2 ธ.ค. 2019 เวลา 05:18 • บันเทิง
23. ค้นหาตัวรู้ในตัวเรา (2)
Cr. Wordpress
1.แบบที่เบื้องบนจัดสรรมา 2. แบบเป็นกรรมของเขาต้องมาเรียนกับเรา ข้างบนจัดสรรมาให้แล้ว มาเจอกันช่วงกรรมหนัก คือ เขาแทนที่จะได้บุญกลับไปทำบาป เหมือนบุญมีแต่กรรมบัง เดี่ยวพอกรรมคลายก็จะเริ่มเข้าใจไปเอง ประเภทนี้ต้องใช้อิทธิบาทสี่ อันได้แก่ ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา
คนที่มาเรียนสมาธิกับเล็ก ทางเบื้องบนท่านจัดสรรมาให้ เนื่องด้วยความเป็นญาติ เป็นพี่เป็นน้อง หรือเป็นญาติข้างบนไม่เสมอไปว่า ต้องเกี่ยวข้องโดยตรง ทุกวันนี้ระลึกอยู่เสมอว่า หน้าที่หลักของเล็ก ก็คือ จะต้องทำให้คนพัฒนาจิตไปเรื่อยๆ บางคนแค่พื้นฐาน บางคนก็สำเร็จบรรลุเลยขึ้นอยู่กับบุญบารมีของเขา ตอนนี้ช่วยปลดทุกข์ เจ็บป่วยไข้ จะต้องทำตรงนี้ประมาณ 3 – 4 ปี
ส่วนในเรื่องเป้าหมายที่เล็กวางไว้นั้น คือ การสร้างดวงจิต แต่ไม่ได้สร้างตลอดไป เมื่อถึงเวลามันจะมีเวลาให้เราพักผ่อน แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้ ถ้าในระหว่างพัก เบื้องบนจะส่งผู้อื่นมาแทนที่ (ดวงจิตของเล็กขึ้นไปอยู่ข้างบน เทพองค์อื่นลงมาในกายเนื้อของเล็กแทน) ซึ่งวิธีการปฏิบัติของเล็ก จะไม่หวังนิพพาน เพราะถ้าไม่หวัง..จิตเราจะพัฒนาได้ไว ถ้าหวังจะจมอยู่ตรงนั้น ก็เพราะจิตมันไปยึด จิตมันอยากไปนิพพาน ความอยากมัน คือ กิเลส ที่แอบซ่อนตัวอยู่ในจิต
วิธีปฏิบัติส่วนตัว จะเคร่งครัดในศีล 5 และ เข้าฌาณโดยการเดินลมเล่นๆ เน้นสมาธิ 20 ชั่วโมงจบ เป็นการทำสมาธิให้ได้ ตลอด 24 ชม คือ นิ่งๆ ใครด่าก็เฉย สามารถเล่นได้ ยิ้มได้ ขณะเราเล่น เรายิ้ม เราอยู่ด้วยความนิ่งอยู่ด้วยสมาธิ ฝึกเพียงแค่นี้ ดวงจิตของเราก็จะเกิดพลังแห่งปัญญา สรุปให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ ยึดมั่นในศีล มั่นปฏิบัติเพื่อเข้าสมาธิ อันเกิดผลแห่งปัญญา”
เล็กยิ้มที่มุมปากให้ผม และพูดว่า “พี่ก็ต้องรีบปฎิบัติ และก็อย่าไปยึดติดกับสิ่งที่ได้ยินจากพวกหนู ทุกอย่างถามว่าเห็นจริง ก็ตอบว่า เห็นจริง เพียงว่า สิ่งที่เรียกว่า จริง ความจริงแล้ว ก็คือ ความว่างเปล่า นักปฎิบัติต้องหลุดพ้นจากมายาแห่งจิต และไม่ต้องคำนึงว่า จะเลือกปฎิบัติสายไหนดี จะทำสมถะกรรมฐาน หรือวิปัสสนากรรมฐาน หนูบอกได้ว่า ทุกสายดีหมด ขอให้เริ่มลงมือทำตั้งแต่วันนี้ เพราะคำตอบไม่ได้อยู่ที่หนู หรือว่าเพื่อนๆ ของหนู แต่มันอยู่ในตัวพี่ เฝ้าดูตัวเอง แล้วตัวรู้จะปรากฏขึ้นเองค่ะ”
ผมโน้มตัวกราบขอบพระคุณคุณครูเพ็ญ และน้องๆ ห้อง 138 ทุกคน ที่ร่วมกันแบ่งปันประสบการณ์อันทรงคุณค่ายิ่ง..ประสบการณ์ของทุกๆ ท่านได้เป็นตอกย้ำให้ผมได้รู้ว่า หากคนเรายังหลงมัวเมาอยู่ในกิเลส ตัณหา ราคะ ที่มารุมเร้าจนหลงลืมที่จะรักตนเอง เมื่อเราตายไป (แน่นอนที่สุด) หากบุญกุศลของเราไม่มากพอก็คงจะต้องลงไปใช้ชีวิตในนรกขุมใดขุมหนึ่งเป็นอย่างแน่นอน ครูเพ็ญกล่าวทิ้งท้ายกับผมว่า
“เพียงทุกคนมีสติรู้ว่าตนเองกำลังใจหายใจเข้า-ออก อยู่ในทุกขณะจิต..รับรองว่าไม่มีวันตกนรกเลย”
ลาก่อนห้อง 138
เรื่องราวของพวกคุณทุกคนจะถูกจารึกไว้ในจิตใจของผมตลอดไป ตราบชั่วกัลปวสาน....
“ ชร ”
โฆษณา