2 ธ.ค. 2019 เวลา 15:13 • บันเทิง
MovieTalk มูฟวี่ชวนคุย
ภูมิใจเสนอ นิยายกำลังภายในเรื่องแรกของเพจ MovieTalk
“เงาวายุ” บทที่ 4
ความเดิม อี่ทงฮวงได้ลอบเข้ามาทางอุโมงค์ลับ และจับตาดูกลุ่มเกียอุ้ยนึ้ง แต่ถูกพบเห็นโดยเอี้ย (เงา) ทั้งสองประมือกัน และเป็นเอี้ยที่พลาดท่าถูกฝ่ามือประทับรอย และเข็มบินสิ้นชีพ จนถึงแก่ความตาย กลุ่มมือสังหารที่เหลือมาถึง แต่อี่ทงฮวงก็หลบเร้นกายเข้าช่องทางลับไปแล้ว
“เงาวายุ” บทที่ 4 พันธมิตร ไม่ได้ให้เสียงภาษาไทย
อ๋องเอี๊ยะและมุ้ยเง็กสังเกตเห็น ไช้ตื๊อเซ้ง, ยื่อต๊อ และอาเฉ่าที่แบกศพของเอี้ยไว้บนบ่า ทั้งหมดล้วนแต่มีสีหน้าเคร่งเครียด
มุ้ยเง็กกระซิบถามอ๋องเอี๊ยะ
“บิดา...เหมือนจะมีเหตุร้ายเกิดขึ้นกับพวกมัน?”
อ๋องเอี๊ยะแย้มยิ้มแว่บหนึ่ง เอ่ยตอบว่า
“ดูท่าพวกมันพบพานความยุ่งยากแล้ว เจ้าลองสังเกตดู มีบุคคลใดยังไม่ปรากฎตัวขึ้นที่นี่?”
มุ้ยเง็ก
มุ้ยเง็กแย้มยิ้มด้วยความโล่งใจ
“หรือเป็นอี่เฮีย...ทอดตาทั่วแผ่นดิน ผู้ที่ก่อกวนผู้คนจนวุ่นวายใจ อี่เฮียคือหนึ่งในนั้น”
อ๋องเอี๊ยะผงกศรีษะ พลางเห็นว่าไช้ตื๊อเซ้งกำลังสาวเท้ามาตรงที่พวกตนนั่ง จึงปรายตาห้ามมุ้ยเง็กกล่าวมากความ
อ๋องเอี๊ยะ
“องครักษ์เงาฮ่องเต้ไฉนจึงมาอยู่ ณ สถานที่นี้?”
“พวกเจ้าหมายถึงอันใด? เราไม่เข้าใจ” อ๋องเอี๊ยะเสแสร้างคล้ายไม่รู้ความหมาย
“ชนชั้นเช่นท่านอ๋อง หากมิทราบ ยังจะมีผู้ใดทราบ กระหม่อมใคร่น้อนเตือน องครักษ์เพียงผู้เดียว ไม่อาจต่อกรกับกระหม่อม หรือคนของกระหม่อมได้เป็นแน่ หากมันมิยอมรามือให้เราจับกุม สุดท้ายมีแต่ชีวิตก็ต้องทิ้งไว้”
พูดจบ ไช้ตื๊อเซ้งหันมาสั่งการคนของตน
“พวกเจ้าส่งสัญญาณแจ้งภัยไปตามจุดต่าง ๆ รายงานให้อิ่วชิ่ว อิ่วคา จ๋อชิ่ว จ๋อคา ที่คุมเชิงตำหนักทั้งสี่ให้ระมัดระวังตัว”
บริวารไช้ตื๊อเซ้งสี่คนประสานมือรับคำ แล้วพุ่งทะยานออกไป ฝีเท้ากลับรวดเร็วยิ่งนัก
“คนของกระหม่อมควบคุมทีนี้ไว้หมดแล้ว หากมันยังไม่ยอมจำนน ก็หาทางไปปรภพแล้วกันเถอะ”
หลังจากสังหารเอี้ยแล้ว อี่ทงฮวงก็หลบหนีกลับเข้าช่องอุโมงค์ลับอีกครั้ง
ระหว่างโลดแล่นก็ใช้สมองครุ่นคิดอย่างหนัก หลังจากทบทวนครั้งแล้วครั้งเล่า
อี่ทงฮวงเห็นว่าลำพังตนเพียงผู้เดียวย่อมไม่อาจหักหาญต่อกรกับขุมกำลังของเกียอุ้ยนึ้งได้ มีแต่ต้องใช้สมองเข้าแก้ไขวิกฤติครั้งนี้เท่านั้น
อี่ทงฮวงอาศัยช่องทางลับออกมาตามเส้นทางป่าไผ่ของตำหนักอุดร โดยมิทันระแวดระวัง อี่ทงฮวงลืมสลายพลังกดดันของตนเอง
จ๋อชิ่วที่เฝ้าคุมเชิงอยู่ที่หน้าตำหนักอุดรจับพลังกดดันขุมหนึ่งได้
มันรีบทะยานร่างพุ่งไปตามทิศทางนั้น
ชั่วอึดใจพบว่าตนเองมาหยุดยืนเบื้องหน้าป่าไผ่
ป่าไผ่กอหนึ่งมีการเคลื่อนไหว จ๋อชิ่วผนึกลมปราณพรักพร้อมเต็มที่ เป็นพลังกดดันนั้นออกมาจากในป่าไผ่นี่เอง
ทันทีที่กอไผ่แง้มออก อี่ทงฮวงที่อยู่เบื้องหลังกอไผ่ ก็จับพลังกดดันรังสีฆ่าฟันรุนแรงได้ ตนรีบระดมลมปราณทั่วร่าง สายตาพบเห็นบุรุษผู้หนึ่งยืนปักหลักอยู่เบื้องหน้า เป็นบุรุษลักษณะพิเศษ มีรอยบากพาดผ่านหน้าคล้ายมีตะขาบเกาะอยู่บนใบหน้าของมัน
เป็นจ๋อชิ่วเอ่ยถามก่อน
“เจ้าเป็นผู้ใด ไฉนลับ ๆ ล่อ ๆ อยู่ที่นี่?”
“ท่านเป็นส่วนใดของเกียอุ้ยนึ้ง?”
อี่ทงฮวงย้อนถามกลับสร้างความประหลาดใจแก่จ๋อชิ่วยิ่งนักต้องย้อนถามกลับไป
“เจ้าทราบเราเป็นคนของเกียอุ้ยนึ้ง?”
อี่ทงฮวงไม่ตอบ แต่บางครั้งการไม่ตอบคือคำตอบรับ จ๋อชิ่วก็ไม่ได้ต้องการคำตอบเช่นกันจึงกล่าวต่อ
อี่ทงฮวง
“เราเป็นจ๋อชิ่ว (หัตถ์ซ้าย) ของเกียอุ้ยนึ้ง เจ้ากำลังคิดเล่นลวดลายใด?”
“ข้าพเจ้าคิดรุดออกจากที่นี่ไปขอกำลังหนุนช่วยเหลือ” อี่ทงฮวงตอบ
“เมื่ออยู่ต่อหน้าเรา สถานที่เดียวที่อนุญาตให้เจ้าไปคือปรภพ รับมือ...”
จบคำตวัดฝ่ามือทั้งสองหนุนส่งพลังออกมา ใช้ออกด้วยฝ่ามือคู่เปิดฟ้าถึงกับใช้พลังแปดส่วน หมายกำจัดคู่ต่อสู้ในคราเดียว
อี่ทงฮวงผนึกลมปราณแผ่พุ่งพลังออกจากฝ่ามือทั้งสองเพื่อต้นรับพลังอันหนักหน่วงที่พุ่งเข้าใส่ตน
เสียงระเบิดดังกึกก้องกัมปนาท ต้นไผ่แถบนั้นปลิวลู่ไหวเอนตาแรงลม
บ้างหักโค่นล้มเป็นทาง
จ๋อชิ่วไม่รั้งรอ บุกจู่โจมอีกครา พุ่งเข้าใส่อี่ทงฮวง พลางฟาดฝ่ามือออกอีกแปดครั้ง
อี่ทงฮวงตวัดฝ่ามือซ้ายขวาวาดเป็นวงกลม บังเกิดม่านพลังเบื้องหน้าของตนเอง
เสียงระเบิดดังขึ้นอีกครั้ง
กำลังภายในของจ๋อชิ่วจากฝ่ามือปะทะเข้ากับวงกลมม่านพลังของอี่ทงฮวงที่ป้องกันไว้
ในความชุลมุน อี่ทงฮวงทะยานตัวลอยขึ้นซัดเข็มบินออกไปอย่างต่อเนื่อง
เข็มบินพุ่งวาบฉวัดเฉวียนเข้าใส่จ๋อชิ่ว มันรีบหงายหลังทิ้งตัวลง หลบหลีกได้อย่างหวุดหวิด
ทันทีที่หลบพ้น ก็ดีดกายกลับขึ้นมาเอื้อมมืดจับที่เอว พลางดึงแส้ที่คาดไว้กับเอวตวัดกวัดแกว่ง ปลายแส้พุ่งวาบดุจอสรพิษเข้าใส่อี่ทงฮวง
อี่ทงฮวงกวาดสายตาชั่วเสี้ยววินาที เห็นปลายแส้มีหนามแหลมคม เสียงแส้แหวกผ่านอากาศหวีดหวิวระคายโสตประสาท ฟังจากเสียงแฝงด้วยพลังภายในรุกเร้ารุนแรง
อี่ทงฮวงเบี่ยงกายหลบหลัก แต่ปลายแส้คล้ายมีดวงตา พุ่งติดตามไม่ลดละ
อี่ทงฮวงเห็นผิดท่า รีบซัดเข็มบินฝ่าสายลมออกอีกสองเล่ม ใช้เข็มขนาดใหญ่
ยาวสิบสองนิ้ว
เข็มสิบสองนิ้วสองเล่มพุ่งเข้าปะทะปลายแส้ทำให้เบี่ยงเบนทิศทางออกไป พ้นระยะอันตราย
จ๋อชิ่ว
จ๋อชิ่วเห็นแส้แมงป่องของตนเองถูกฝ่ายตรงข้ามหลบหลีกพ้น ถึงกับลอบตื่นตระหนกพลางครุ่นคิดในใจ
“ศัตรูคราวนี้ตึงมือไม่ใช่น้อย เห็นทีลำพังเราคงไม่อาจโค่นมันได้”
คิดได้ดังนั้น มือซ้ายวกไปด้านหลัง ในมือกลับมีกระบอกหนึ่ง จ๋อชิ่วยกชูขึ้นฟ้า
ใช้กำลังภายในกระแทกกระบอกในมือ พลุสัญญาณถูกส่งขึ้นสู่ท้องฟ้าท่ามกลางความืดมิด ก่อนแตกตัวออกเสียงระเบิดดังสนั่น
จ๋อชิ่วหัวร่อขึ้น
“อีกสักครู่ กำลังสมทบเราจะรุดมา ยามนั้น เป็นเจ้าที่ต้องดับดิ้น”
อี่ทงฮวงพบว่าตนเองเลิ่นเล่อ ปล่อยให้จ๋อชิ่วส่งสัญญาณพลุขอความช่วยเหลือได้ อดครุ่นคิดในใจ
“หากกำลังสมทบมันมาถึง เราย่อมไม่อาจเอาชัยได้แน่ มีแต่ต้องเร่งกำจัดมันเสียก่อนแล้ว”
คิดได้ดังนั้นจึงเอ่ยขึ้น
“ท่านคิดว่าข้าพเจ้าจะรอให้กำลังหนุนของท่านรุดมาได้หรือ?”
“หากเจ้าคิดสังหารเราก่อน เกรงว่าคงไม่ง่ายดายเช่นกัน” จ๋อชิ่วหัวร่อตอบ
ยังไม่ทันพูดจบ แส้แมงป่องในมือขวาก็ตวัดฟาดออก พุ่งวาบเข้าใส่อี่ทงฮวงอีกครั้ง ส่วนมือซ้ายถ่ายเทพลังภายในไว้ที่ฝ่ามือเตรียมฟาดออกเมื่ออี่ทงฮวงเบี่ยงตัวหลบ
อี่ทงฮวงคล้ายอ่านแผนการกระบวนท่าจริงหลอกนี้ออก ถีบฝ่าเท้าทะบานาพุ่งสวนเข้าใส่จ่อชิ่วแทนการหลบหลีออกด้านข้าง
ท่วงท่าต่อเนื่อง อี่ทงฮวงที่ร่างพุ่งทะยานใส่ ตวัดมือซัดเข็มบินออกอีกสามเล่ม เป็นเข็มขนาดเล็กยาวสามนิ้วพุ่งทะลวงนำหน้าตนเอง
จ๋อชิ่วสีหน้าแปรเปลี่ยน มันเองจัดว่าเป็นนักเลงช่ำชองการต่อสู้ กลับพบเห็นคู่มือไม่เพียงไม่หลบหลีก กลับพุ่งเข้าใส่คล้ายเสี่ยงชีวิต ต้องรีบสลายพลังฝ่ามือซ้าย
พลางคิดจะดึงรั้งแส้แมงป่องกลับมา แต่สายตาเห็นประกายสีเงินในความมืดถึง
เป็นเข็มบินสามเล่ม พุ่งเข้าใส่ใบหน้าของมัน
จ๋อชิ่วต้องรีบยกฝ่ามือซ้ายอีกครั้ง เกร็งลมปราณไว้ฝ่ามือซ้ายของจ๋อชิ่วยกขึ้นป้องหน้าตนเอง ฝ่ามือจ๋อชิ่วพลอยบดบังสายตาของมันเองไปด้วย
อี่ทงฮวงอาศัยชั่วเสี้ยววินาทีนั้น ฟาดมือซ้ายออกกระแทกพลังใส่แส้แมงป่อง
ส่วนมือขวาฟาดออกไปเบื้องหน้าใช้ออกด้วยกระบวนท่าฝ่ามือประทับรอย
เสียงระเบิดดังกึกก้อง
ทันทีที่พลุระเบิดตัวออก
บริเวณตำหนักทั้งสี่แห่งคนของเกียอุ้ยนึ้งทุกคนล้วนพบเห็น อิ่วชิ่ว และอิ่วคาที่อยู่หน้าประตูตำหนักประจิมและทักษิณก็พบเห็นพลุสัญญาณนั้นเช่นกัน
พวกมันทั้งสองรีบพุ่งทะยานไปที่ตำหนักอุดรทันที
ไช้ตื้อเซ้งที่อยู่ในหอเจดีย์แปดชั้นก็พบเห็นเช่นกัน
“สัญญาณพลุจากตำหนักอุดรของจ๋อชิ่ว ดูท่ามันคงปะทะกับอี่ทงฮวงแล้ว”
ยื่อต๊อรีบชิงถามขึ้น
“ให้เราไปช่วยมันหรือไม่?”
ไช้ตื๊อเซ้ง
ไช้ตื้อเซ้งส่ายศรีษะ
“มิจำเป็น อิ่วชิ่วและอิ่วคามันสองต้องพบเห็นสัญญาณพลุนี้แล้ว ทั้งสองใกล้กว่า ย่อมไปถึงก่อนเจ้า
อีกประการทางด้านนี้ยังมีงานใหญ่รออยู่”
ยื่อต๊อได้แต่หงุดหงิดใจเป็นยิ่งนัก แต่ไม่กล้ามากความเมื่ออยู่ต่อหน้าไช้ตื๊อเซ้ง
ไม่มีบริวารคนใดกล้ามากความเมื่ออยู่ต่อหน้าไช้เจี๊ยงของพวกมัน
ไม่เคยมี และจะไม่มีทางมี
ฝ่ามือของอี่ทงฮวงประทับลงบนทรวงอกของจ๋อชิ่ว
ลมปราณแผ่นพุ่งออกกระแทกใส่อกของจ๋อชิ่วจนกระเด็นออกไปหลายวาก่อนจะล้มลงกระอักโลหิตคำใหญ่ออกมา
เสียงร้องของจ๋อชิ่วครางดังลั่นมิทันสิ้นสุดก็ล้มลง
อวัยวะภายในถูกพลังฝ่ามืออี่ทงฮวงทำลายหมดสิ้น
อี่ทงฮวงยังมิทันทำอันใดต่อ ต้องรีบกลับตัวไปด้านหลัง
สะบัดฝ่ามือฟาดออกเบื้องหน้า
เสียงทึบดังขึ้น
เป็นฝ่ามือทั้งสองของอี่ทงฮวง และฝ่ามือทั้งสองของอิ๋วชิ่วปะทะกัน
อิ่วชิ่วถูกกระแทกถอยร่นไปด้านหลังหกก้าว
ส่วนอี่ทงฮวงก็ถอยร่นไปด้านหลังสี่ก้าวเช่นกัน ตนรู้สึกภายในอัดแน่นปั่นป่วน
อิ่วคา
ฉับพลันอิ่วคาก็รุดมาถึงอีกผู้หนึ่ง มันปราดเข้าไปตรวจร่างของจ๋อชิ่ว สี่หน้าอิ่วคาถอดสี พลางตะโกนข้ามอี่ทงฮวงไปที่อิ่วชิ่ว
“จ๋อชิ่วเสียชีวิตแล้ว!”
อิ่วชิ่วก็หน้าแปรเปลี่ยนทันทีที่ได้ยิน ดวงตาลุกโพลงคล้ายไฟพวยพุ่งออกจากดวงตา ความรุนแรงแผ่พุ่งออกมาจนอี่ทงฮวงสัมผัสได้ถึงความแค้น มันเอ่ยถามอี่ทงฮวง
“เจ้าเป็นคนสังหารมัน?”
อี่ทงฮวงไม่ตอบ ตนไม่นิยมตอบคำถามที่ผู้ถามล่วงรู้คำตอบอยู่แล้ว
อิ่วชิ่วเอ่ยอย่างเคียดแค้น “ในเมื่อเจ้าตัดหัตถ์ซ้ายไป เราอิ่วชิ่ว (หัตถ์ขวา) จะให้เจ้าชดใช้เป็นพันเท่า”
“ให้เราร่วมวงด้วยคน เราอิ่วคา (ขาขวา) ช่วยหนุนเจ้าอีกแรง” อิ่วคาเอ่ยสำทับ
พูดจบทั้งอิ่วชิ่ว และอิ่วคา แยกย้ายยืนกระหนาบด้านหน้าและหลัง โดยมีอี่ทงฮวงอยู่ตรงกึ่งกลาง
เป็นระยะห่างระหว่างอิ่วชิ่วไปถึงอี่ทงฮวง และจากอี่ทงฮวงไปถึงอิ่วคาถึงกับเท่ากันพอเหมาะพอดี
อี่ทงฮวงเห็นศัตรูตึงมือแยกคุมเชิงหน้าหลัง ก็รู้ว่ายากรับมือ เช่นเดียวกับยากหลบหลีก พลางหันกายสาวเท้าไปด้านหลังสาม-สี่ก้าว กลายสภาพเป็นการยืนประจันหน้าแบบสามเหลี่ยมแทน
อิ่วชิ่ว
อิ่วชิ่วดึงตะขอคู่จากด้านหลังออกมา ถือกระชับมั่นในมือ ดาบตะขอจำพราก สะท้อนแวววับในความมืด คล้ายพร้อมจะพรากชีวิตได้ทุกเมื่อ
อิ่วคาชักดาบหัวตัดเล่มโตออกจากเข็มขัด มือจับมั่นที่ด้ามดาบ พรักพร้อมเตรียมโจมตี ดาบเล่มโต หัวตัด แต่ที่มันคิดตัดคือศรีษะของคน ไม่ใช่ดาบ
อี่ทงฮวงเห็นศัตรูทั้งสองชักอาวุธสังหารออกมา
ตนเองจับรังสีฆ่าฟันรุนแรงมากได้
มือขวาอี่ทงฮวงดึงท่อนเหล็กออกจากเข็มขัด ตวัดออกหนึ่งครั้ง
ท่อนเหล็กกลับยืดออก
ที่แท้เป็นพลองเหล็กขนาดยาวเท่ากับกระบี่เล่มหนึ่ง
ในมืออี่ทงฮวงเตรียมพรักพร้อมเข้าปะทะเช่นกัน
พลองเหล็กดูลี้ลับ แข็งแกร่ง คนถือพลองก็แข็งแกร่ง
คล้ายไม่เคยล้มลงไมว่าจะในสถานการณ์ใด คับขันเพียงใด
อี่ทงฮวง
สายตาทั้งสามคู่ล้วนจับจ้องไม่วางตา
ท่านมองเรา เรามองท่าน
นี่คือบรรยากาศน่าพรั่นพรึง
ยังไม่มีผู้ใดเคลื่อนไหว เพราะเมื่อเคลื่อนไหวย่อมเปิดเผยช่องโหว่ให้แก่คู่ต่อสู้
ความเป็นความตายบางครั้งยากพิสูจน์
แต่เมื่อเวลามาถึง อย่างไรต้องพิสูจน์
พิสูจน์ว่า เวลาที่ฝ่ายหนึ่งจะชิงชัยได้เปรียบ
คนอยู่...
คนตาย...
คล้ายคนตาย...
คล้ายคนอยู่...
โปรดติดตามตอนต่อไป
ขอบคุณที่มาภาพประกอบ: IMDb, The Arbuturian, theiapolis.com, tumblr.com, alamy.com, nytimes.com, variety.com, thecoast.ca, chinesedrama.info

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา