3 ธ.ค. 2019 เวลา 01:55 • ประวัติศาสตร์
พวกเราที่อยู่ในช่วงอายุ 40, 50 , 60 และ70ปี
เป็นรุ่นที่ได้รับพรวิเศษ
ชีวิตของเราเป็นเสมือนข้อพิสูจน์ที่มีชีวิต
เราไม่เคยถูกปฏิบัติเหมือนฝูงสัตว์
ที่ต้องแบกกระเป๋าใส่หนังสือมากมายไปโรงเรียน
ตอนเราเล่นและขี่จักรยาน เราไม่เคยต้องวุ่นวาย
สวมหมวกกันน็อคหรือต้องล็อคจักรยาน
พอโรงเรียนเลิก
เราก็เล่นต่อได้จนมืดค่ำและดูทีวีน้อยมาก
เราเล่นเฉพาะกับเพื่อนที่มีตัวตนจริงๆ
ไม่ใช่เพื่อนในโลกโซเชียล
ยามที่เรากระหายน้ำ
เราก็ดื่มน้ำจากก๊อกน้ำประปา
และไม่เคยต้องซื้อน้ำดื่มบรรจุขวด
แม้ว่าจะดื่มน้ำผลไม้คั้นร่วมกับสหายอีกสี่คน
เราก็ไม่เห็นจะป่วยไข้อะไร
เราไม่เคยน้ำหนักตัวขึ้นมากมาย
แม้จะกินข้าวจานใหญ่ตามด้วยขนมจุบจิบทุกวัน
แม้จะวิ่งเล่นที่โน่นที่นี่เยอะแยะโดยไม่สวมรองเท้า
เราไม่เคยมีปัญหาอะไรกับเท้าเลย
เราไม่เคยต้องหาซื้อยาบำรุงใดๆ มากินเพื่อให้เรามีสุขภาพดี
เราทำของเล่นเองและเล่นกับมันอย่างสนุกสนาน
พ่อแม่ของเราไม่ได้ร่ำรวย
พวกท่านไม่เคยต้องกระเสือกสนหาเงินทองเพื่อให้ร่ำรวย
ท่านมอบความรักให้แก่เรา และไม่ได้ให้สิ่งของทางโลกต่างๆ มากมาย
เราไม่เคยต้องแชร์อารมณ์ของเรา
ผ่านอีโมติคอนในโทรศัพท์มือถือ
เรารับฟังความจริงและความรู้สึกผิดชอบชั่วดี
เราเขียนสิ่งเหล่านั้นในจดหมาย ดังนั้นคำเหล่านั้น
ไม่เคยต้องถูกแก้ไขหรือลบออกไปในภายหลัง
เราไม่เคยใช้โทรศัพท์มือถือ เครื่องเล่นดีวีดี
เพลย์สเตชั่น เอ็กซ์บ๊อกซ์ วิดีโอเกม
เครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล อินเตอร์เน็ต
หรือแม้กระทั่งห้องสนทนาในโซเชียลมีเดีย
แต่เราก็มีเพื่อนที่มีตัวตนจริงๆ มากมาย
เราไปเยี่ยมบ้านเพื่อน
ได้โดยไม่ต้องโทรศัพท์ไปบอกก่อน และกินอาหารร่วมกับเขา
เราไม่เห็นจะต้องโทรศัพท์ไปขออนุญาตก่อนไปหาเลย
บ้านญาติของเราก็อยู่ใกล้ๆ กัน
ทำให้เรารู้สึกดีมีความสุขและอบอุ่นใจ ดังนั้น
เราเลยไม่เคยต้องทำประกันภัยอะไร
ภาพถ่ายของเราเป็นขาว-ดำ
และเราก็รู้สึกได้ถึงความทรงจำดีๆ
ในรูปแบบสีสันสดใสในภายถ่ายเหล่านั้น
สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด....
พวกเราเป็นกลุ่มคนที่ไม่มีใครเหมือน
และเป็นรุ่นอายุที่มีความเข้าอกเข้าใจคนมากที่สุด
เพราะเราเป็นกลุ่มคนรุ่นสุดท้าย..
ที่ฟังคำสั่งสอนของพ่อแม่
และยังเป็นกลุ่มคนรุ่นแรกที่ต้องฟังลูกๆ ของเรา
พวกเราไม่ได้เป็นรุ่นพิเศษ แต่เป็น “รุ่นลิมิเต็ด อิดิชั่น”!!
.ที่มา Siam Modern Art
โฆษณา