4 ธ.ค. 2019 เวลา 02:15 • ปรัชญา
"Design a Happy Lifestyle"
ความสุขสามารถหาได้ง่ายโดยตัวเราเองเป็นคนออกแบบเอง และสร้างสไตร์ชีวิตได้อย่างอิสระ สำหรับการใช้ขีวิตที่มีความสุขได้บนโลกของความวุ่นวายละเต็มไปด้วยเทคโนโลยีเพื่อให้การใช้ชีวิตเปลี่ยนไปในเชิงบวก
*สำรวจและทำความเข้าใจตัวเอง*
คนเราล้วนมีความแตกต่าง ไปตามนิสัย ความเป็นอยู่ และความคิด การเรียนรู้และรับรู้เรื่องต่างๆได้ที่ไม่เหมือนกัน เพราะงั้นการที่จะเริ่มต้นอะไรหลายๆอย่างรวมถึงการที่จะสร้างความสุขนั้นก็ต้องเริ่มจากการเข้าใจในตัวเองในมาก เพื่อให้รู้ถึงความชอบ นิสัย บุคลิกของตัวเอง ความต้องการ ความฝัน ที่แท้จริงของตัวเอง เพื่อที่จะสามารถยอมรับและกล้าที่จะเปลี่ยนตัวเองในด้านที่จะเป็นผลเสียต่อการใช้ชีวิตของเรา เพราะมากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ ของความทุกข์นั้นเกิดขึ้นจากตัวเราเอง
*แบ่งเวลาให้กับตัวเองและคนรอบข้างให้สมดุล*
ในการใช้ชีวิตไม่ว่าคุณจะอยู่ในสถานะไหน วัยไหนก็มีเวลาเท่ากันที่ 24 ซม. เหมือนกันอยู่ที่ใครจะใช้เวลาให้คุ้มที่สุด โดยในการใช้ชีวิตควรจะจัดตรางชีวิตตัวเองให้สมดุลและสามารถยืดยุ่นได้ตลอดเวลา เช่น ถึงแม้จะต้องทำงานหนักขนาดไหน ก็ควรหาเวลาให้ครอบครัวบ้าง เช่น การไปเที่ยวพักผ่อนกับครอบครัวในวันที่หยุด หรือ การได้กินข้าวเย็นพร้อมหน้าพร้อมตากันในตอนเย็น แต่อย่าลืมเสียว่าคุณต้องมีเวลาให้กับตัวเองด้วยอาจเป็น แค่การนั่งจิบกาแฟพร้อมกับอ่านหนังสือเล่มโปรดในตอนเช้า หรือ การได้สนุกกับงานอดิเรกของตัวเองบ้างก็จำเป็น
กล้าที่จะปฏิเสธ
การที่มีคนมาขอให้ช่วยเหลือถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะเป็นการแสดงถึงว่าเราเป็นคนที่เขาสามารถพึ่งพาได้ แต่ในครั้งที่คุณไม่ได้เต็มใจจะทำตามคำขอนั้นจริงๆหรือสิ่งที่ถูกขอมันเกินความสามารถที่จำทำให้กล่าวปฏิเสธไปอย่างนุ่มนวลๆ แล้วเดินจากไป เพราะว่าทั้งการเข้าไปช่วยเหรือผู้ที่ถูกช่วยเหลือเมื่อมันเกิดขึ้นด้วยความไม่เต็มใจ ไม่มีฝ่ายไหนที่จะมีความสุขอยู่แล้ว อีกทั้งการกล่าวปฏิเสธก็ยังเป็นการช่วยให้คุณรู้สึกดีกับการพูดความจริงมากกว่าคำโกหกที่อึดอัด
*ตัดสินใจเอง*
ความลังเลที่จะตัดสินใจลงมือทำอะไรหรือการที่ต้องมีคนมาคอยตรวจสอบการตัดสินใจนั้น เป็นสิ่งที่จะทำให้เราขาดความมั่นใจที่จะทำอะไร หรือไม่กล้าที่จะลงมือทำอะไรเสียที การที่กล้าจะตัดสินใจอะไรเองโดยที่ตัวเองเป็นคนเลือกถึงแม้ว่ามันอาจไม่ได้ถูกต้องหรือดีที่สุดเสมอไปมันก็จะทำให้เรามีความสุขกับการกระทำหลังจากการตัดสินใจของเราเองมากกว่า การที่มัวแต่ลังเลจนไม่ได้ลงมือทำ โดยที่ไม่รู้ว่าถ้าทำไปแล้วมันจะไม่ดีอย่างที่คิดหรือเปล่า
*วิ่งออกจากกรอบไปหาสิ่งใหม่ๆ*
การออกไปหาสิ่งใหม่ๆไม่ได้เป็นสิ่งที่ทำได้ยากแต่อย่างใด เป็นแค่เรื่องง่ายๆที่จะช่วยให้คุณได้รู้สิ่งต่างๆมากขึ้นหรือได้รับรู้เพียงแค่คุณลองก้าวขาออกจากกรอบที่คุณสร้างเพื่อกั้นตัวเองไว้ ไม่ว่าจะเป็นการออกไปเที่ยวในที่ไม่เคยไป การไปเดินป่า ปีนเขา ทำกิจกรรมอาสา หรือ อย่างเรื่องง่ายๆอย่างการเต้นอยู่ในห้องและร้องเพลงไปพลาง ที่ล้วนแต่เป็นสิ่งที่ไม่เคยคิดที่จะทำมาก่อน คุณจะได้รับรู้ถึงการปลดปล่อยความรู้สึกในอีกด้านของคุณ ทำให้ชีวิตได้เจอกับความสุขใหม่ๆและรู้สึกสนุกไปกับสิ่งใหม่ๆเหล่านี้อีกทั้งอาจเป็นการค้นเจอเป้าหมายใหม่ๆให้กับชีวิตอีกด้วย
*เลี่ยงการสูญเสียพลังงานไปกับเรื่องไร้สาระ*
การเอาตัวเองไปยุ่งหรือสิ่งที่มีแต่ผลเสียหรือมีผลกับการสร้างเครียดเพิ่มให้กับตัวเองก็ควรรู้จักที่จะหลีกเลี่ยงแต่ที่สุดเพื่อไม่เป็นการลดความสุขโดยไม่จำเป็น เช่น การไปมีส่วนร่วมในสังคมที่ไม่จำเป็น อย่างการล้อมวงกันเพื่อชุบชิปนินทา หรือแม้แต่การไปยุ่งเรื่องของคนอื่น
*หัดชิลและปล่อยวางเสียบ้าง*
ในการใช้ชีวิตในแต่ล่ะวันเป็นเรื่องปกติที่เราต้องเจอกันเรื่องเครียดบ้าง ไม่ได้ดั่งใจบ้าง ฉะนั้นเราต้องพึงคิดไว้เสมอว่าทุกอย่างมันไม่ได้เรียบง่ายเสมอไป เช่น การที่คุณจอดรถขณะรอไฟจราจรแล้วมีรถคันหนึ่งวิ่งมาชนท้าย แต่ทั้งคุณทั้งเขาไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร ในกรณีนี้ถ้าคุณสามารถคิดได้ว่านี้มันแค่อุบัติเหตุ คุณก็ไม่ต้องซีเรียส ทำตัวชิลๆ และเดินไปบอกกับคนขับรถที่มาชนเลยว่า “คุณไม่เป็นอะไรนะครับ” แล้วค่อยเจรจาโดยทั้งสองผ่านแฮปปี้ แทนที่คุณจะต้องโมโห เกรี้ยวกราด อยู่ฝ่ายเดียวใส่เขาทั้งๆที่มันแค่อุบัติเหตุจริงๆมีแต่จะทำให้เรื่องมันบานปลายและใหญ่โตแทนที่จะเป็นเพียงแค่เรื่องเล็กๆ เพราะความสุขจากการอภัยและปล่อยวางมันสุขมากกว่าการที่คุณต้องหาแต่ความถูกต้องและให้เขาต้องรับผิดชอบซึ่งทำให้ไม่มีฝ่ายไหนเลยที่ได้ความสุขทั้งที่คุณเป็นคนถูกก็ตาม
 
"หัดที่จะชิลและปล่อยวางเสียบ้าง ชีวิตที่มีแต่ความถูกต้องและเคร่งครัดมันไม่ได้สุขเลยแต่อย่างใด"
ยังไม่จบนะครับติดตามต่อ EP : 2
โฆษณา