แดนนี่...โลกียชนผู้มีจิตใจกว้างขวาง
สองเดือนก่อนได้อ่านวรรณกรรมคลาสสิคเล่มหนึ่ง รู้สึกชอบมาก
ชื่อหนังสือคือ Tortilla Flat เขียนโดยจอร์น ไสตน์เบ็ค
ชื่อไทย โลกียชน ฉบับแปลโดย คุณประมูล อุณหธูป
ต่อไปนี้มีสปอยล์เล็กน้อย
เป็นเรื่องราวของชายกลุ่มหนึ่งเป็นเพื่อนกัน
แต่ละคนเป็นพวกไร้บ้าน!
สำมะเลเทเมา ไม่เอาอ่าว
คุณธรรมตํ่าต้อย แต่จริงๆแล้วก็ยังพอมีอยู่บ้างลึกๆ ซึ่งแสดงออกมาให้เห็นในบางครั้ง(แม้ว่าจะแสดงออกมาในรูปแปลกๆ จนบางทีต้องกุมขมับ)
พวกเขาไม่แคร์ใคร ขอแค่เพียงหาเศษเงินได้เพียงเล็กน้อย
เพื่อมาซื้อไวน์กิน!
เงินที่เหลือค่อยเอามาซื้ออาหาร
ใช้ชีวิตเพื่อผ่านไปวันๆ
พวกเขาไม่สนว่าวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร
พวกเขามีความสุขอยู่กับปัจจุบัน
เป็นอิสระจากความอยากได้อยากมีสิ่งใดๆ (นอกจากไวน์)
มีตัวละครตัวหนึ่งชื่อแดนนี่
ผมรู้สึกประทับใจแดนนี่เป็นพิเศษ แม้จะไม่ใช่ตัวหลักที่เป็นตัวดำเนินเรื่อง
แต่เป็นตัวละครสำคัญที่สุดที่ทำให้ตัวละครตัวอื่นๆมารวมตัวกัน
แดนนี่กลับจากการไปช่วยงานในกองทัพหลังสงครามกับเยอรมันสิ้นสุด
เขาและเพื่อนๆอาสาไปเข้าร่วมกองทัพด้วยตัวเองเพราะว่าเมา!
เพื่อนเขาอีกสองคนได้ไปอยู่เหล่าทหารราบ ส่วนแดนนี่ได้ไปเลี้ยงม้าแทนเพราะเคยเลี้ยงม้ามาก่อน
หลังจากสงครามสิ้นสุดเขาก็ได้กลับมายังบ้านเกิด และพบว่าเขาได้มรดกจากปู่ที่พึ่งเสียไปเป็นบ้านสองหลัง
แดนนี่รู้สึกหนักอกหนักใจอยู่เล็กๆ ที่อยู่ๆเขาก็มีสมบัติพัสถานขึ้นมา
เน่ื่องจากโดยปกติเขาจะสำมะเลเทเมาร่อนเร่ คํ่าไหนนอนนั่นเสียมากกว่า
แดนนี่อาศัยอยู่ในบ้านหลังหนึ่ง ส่วนอีกหลังให้เพื่อนของเขาเช่าอาศัย (ซึ่งเขาแทบไม่เคยได้ค่าเช่าจากเพื่อนของเขาเลย)
แต่ด้วยนํ้าใจอันกว้างขวางเขาไม่เคยตำหนิเพื่อนของเขาเลย
แล้ววันหนึ่งเพื่อนของเขาทำไฟใหม้บ้าน(ที่เช่า)วอดวายไปทั้้งหลัง!
รุ่งเช้าวันหลังจากไฟใหม้บ้านจนเหลือแต่เถ้าถ่าน แดนนี่ออกมานั่งกระดิกเท้ารับบรรยากาศแจ่มใสบนเก้าอี้หน้าบ้านของตัวเองอยู่ชั่วครู่หนึ่ง แล้วโทสะจริตต่อเพื่อนของเขาก็คลายออก
เขากลับคิดว่าถ้ายังมีบ้านให้เช่าอยู่ มันก็จะเป็นเครื่องรบกวนจิตใจเขาให้คอยโลภค่าเช่าอยู่นั่นเอง
ให้มันพินาศไปเสียก็ดี!
คิดได้ดังนั้นความมีนํ้าจิตนํ้าใจกว้างขวางของเขาก็กลับมา
เขาชวนเพื่อนๆ ของเขามาอยู่ด้วยกันเสียที่บ้านของเขาเอง
โดยที่ไม่คิดค่าเช่า
จะมีใครสักกี่คนในโลกนี้ที่จะคิดได้อย่างแดนนี่
มีคนทำไฟไหม้บ้านตัวเอง กลับบอกว่าดี จะได้ไม่ต้องห่วงเรื่องเก็บค่าเช่าบ้านให้ใจเศร้าหมอง
เรื่องของแดนนี่ยังทำให้ผมนึกไปถึงพระเวสสันดร ซึ่งถูกขับออกจากเมืองต้องพลัดพรากจากสมบัติที่เคยมี
แต่พระองค์ก็ไม่เดือดเนื้อร้อนใจ
กลับเห็นว่าดี ว่าตนจะได้บำเพ็ญศีลได้อย่างเต็มที่
ของบางอย่างเมื่อมันเสียไปแล้ว มันก็คือเสียไปแล้ว หากมัวแต่ไปยึดว่าเราเคยมี มัวเศร้าเสียใจ ชีวิตเราก็คงไม่อาจเดินต่อไปได้
หรือดำเนินไปด้วยความเศร้าหมอง
โลกนี้เป็นอนิจจัง ไม่เที่ยง!
เป็นโลกที่เราจะต้องพลัดพรากจากของรักของชอบใจอยู่เสมอ
เราควรเข้าใจและยอมรับความเป็นจริงในข้อนี้ แล้วก้าวเดินต่อไป
ทุกๆเรื่องร้ายที่เกิดขึ้น มักมีสิ่งดีๆซ่อนอยู่เสมอ
อยู่ที่เราจะมองเห็นมันหรือไม่
แดนนี่ยังมองว่าการที่ไฟไหม้บ้านของเขา ทำให้เขาไม่ต้องมาคอยกังวลเรื่องว่าจะต้องเก็บค่าเช่าบ้านจากเพื่อนรักของเขา
พระเวสสันดรมองว่าการที่ถูกขับไล่ออกจากเมืองจะได้มีเวลาบำเพ็ญเพียร
ทุกอย่างอยู่ที่มุมมองต่อปัญหาที่เกิดขึ้น
จงมองหาสิ่งดีๆท่ามกลางความเลวร้ายเหล่านั้นให้เจอ
แล้วคุณจะรู้สึกเป็นอิสระ
เพราะไม่ว่าจะเกิดเรื่องเลวร้ายอะไรขึ้น
คุณจะรับมือกับมันได้อย่างมีความสุขเสมอ
แม้ว่าไฟจะใหม้บ้านคุณก็ตาม
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
