7 ธ.ค. 2019 เวลา 13:53 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
ถ้าคุณคิดจะเปลี่ยนโลก ให้เริ่มต้นด้วยการเก็บที่นอน
แอบหายไปนานเลยเพราะมัวขี้เกียจอยู่ครับ 555+
มีคำพูดนึงของของพลเรือเอก William H McRaven กล่าวว่า
"If you wanna change the world,
start off by making your bed"
หรือ
"ถ้าคุณคิดจะเปลี่ยนโลก
ให้เริ่มต้นด้วยการเก็บที่นอน"
แล้วมันเกี่ยวยังงัยกันวะ ???
ผมคิดว่าหลายๆคนต้องคิดแบบนี้
มีงานวิจัยหลายงาน
ที่ทำการศึกษาว่าการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
จะมีผลต่อชีวิตด้านอื่นๆอย่างไร
ผลก็คือถ้าเราออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
(แม้จะแค่ 1 ครั้ง/สัปดาห์ก็ตาม)
เราจะเริ่มกินอาหารที่มีประโยชน์
ตั้งใจทำงาน
สูบบุหรี่น้อยลง
อดทนกับเรื่องต่างๆมากขึ้น
รู้จักประหยัดเงิน
และไม่ค่อยเครียด
ฟังดูเหมือนการออกกำลังกายจะช่วยให้เราสร้างนิสัยดีๆได้มากขึ้น
(แต่ผมไม่ได้บอกว่าสร้างนิสัยดีๆได้ทุกคนและสร้างได้หมดทุกนิสัยนะครับ)
ถามว่าทำไมการออกกำลังกายถึงได้เป็นจุดเริ่มต้นของนิสัยดีหลายๆนิสัย
หรือนิสัยดีๆทั้งหลายมันมาจากอะไรกันแน่
ออกกำลังกายช่วยอะไรเราได้มากกว่าที่คิด
คำตอบคือเรื่อง willpower ครับ
willpower ถ้าให้ผมนิยามสั้นๆ
มันคือพลังใจครับ
(เดี๋ยวเอาไว้ผมจะมาพูดเรื่อง willpower อีกทีครับ)
3
โดย willpower จะมีอยู่อย่างจำกัดในแต่ละวัน
และสามารถใช้หมดไปได้เหมือนพลังกายเรานั่นแหละ
แต่ก็สามารถฟื้นฟูได้จากการพักผ่อนเช่นกัน
willpower แทบจะเหมือนแรงกายทุกประการ
คือมันมีติดตัวในแต่ละคนไม่เท่ากัน
แต่สามารถฝึกฝนให้เพิ่มมากขึ้นได้
แล้ว willpower มันเอาไว้ใช้ทำอะไรกันล่ะ ???
willpower มันเอาทำกิจกรรมต่างๆในแต่ละวันครับ
กิจกรรมหรืองานไหนที่ใช้แรงเสียดทานเยอะๆ
ก็จะต้องใช้ willpower เยอะตามไปด้วย
ถ้าเราใช้ willpower จนหมดหรือเกือบหมด
จะทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า decision fatigue หรือการตัดสินใจล้า
มันจะทำให้เราตัดสินใจไม่คมและตัดสินใจทำอะไรไร้สาระลงไปได้เสมอ
เวลาเราทำงานมาทั้งวันจน willpower เราหมดแล้ว
(บางคนก็หมดไปจากการไถ FB ในที่ทำงานแทน)
มันทำให้หลายๆครั้งตอนเย็นๆเราเริ่มขี้เกียจไปวิ่งแล้ว
ซ้ำร้ายกว่านั้น
เราอาจจะไปนั่งกินหมูกระทะแทนด้วย
ทั้งๆที่เราก็รู้ว่าการวิ่งมันดีและการกินหมูกระทะมันแย่เอามากๆ
หรือก่อนนอนเรานั่งไถ FB เป็นชั่วโมงๆ
ทั้งๆที่รู้ว่าเราควรนอนได้แล้ว
นั่นเพราะ decision fatigue จาก willpower ที่มันหมดครับ
ทำให้เราตัดสินใจทำอะไรที่ไม่ดีหรือหักห้ามใจตัวเองไม่ได้
ยิ่งตัดสินใจเยอะ การตัดสินใจยิ่งแย่ลงครับ
แต่ถ้าเราฝึกให้มี willpower เยอะๆ
ไม่จำเป็นต้องออกกำลังกายก็ได้ครับ
จะเป็นการนั่งสมาธิ
การทำ intermittent fasting
การจัดที่นอนตอนเช้า
รวมถึงการไม่ทำบางอย่าง เช่น
การไม่หยิบมือถือมาเล่นตอนขับรถ
การไม่ซื้อ iphone 11
การไม่ตีกระบี่
ฯลฯ
หรืออะไรก็ตามที่ทำให้เราต้องใช้แรงเสียดทานในการต้านการกระทำนั้นๆ
นั่นจะทำให้ willpower เราเพิ่มขึ้น
เช่นจาก willpower 100 ไปเป็น 120
นอกจากนั้นยังทำให้สิ่งที่เราทำบ่อยๆ
ใช้ willpower น้อยลงไปเรื่อยๆอีกด้วย
อย่างเช่นการออกไปวิ่งในตอนแรกอาจจะใช้ willpower 20
วิ่งไปสักพักอาจจะใช้ willpower เหลือแค่ 10 ก็ได้
มันจึงทำให้เราเหลือ willpower ไปทำอย่างอื่นมากขึ้น
เราจึงสามารถสร้างนิสัยดีๆได้อีกมากมายจาก willpower ที่เหลืออยู่
นั่นก็เป็นอีกเหตุนึงที่เราควรส่งเสริมให้ลูกเรียนเปียโนหรือเล่นกีฬาตั้งแต่ยังเด็ก
ไม่ใช่เพราะเราคาดหวังให้เค้าเป็นโชแปงหรือเจสซี่ ลินการ์ดคนต่อไป
แต่เด็กๆที่ซ้อมได้เปียโน 1 ชั่วโมง
หรือเตะบอลได้ 45 นาที
มักจะเติบโตเป็นเด็กที่ขยันทำการบ้านและประสบความสำเร็จมากกว่า
เพราะพวกเค้ามี willpower มากกว่า
บางทีการจะเปลี่ยนตัวเองให้ดีขึ้น
อาจจะไม่ต้องเริ่มอะไรให้ยิ่งใหญ่ก็ได้
เริ่มจากแค่ small win ทีละเล็กทีละน้อยนี่แหละครับ
บางครั้งการต้านแรงเสียดทานเยอะๆ
หรือการหักห้ามใจตัวเองนี่แหละ
จะทำให้เรามุ่งไปข้างหน้าได้ดีกว่า
เหมือนที่เค้าบอกว่า
"not only doing the right thing,
we need to stop doing the wrong thing"
เราแค่รู้ว่าเราควรอ่านหุ้นยังไม่พอ
เราต้องรู้ว่าเราควรเลิกเล่นมือถือตอนนั่งอ่านหุ้นไปด้วยครับ
โฆษณา