1 ธ.ค. 2019 เวลา 15:13 • ไลฟ์สไตล์
เมื่อวัย 40+ ต้องมาจัดฟัน
เมื่ออายุ 40 กว่า ๆ ชีวิตน้าแอดเปลี่ยนไปจากเดิมเป็นอย่างมาก ชีวิตที่อยู่ในกรอบเดิม ๆ ของน้าแอดได้เปิดกว้างขึ้นเรื่อย ๆ แต่เอ... ทำไมมันถึงเริ่มต้นช้าจัง
น้าแอดมาเริ่มจัดฟันตอนอายุ 40 ปีพอดี อะไรเป็นแรงบันดาลใจที่อยากจะทำ สืบเนื่องมาจากจังหวะนั้น เพื่อนรุ่นน้องที่ทำงานได้เริ่มจัดฟันกันหลายคน น้าแอดจึงเริ่มหาข้อมูลว่า มันเจ็บมั้ย เราจะกินได้มั้ย เราจะพูดชัดมั้ย เห็นผลอย่างไร นานมั้ย สารพัดคำถาม
ปัญหาเรื่องฟันของน้าแอดมีแค่เล็กน้อย คือฟันหน้าซี่ขวาเกมาเกยซี่ซ้าย แต่แค่นิดเดียว และฟันล่างห่างทุกซี่ จริง ๆ คุณพ่อคุณแม่ของน้าแอดอยากให้จัดฟันตั้งแต่อายุ 15-16 ให้น้อง ๆ ลองจินตนาการดูว่า 25 ปีถอยหลังไปจากตอนที่น้าแอดอายุ 40 เหล็กจัดฟันหน้าตามันเป็นอย่างไร มันน่ากลัวมาก บอกเลย เส้นลวดมันใหญ่ หมุดเหล็กก็หนา และเพื่อนๆ ที่จัดก็จะพูดไม่ชัด เหล็กเต็มปาก มันดูน่ากลัวมาก (ตามภาพด้านล่าง จะเป็นประมาณภาพกลาง) น้าแอดก็เลยถอดใจตั้งแต่ช่วงนั้นมา
ภาพกลางจะเป็นช่วง ค.ศ. 1970 หรือ 49 ปีที่แล้ว
ล่วงเลยมาจนอายุ 40 น้าแอดเห็นน้อง ๆ จัดกันหลายคน เอาเป็นว่าน้อง ๆ จัดพร้อมกันเลย 7-8 คน เหมือนเป็นโรคติดต่อ น้าแอดก็เลยไปปรึกษาคุณหมอที่น้องแนะนำ แต่เนื่องด้วยคิวคุณหมอเยอะ น้าแอดก็เลยหาข้อมูลเพื่อพบคุณหมอท่านใหม่
หลังจากสอบถามสนนราคากับทางประชาสัมพันธ์ น้าแอดก็ได้ไปปรึกษาคุณหมอตามคิวนัด คุณหมอได้ถ่ายรูปหน้าตรง ด้านข้าง (ซ้ายและขวา) จากนั้นก็สั่งให้ไปพิมพ์ฟัน (นั่นคือแบบฟันดั้งเดิมของน้าแอดก่อนเริ่มจัดฟัน แต่คุณหมอเก็บไว้ ไม่ให้เห็น)
1
และแล้วการจัดฟันก็เริ่มขึ้น หลักการคุณหมอคือจะดูโครงสร้างของรูปหน้าเราก่อน คำนวณซี่ฟันในปาก การสบของฟันกรามทั้งบน-ล่าง จากนั้นก็สั่งเราไปถอนฟันซี่ที่ไม่จำเป็นออก ส่วนใหญ่จะเป็นกรามเล็กที่ถัดจากฟันกรามด้านในขึ้นมา 2 ซี่ จะไม่ถอนฟันกรามใหญ่ 2 ซี่สุดท้าย เพราะจะต้องใช้เคี้ยวอาหาร จากนั้นก็สั่งพักให้เหงือกยุบดี
เดือนถัดมาจึงมาเริ่มจัดกันเลย คุณหมอจะติดหมุดเหล็กด้วยกาวใส (กาวใสทางการแพทย์) บนทุกซี่ฟันที่จะต้องถูกดึง รอจนกาวแห้งดี จากนั้นจะใช้อีลาสติก (ยางดึงฟันที่เป็นสี ๆ) คล้องไปยังหมุดเหล็ก คล้องจากด้านหนึ่งไปด้านหนึ่งจนครบทุกซี่ ทำทั้งบนและล่าง
สำหรับซี่ที่ห่างเนื่องจากการถูกถอน จะติดหมุดเพิ่มไว้ด้วยเพื่อใช้ยางวงเล็กคล้องไว้อีกที เพื่อเพิ่มแรงดึงให้เพิ่มขึ้นสำหรับช่องว่างที่ถูกถอน
1
ภาพหมุดเกี่ยวยางจัดฟัน
หลังจากกลับมาในวันนั้น น้าแอดเหมือนจะเป็นไข้ ระบมไปทั้งปาก อาหารก็เหมือนจะเคี้ยวไม่ได้ เหงือกก็เหมือนจะร้อนใน ต้องมียาทาลดอาการระบมของเหงือก กินได้แต่อาหารอ่อน ๆ ซึ่งนำอาหารเข้าได้ด้านข้าง ฟันด้านหน้าจะไม่มีแรงดึงอาหาร พวกผลไม้ที่ต้องกัด ไก่ย่าง หมูย่างที่ต้องดึง ก็ไม่สามารถใช้ฟันหน้าได้ ต้องตัดอาหารเป็นชิ้น ๆ
1
สิ่งสำคัญคือการรักษาความสะอาดของฟัน เมื่อมีเหล็กจัดฟันและยางดึงฟันมาขวางระหว่างซี่ฟัน เราก็ต้องแปรงฟันให้สะอาด ใช้ไหมขัดฟันด้วยทุกครั้ง เพื่อนำเศษอาหารออกมา เราก็จะร้อยไหมขัดฟันไปใต้ยางดึงฟันแล้วก็ขัดซี่ฟัน มันก็จะลำบากหน่อย แต่ก็จะค่อย ๆ คุ้นขึ้นหลังจากสัปดาห์ที่ 2
จากนั้นก็อาศัยวินัยของเราที่ไปตามคุณหมอนัดทุกเดือน สิ่งนี้ไม่ควรขาด เพราะหมอจะดูความเปลี่ยนแปลงของฟัน และเปลี่ยนยางเส้นใหม่ให้ เพื่อเพิ่มแรงดึงให้อีก หมอจะนัดไปเรื่อย ๆ และอาจมีการปรับยางปรับหมุดให้เพื่อการขยับของซี่ฟันให้เข้ามาชิดกันเรื่อย ๆ
ว่าไปไวเหมือนโกหก น้าแอดได้ถอดเหล็กจัดฟันตอนอายุ 45 โอ้มายก๊อด นี่เราจัดมาถึง 5 ปีเชียวหรือ ทำไมน้อง ๆ บางคนเอาออกเมื่อเขาจัดได้ 3 ปีเองล่ะ นั่นคือ กระดูกคนเรามีความแข็งแรงไม่เท่ากัน เข้าช้าหรือเร็วไม่เท่ากัน น้าแอดก็ถึงได้ทราบจากการที่ถามคุณหมอ คุณหมอบอกว่า อย่าไปกังวล ถ้าเราอยากจัดเราก็จัด ยังมีคนไข้ของหมอที่อายุมากกว่าน้าแอดอีก ไปจัดในวัย 56 ปี น้าแอดแอบขำ เพราะก็คิดว่า ถ้าเอาเหล็กออก อีกไม่กี่ปีก็อาจจะถึงวัยที่ต้องใส่ฟันปลอมก็ได้แล้วมั้ง
แต่ก็นั่นแหละความพึงพอใจ แรงบันดาลใจ หรือความปรารถนาของคนเรามีแตกต่างกัน ดังนั้น อย่าไปกังวล ถ้าเราอยากทำอะไรและคิดว่ามันเป็นความสุขและให้สิ่งที่ดีกับเรา ก็จงทำเลย
ปัจจุบันน้าแอดพึงพอใจกับรูปหน้าที่เปลี่ยนไป หน้าเรียวขึ้น ปากก็เล็กลง (เนื่องจากตอนฟันเก ปากเราก็จะตูมและยิ้มไม่สวย) มีความสุขกับสิ่งที่ได้ทำนี้มากเลยค่ะ
แล้ววันหน้าจะมาเล่าประสบการณ์ของน้าแอดกันใหม่นะคะ
1
ป.ล. เครดิตภาพจากอินเตอร์เน็ตค่ะ
โฆษณา