในเวลานั้น ทั้งป่าเถื่อนและโหดร้าย
ชีวิตใหม่ของโฮลุนกับเยซูไกนั้นแตกต่างจากชีวิตที่นางคุ้นเคย ผู้คนที่บ้านเกิดของโฮลุนนั้นทำอาชีพเลี้ยงวัว แกะ แพะ และม้า แต่เผ่าของเยซูไกนั้นอาศัยอยู่ในทุ่งหญ้าในป่าใหญ่ และล่าสัตว์เป็นอาหาร
ฤดูใบไม้ผลิ ค.ศ.1162 (พ.ศ.1705) ภายหลังจากถูกเยซูไกลักพาตัวมาได้ประมาณหนึ่งปี โฮลุนก็ได้ให้กำเนิดทารกคนหนึ่ง
ทารกคนนั้นมีนามว่า “เตมูจิน (Temujin)”
เตมูจินจากภาพยนตร์
เตมูจินนั้นเกิดบนภูเขาซึ่งหันหน้าเข้าหาแม่น้ำโอนอน ใกล้กับพื้นที่ชายแดนระหว่างมองโกเลียและไซบีเรียในปัจจุบัน
เตมูจินนั้นมักจะวิ่งเล่นแถวๆ แม่น้ำโอนอนกับพี่น้อง โดยเขามีพี่ชายต่างแม่อีกสองคนคือ “เบกเตอร์ (Begter)” และ “เบลกูไท (Belgutei)”
เด็กๆ ในชนเผ่าแถบที่ราบนั้นมักจะเชี่ยวชาญการขี่ม้าและล่าสัตว์ ซึ่งเตมูจินเองก็เช่นกัน
ขณะอายุได้เพียงสี่ขวบ เขาก็สามารถขี่ม้าเองได้ และขี่ได้อย่างชำนาญ
เตมูจินจากภาพยนตร์
ขณะเตมูจินมีอายุได้ราวๆ แปดหรือเก้าขวบ บิดาของเขาก็ตัดสินใจที่จะหาคู่ครองให้เตมูจิน
เยซูไกได้พาเตมูจินพร้อมทัพอีกจำนวนหนึ่ง เดินทางไปยังตะวันออก และก็ได้พบกับครอบครัวหนึ่ง มีลูกสาวชื่อ “บอร์เต (Borte)”
บอร์เต (Borte)
ทั้งเยซูไกและพ่อของบอร์เตเห็นว่าเตมูจินและบอร์เตควรจะคู่กัน เยซูไกจึงให้เตมูจินอยู่รับใช้พ่อของบอร์เต จนกว่าจะโตพอที่จะแต่งงาน
ระหว่างทางกลับบ้าน เยซูไกได้พบเผ่าตาตาร์กำลังจัดงานเลี้ยงฉลอง และเยซูไกก็ได้ขอเข้าไปร่วมดื่มกินด้วย
1
ปรากฎว่าก่อนหน้านั้น ก่อนที่เตมูจินจะเกิด เยซูไกเคยฆ่าหัวหน้าเผ่าตาตาร์ และถึงเวลาจะผ่านไปนานถึงแปดหรือเก้าปีแล้ว แต่ก็ยังมีคนจำเยซูไกได้
ชาวเผ่าตาตาร์ที่ยังคงแค้นจึงได้ทำการวางยาพิษในอาหาร และยาพิษนั้นก็ได้ออกฤทธิ์เมื่อเยซูไกขี่ม้ากลับบ้าน
เยซูไกนั้นป่วยหนักและรู้ตัวว่าคงไม่รอด เขาจึงให้คนที่ติดตามมาด้วย รีบไปแจ้งข่าวแก่เตมูจิน ให้เตมูจินกลับบ้าน
แต่เมื่อเตมูจินได้ทราบข่าวและรีบเดินทางกลับมา เยซูไกก็ตายไปแล้ว
ในเมื่อเยซูไกได้ตายลงแล้ว ภรรยาม่ายทั้งสองของเยซูไกจึงไม่มีความหมายอีกต่อไป เนื่องจากทั้งคู่ก็มาจากเผ่าอื่น ลูกๆ ต่างก็ยังเล็ก ไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้
หัวหน้าเผ่าจึงสั่งให้ทิ้งครอบครัวของเยซูไกไว้เบื้องหลัง
ได้มีชายแก่คนหนึ่งคัดค้าน บอกให้พาครอบครัวของเยซูไปไปด้วย
สิ่งที่หัวหน้าเผ่าตอบชายแก่คือการขว้างหอกทะลุร่างชายแก่จนแน่นิ่ง
เตมูจินรีบไปช่วยเหลือชายแก่ แต่ชายแก่คนนั้นก็ได้สิ้นใจ
เตมูจินร้องไห้ออกมาด้วยความเศร้า เขาจะทำอย่างไรต่อไป?
เตมูจินและครอบครัวได้หากินด้วยการเก็บผลไม้ในป่ากิน และเตมูจินกับพี่น้องก็จับปลาด้วยการทำเบ็ดตกปลาเพื่อจับปลา รวมถึงทำธนูจากไม้ และทำเสื้อผ้าจากหนังหนูและหนังสุนัข
1
เตมูจินและครอบครัวได้ตั้งค่ายพักอยู่ใกล้ๆ กับเผ่าอื่น และในเผ่าอื่นๆ ที่ตั้งค่ายอยู่ใกล้กับครอบครัวเตมูจินก็ได้มีเด็กชายชื่อ “จามูคา (Jamuka)”
จามูคา (Jamuka)
เตมูจินกับจามูคาได้กลายเป็นเพื่อนรักกัน ทั้งคู่วิ่งเล่นและออกล่าสัตว์ด้วยกัน เที่ยวเล่นสนุกสนาน
เมื่อทั้งคู่อายุได้ 11 ขวบ ทั้งคู่ได้แลกเปลี่ยนของขวัญกัน และปีต่อมา ทั้งคู่ก็ได้ทำลูกธนูและแลกเปลี่ยนกันและกัน จากนั้นก็กรีดเลือดสาบานเป็นพี่น้อง
แต่แล้ววันหนึ่งในฤดูหนาว จามูคาก็ได้หายไป
ในสังคมชนเผ่าที่ราบนั้น เมื่อประมุขของครอบครัวได้หายไป ลูกชายคนโตต้องขึ้นมาเป็นผู้นำครอบครัวแทน นั่นก็คือเบกเตอร์ พี่ชายต่างแม่ของเตมูจิน
เบกเตอร์มักจะชอบรังแกเตมูจิน ครั้งหนึ่ง เบกเตอร์ได้ขโมยปลาที่เตมูจินจับได้เพื่อจะข่มเตมูจิน
แต่เตมูจินซึ่งขณะนั้นมีอายุได้ราวๆ 12-13 ปี ไม่ต้องการเป็นลูกน้องของเบกเตอร์
เตมูจินตัดสินใจจะฆ่าเบกเตอร์
ในที่สุด วันที่ฟ้าเป็นใจก็มาถึง เตมูจินและคาซาร์ (Khasar) น้องชาย ก็ได้ซุ่มทำร้ายเบกเตอร์
สองพี่น้องได้ดักทั้งหน้าและหลังของเบกเตอร์ และเล็งธนูไปยังเบกเตอร์
เบกเตอร์รู้โดยทันทีว่าตนต้องไม่รอดแน่ เขาจึงคุกเข่า ขอร้องให้เตมูจินไว้ชีวิตเบลกูไท น้องชายอีกคนหนึ่ง
เตมูจินตอบตกลง ก่อนที่ทั้งเตมูจินและคาซาร์จะยิงธนูใส่เบกเตอร์ และปล่อยให้เบกเตอร์นอนจมกองเลือดจนตาย
เตมูจินแสดงความโหดเหี้ยมและเด็ดขาดออกมาแล้ว
เขาจะก้าวขึ้นมายิ่งใหญ่ได้อย่างไรต่อไป ติดตามตอนต่อไปนะครับ
โฆษณา