3 ธ.ค. 2019 เวลา 15:15 • การศึกษา
คุณรู้หรือไม่...
มนุษย์เราตัดสินคนอื่นจากความประทับใจแรกภายในเวลา 4 นาที
1
กล่าวคือเมื่อเรามีโอกาสได้ทำความรู้จักเพื่อนใหม่หรือลูกค้าเป็นครั้งแรก เราจะต้องสร้างภาพลักษณ์ของเราให้เสร็จภายใน 4 นาที
1
ความประทับใจแรก(First Impression) เป็นสิ่งที่นำมาเป็นพื้นฐานในการตัดสินตัวบุคคลนั้นๆ เราจึงจำเป็นที่จะต้องสร้างความรู้สึกประทับใจกับอีกฝ่ายตั้งแต่แรกพบ และมันคือสิ่งที่จะเป็นตัวชี้ความสำเร็จหรือความล้มเหลวในการสร้างความสัมพันธ์
แล้วอะไรคือตัวสร้าง First Impression กันละ?
.
รูปร่างหน้าตาที่ดีหรือเปล่า หรือการแต่งตัวที่ดูภูมิฐาน สะอาดสะอ้าน ดูแล้วเป็นคนดูแลตัวเอง
.
ถูกต้องครับ...แต่ไม่ใช่ทั้งหมด
• จากการวิจัยพบว่า ความรู้สึกประทับใจแรกนั้นจะสัมพันธ์โดยตรงกับบุคลิกภาพ ท่าทาง การวางตัว อิริยาบถที่เป็นธรรมชาติ และอารมณ์ร่วมในการสนทนา นี่คือภาพลักษณ์โดยร่วมที่ส่งผลโดยตรงต่อความรู้สึกของอีกฝ่าย และมันสำคัญเสียยิ่งกว่าเนื้อหาในการสนทนาเสียอีก
ดังนั้น...เรามาเรียนรู้วิธีการสร้าง First Impression กันดีกว่า😁
1. บุคลิกภาพ : ดังที่กล่าวไว้ข้างต้น ความรู้สึกชอบหรือไม่ชอบนั้นจะขึ้นอยู่กับว่าคุณดูแลบุคลิกภาพของตัวเองดีแค่ไหน การพัฒนาบุคลิกภาพมีบทบาทสำคัญในการสร้างมนุษยสัมพันธ์อย่างมาก หากคุณเป็นคนที่ติดนิสัยการยืน/เดิน/นั่ง หลังค่อม ไหล่ห่อ ก้มหน้าก้มตา สายตามีความกังวลตลอดเวลา รู้สึกเกร็งทุกครั้งที่มีคนเข้ามาทักทาย นั่นคงไม่เป็นผลดีกับคุณแน่ๆ เพราะนอกจากคุณจะดูไม่สง่าผ่าเผยแล้ว คุณยังดูเก็บตัวและไม่น่าคบเอามากๆ ดังนั้น การที่คุณเริ่มเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมเล็กๆน้อยๆจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยม อย่างเช่น คุณเริ่มดูแลตัวเอง หมั่นออกกำลังกาย รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ดูแลผิวหน้าและผิวกาย เมื่อคุณเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงเล็กๆเหล่านี้วันละน้อย ความรักตัวเองจะมากขึ้น ความมั่นใจจะตามมา คุณจะเริ่มระมัดระวังท่าทางอากัปกิริยา/อิริยาบถต่างๆของคุณ รวมไปถึงความเนี๊ยบ สะอาดหมดจด ภูมิฐาน และอย่าลืมการสร้างความจริงใจไมตรีจิตกับผู้อื่นด้วย
2. การวางตัว : เมื่อคุณผ่านข้อแรกมาได้อย่างสวยสดงดงาม อันดับต่อมาคือการวางตัวให้เหมาะสมกาลเทศะ และเหมาะสมกับระดับความสัมพันธ์ การที่คุณมีความมั่นใจในตัวเอง นั่นไม่ได้หมายความว่าคุณจะวางท่า แตะเนื้อต้องตัวหรือพูดจาอะไรกับใครก็ได้ หลายคนมักจะแสดงออกในทางโอ้อวด วางท่ามากจนเกินไป นั่นจะทำให้คุณถูกหมั่นไส้เอาได้ง่ายๆ เพราะฉะนั้น คุณควรจะวางอิริยาบถอย่างเป็นธรรมชาติและให้เกียรติผู้อื่นเสมอจะดีที่สุด
3. การสนทนา : คนส่วนมากมักจะพูดเรื่องของตัวเองมากจนเกินไปโดยไม่ถามไถ่ถึงอีกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องชีวิตส่วนตัวไปจนถึงการโอ้อวดในรูปแบบต่างๆ จำไว้เสมอว่า “ให้เขารู้จักเราเท่าที่เราอยากให้เขารู้จักอย่างใจจริง” เพราะเป้าหมายของเราคือการสร้างความประทับใจ ไม่ใช่กาพร่ำบอกว่าอีกฝ่ายว่าเรามีอะไร การเริ่มบทสนทนาเพื่อเริ่มเปิดใจซึ่งกันและกันคงไม่ใช่เรื่องดวงดาว จักรวาล ดาราศาสตร์หรือวิชาการ แต่มันช่างง่ายดายกว่าด้วยการทักทายที่เรียบง่าย ให้เกียรติ ยิ้มแย้มและจริงใจ จากนั้นก็ค่อยๆเริ่มบทสนทนา และการที่คุณจะประสบความสำเร็จได้นั้น คุณควรจะเรียนรู้ที่จะปรับเปลี่ยนอารมณ์และบทสนทนาตามสถานการณ์เพราะมิเช่นนั้นคุณอาจกลายเป็นคนขวางหูขวางตาของอีกฝ่ายได้
4. คีย์เวิร์ดสุดท้าย “จงรับฟังอย่างตั้งใจ” : โดยธรรมชาติของมนุษย์มักต้องการเป็นที่สนใจและยอมรับจากผู้อื่นเสมอ และหนึ่งในวิธีการที่คุณจะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกดีคือการรับฟังอย่างตั้งใจ โดยการมีการต่อตอบในเชิงสนับสนุนให้อีกฝ่ายพูดต่ออย่างเช่น
• การทวนหรือเน้นคำพูดสำคัญของอีกฝ่าย
• คอยกระตุ้นการสนทนาให้ไหลลื่นโดยการถามเพื่อต่อบทสนทนา
• เสริมความคิดเห็นตัวเองลงไปในบทสนทนาเล็กน้อย
• ชื่นชมอีกฝ่ายให้พลังด้านบวกเติบโต
• อารมณ์ร่วมในการสนทนา ถูกสื่อออกมาผ่านสายตาที่คุณมองอีกฝ่าย ระวังสายตาของคุณให้ดี อย่าจับจ้องใบหน้าหรือส่วนอื่นๆบนร่างกายของอีกฝ่ายนานจนเกินไป แต่จงใช้สายตาเข้าไปอยู่ในเรื่องราวที่เขากำลังเล่าให้คุณฟังอย่างตั้งใจ
1
มีคนมากมายยอมทุ่มเทเวลาและเงินหลายล้าน เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดูดี ไม่ว่าจะเป็นการทำศัลยกรรม การซื้อของหรูหรา แบรนด์เนมต่างๆเพื่อตอบสนองความพึงพอใจในภาพลักษณ์และพยายามสร้างความประทับใจให้กับผู้อื่น
.
แต่ทว่า...สิ่งเหล่านั้นเป็นเพียงแค่เงื่อนไขภายนอกที่ผู้คนจะจดจำและคุ้นชินอย่างรวดเร็ว นั่นหมายความว่าความรู้สึกประทับใจจะลดหายไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นในทางการทำงาน การสร้างความสัมพันธ์กับเพื่อนใหม่ หรือแม้แต่การจีบกันตามประสาหนุ่มสาว ใบหน้าที่ฉาบฉวยหล่อสวยนับได้ว่าเป็น “หน้ากาก” แต่เมื่อเวลาผ่านไป “ใบหน้าที่แท้จริง” ย่อมเผยเนื้อแท้ออกมา หากคุณไม่มีความจริงใจไมตรีจิตกับอีกฝ่ายโดยแท้จริง คุณอาจไม่ได้รับการยอมรับหรือไว้เนื้อเชื่อใจอีกต่อไป และนั่นจะทำให้คุณเสียโอกาสมหาศาล
ในทางตรงกันข้าม ถึงแม้ว่าบางคน แรกเห็นอาจจะเฉยๆ ไม่ได้รู้สึกน่าสนใจมากนัก แต่พอรู้จักกันไปนานๆเข้า กลับรู้สึกเป็นคนที่น่าคบ น่าสนใจ และรู้สึกผูกพันได้อย่างไม่น่าเชื่อ คุณควรเลิกคิดในทำนองว่า ฉันหน้าตาไม่ดี ฉันพูดไม่เก่ง ฉันขี้อาย เข้ากับคนอื่นไม่ได้ และคงไม่มีใครชื่นชอบฉัน นั่นเป็นทัศนคติที่ควรเอาออกไปจากชีวิตของคุณเสียให้สิ้น เพราะหากคุณยังรักษาทัศนคติแบบนี้เอาไว้ ใบหน้าที่แท้จริงของคุณจะยิ่งไม่น่าสนใจ ดังนั้นนับจากนี้ สิ่งที่คุณต้องทำคือพัฒนาใบหน้าที่แท้จริงของคุณเสีย เพราะใบหน้าที่แท้จริงของคุณคือเนื้อแท้ และสำคัญยิ่งกว่า First Impression.
.
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านจนจบ และหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกท่าน
• คิดต่าง | พูดต่าง #thinktang •
โฆษณา