7 ธ.ค. 2019 เวลา 08:50 • ธุรกิจ
#คำพ่อสอนในวันพ่อ เมื่อโลกเปลี่ยนแปลง คำพ่อสอนก็เปลี่ยนไป
สมัยผมเป็นเด็กเริ่มจำความได้เมื่อเกือบ 40 ปีก่อน ผมเป็นเด็กนักเรียนประจำในโรงเรียนของชาวคริสต์ พ่อสอนให้ตั้งใจเรียน อยากให้รับราชการ เป็นทหาร/ตำรวจ/นายอำเภอ เป็นเจ้าคนนายคน ตัวผมก็ตั้งใจเรียนให้สมใจพ่อ เรียนได้ที่ 1 ของห้อง ติดต่อกันกว่า 10 ปี ตั้งแต่ อนุบาล - ม.6 ในโรงเรียนชั้นนำ 2 แห่งในจังหวัดลพบุรี (โรงเรียนคาทอลิก ตามด้วยโรงเรียนติดศาลพระกาฬ หลักสูตรพิเศษ สพพ. เรียน ม.4 - ม.6 ใน 2 ปี)
!@!$& #WTF */@$%
# โลกของผมเริ่มเปลี่ยนแปลงไปเมื่อเรียนจบ ม.6 DNA เรียนเก่งสอบเก่งของผมมันได้หายออกไป สอบเอ็นทรานซ์ไม่ติด เพราะไม่รู้ว่าเอ็นทรานซ์เค้าสอบโดยใช้ความรู้ตั้งแต่ ม.4 - ม.6 ผมต้องรอเอ็นทรานซ์ใหม่อีก 1 ปี โดยในระหว่างนั้นก็เข้ามาเรียนพิเศษอยู่ในกรุงเทพฯ
# เมื่อได้เข้ามหาวิทยาลัยทางด้านเทคโนโลยีระดับประเทศที่โคราช DNA เรียนเก่งสอบเก่งของผมก็ยังไม่กลับคืนมาหนำซ้ำยังอันตรธานหายไปอีก โลกกว้างขึ้นต้องใช้ความรู้ที่หลากหลาย และต้องใช้ทักษะ Soft skills ด้านอื่นที่จำเป็นสำหรับการทำงานจริง เรียนหนังสือเก่ง สอบเก่งยังไม่พอ ต้องทำงานกลุ่ม ทำโปรเจ็ค รู้คนเดียวเก่งคนเดียวไปไม่รอด รวมๆ แล้วได้ F ฝูงบินมาเกือบ 10 ตัว ต้องใช้เวลาเรียนเกือบ 5 ปีกว่าจะจบ ทั้งที่หลักสูตรปกติเค้าเรียนกันแค่ 4 ปี
# กราฟชีวิตเริ่มกลับมาดีขึ้น เมื่อเรียนจบ แล้วได้งานทำในบริษัทที่ผมได้มีโอกาสไปฝึกงาน ที่นี่เองที่ผมได้มีโอกาสได้แสดงความสามารถ ผมเริ่มรู้แล้วว่าในชีวิตการเรียนมหาวิทยาลัย เราเรียนรู้นับสิบนับร้อยวิชา ปริญญาตรีสาขาวิศวกรรมที่ผมเรียน เรียนไปทั้งสิ้นเกือบ 200 หน่วยกิต เฉพาะค่าหน่วยกิตอย่างเดียวก็เกือบ 100,000 บาท เมื่อ 20 กว่าปีก่อนเป็นจำนวนเงินที่สูงมากทีเดียว แต่ในการทำงานจริง เพียงแค่เรารู้ลึกรู้จริงในด้านใดด้านเดียว เราก็สามารถมีชีวิตการทำงานที่เจริญก้าวหน้าได้
# ในเวลา 14 ปี ของการทำงาน 3 บริษัท จากพนักงานชั้นต้นเปลี่ยนไปเป็นผู้บริหารบริษัทนานาชาติ การเป็นผู้บริหารเป็นหัวหน้าคน ทำให้เราได้รู้และตอกย้ำว่าในยุคที่เงินเป็นสิ่งสำคัญ Hard skills อย่างเดียวนั้นไม่พอ ต้องมีแรงผลักดันจาก Soft skills หรือ Mindset ที่ดีด้วย
คนเรียนเก่ง....ไม่จำเป็นต้องทำงานเก่ง
และคนทำงานเก่ง...ไม่จำเป็นต้องหาเงินเก่ง
คนจบจากสถาบันมีชื่อเสียง...ไม่ได้หมายความว่าจะทำงานได้ดีกว่าคนที่จบในสถาบันที่มีชื่อเสียงน้อยกว่า
คนจบตรงสาขา...ไม่ได้หมายความว่าจะได้ผลลัพธ์การทำงานที่ดีกว่าคนที่จบในสาขาใกล้เคียงหรือสาขารองลงมา หรือแม้กระทั่งคนที่ไม่ได้เรียนในสาขานั้นเลย
# จากผู้บริหารสู่ผู้นำครอบครัว ครอบครัวคือตัวกระตุ้นการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดของชีวิต ครอบครัวทำให้ผมได้รู้ว่า การมีเวลาและใช้เวลาที่มีคุณภาพกับครอบครัวคือความสุขที่แท้จริง ทำให้ผมได้รู้ว่าเงินในปริมาณที่เหมาะสมนั้นสำคัญกับการมีคุณภาพชีวิตที่ดี ทำให้ผมได้รู้ว่าการไปส่งลูกที่โรงเรียนนั้นมีความหมายต่อชีวิตและมีความสุขมากกว่าการเดินทางไปทำงานพร้อมการท่องเที่ยวในต่างประเทศ
# จากผู้นำครอบครัวสู่ผู้นำทาง ทุกวันนี้ลูกของผม 2 คนเรียนในหลักสูตรที่เน้นภาษาอังกฤษ ซึ่งถือเป็น Soft skills ทั้ง 2 คนเรียนเก่งในระดับต้นๆ ของห้อง โดยที่ไม่ได้เรียนพิเศษวิชาการ และยังเรียนกีฬาอย่างจริงจังสัปดาห์ละเกือบ 20 ชั่วโมง ความคาดหวังสำหรับอนาคตของเค้า ไม่ได้คาดหวังว่าเค้าจะต้องจบแล้วทำงานบริษัทหรือต้องมีธุรกิจของตัวเองอะไรอย่างชัดเจน คนนึงอยากเป็นศิลปินนักวาดภาพ ส่วนอีกคนอยากเป็นนักกีฬาฟุตบอล
# สิ่งที่ต้องการสอนเค้าในปัจจุบันหรืออนาคตอันใกล้นี้คือ เค้าต้องรู้จักการหารายได้โดยสุจริต โดยเริ่มต้นตั้งแต่ในวัยเรียน เมื่อเริ่มเร็ว เค้าจะได้เรียนรู้ จะได้เห็นช่องทางวิธีการ เค้าจะมีประสบการณ์ สามารถนำไปคิดไปต่อยอดได้ในอนาคต การออมก็ส่วนหนึ่งแต่การหารายได้เป็นอีกทักษะที่ต้องพัฒนาแต่เนิ่นๆ เมื่อมีโอกาส
# คำที่ผมสอนลูกในวันนี้ แตกต่างจาก คำที่พ่อสอนผมในวัยเด็ก เพราะโลกและสังคมเปลี่ยนแปลงไป ไม่มีอะไรถูกผิดขึ้นกับยุคสมัย คนที่ปรับตัวไม่ทันก็จะกลายเป็นคนกลุ่มหลัง #คนปรับตัวทันก็จะได้กลายเป็นคนกลุ่มหน้า และสิ่งที่น่ากลัวกว่าคนที่ปรับตัวช้า คือ #คนที่รู้แล้วว่าต้องปรับตัวแต่ยังปล่อยให้เวลาผ่านไป
ป.ล. ภาพนี้ถ่ายเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ในรีสอร์ทแห่งหนึ่งในจังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นหนึ่งในภาพส่วนตัวลำดับแรกๆ ที่ผมชอบ ลูกชายคนเล็กกำลังพิจารณากราฟฟอเร็กซ์ !@!$& #WTF */@$% มีใครพอจะทราบชื่อสถานที่คอมเม้นท์กันได้ครับ
#GiveAndTake by #ForexTradeReview
โฆษณา