9 ธ.ค. 2019 เวลา 12:19 • บันเทิง
10...
กลิ่นหอมกลางธารเลือด...ตอนที่ ๑๐
ชอลิ้วเฮียงเดินออกมาจากอารามจีวรดำอย่างหมดหวัง แต่แล้วก็นึกทบทวน...มอไซค์วินแม่งช่างมารอได้เหมาะเจาะ เข้าวัดปุ๊บเจอปั๊บ...แล้วก็อีกหลายอย่างที่ชวนสงสัย...
หมุนตัวกลับเข้าอารามจีวรดำอีกรอบ ถามหาแม่ชีมาดอนน่า...คำตอบคือไม่เคยมีแม่ชีชื่อนี้อยู่...
ถามว่านี่คืออารามจีวรดำใช่มั้ย...คำตอบคือ ไม่ใช่...อารามจีวรดำต้องไปทางตะวันตกอีกสิบลี้...
เอาแล้วไง...การสืบหาชิวเล้งซู่ มันต้องมีใครซักคนคอยชักใบให้เรือเสีย เพื่อไม่ต้องการให้ชอลิ้วเฮียงพบชิวเล้งซู่...แต่สำหรับคนอย่างชอลิ้วเฮียง ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ...ชอลิ้วเฮียงมุ่งตะวันตกสู่อารามจีวรดำทันที...
ไปถึงสถานที่ๆแน่ใจว่าคืออารามจีวรดำ...ก็ไปเจอแม่ชีคนนึง...คราวที่แล้วเจอแม่ชีเล่นประโยคเซ็นเข้าไป ก็แทบจะคุยกันไม่รู้เรื่องไปทีแล้ว...คราวนี้มาเจอแม่ชีเอ๋อ พูดไปหัวเราะไป...
ก็พยายามถามหาแม่ชีมาดอนน่า จนชีเอ๋อยอมพาเข้าไปในอาคารแห่งนึง...”นั่นไง แม่ชีอยู่นั่น”
ชอลิ้วเฮียงมองตามทางที่นิ้วชีเอ๋อชี้บอก...ก็เห็นร่างๆนึง แขวนโตงเตงอยู่กับขื่อ...ชอลิ้วเฮียงเดินเข้าไปใกล้ ก็เห็นว่านั่นคือร่างตายซาก คงตายมานานจนเริ่มเหลือแต่โครงกระดูกแล้ว...
แม่ชีมาดอนน่าก็ตายแล้วเหรอเนี่ย...ชอลิ้วเฮียงมายืนตะลึงอยู่ไม่ห่างจากซากศพเท่าไหร่
ทันใดนั้น โครงกระดูกก็โถมเข้าหาชอลิ้วเฮียง...พร้อมกระบี่พุ่งทะลุชายโครงออกมา
ระยะมันใกล้เหลือเกิน จะหลบหลีกยังไงก็ไม่ทันซะแล้ว เห็นชัดว่าลำตัวชอลิ้วเฮียงต้องถูกเสียบแน่นอน...แต่พระเอกก็ยังมีไม้เด็ดเอาชีวิตรอด
...ไล่ลมปราณออกอย่างรวดเร็ว ยุบทรวงอกและช่องท้องจนแบนราบ...ปลายคมกระบี่กรีดจนเสื้อขาด แต่ไม่กระทบผิว...ยังไม่พอ
ประกายสีดำเล็กละเอียดพุ่งผ่านซากโครงกระดูกมาอีกชุด...ถ้าให้เห็นภาพ ก็เหมือนผู้รักษาประตูโดนจ่อยิง แถมกองหลังตัวเองบังซะอีก...แล้วจะรอดมั้ยเนี่ย...
รอดสิฮะ พระเอกซะอย่าง...ทรวงอกช่องท้องก็ยุบไปแล้วยุบอีกไม่ได้แล้ว คราวนี้ก็เลยยืมท่าจากหนังแมททริกซ์มาใช้...หงายหลังขนานพื้นหลบรอดอาวุธลับไปได้หวุดหวิด...
ชอลิ้วเฮียงทันเห็นคนร้ายในชุดดำโดดทะลุหลังคาออกไป...จากการเคลื่อนไหว แน่ใจได้ว่ามันคือคนๆเดียวกับที่ฆ่าซ่งกัง แล้วถูกไล่ตามไปทันที่ริมทะเลสาป...
...แต่คราวนี้กว่าชอลิ้วเฮียงจะตามขึ้นหลังคาไป...คนชุดดำก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย...
โดดกลับเข้ามาในอาคาร จะไปสอบถามแม่ชีเอ๋อ...อ้าว แม่ชีนี่ก็โคตรซวย...อาวุธลับที่ชอลิ้วเฮียงหลบพ้น ดันเลยมาถูกแม่ชีเอ๋อเต็มเปา...นอนชักแหง็กๆอยู่บนพื้น
“ท่านรู้มั้ยว่าคนร้ายเป็นใคร”...ชอลิ้วเฮียงถามแข่งกับความตาย
“บ้อ...บ้อ”นางชีเอ๋อพยายามจะบอกอะไรบางอย่าง...บ้อภาษาจีนแปลว่าไม่มี...
“ท่านไม่มีอะไรจะพูดแล้วเหรอ”...จบประโยค ลมหายใจสุดท้ายของชีเอ๋อก็ขาดห้วง...
ระหว่างเดินทางกลับ ชอลิ้วเฮียงก็ได้เจอกับคนที่สะดุดตาคนนึง...เป็นชายหนุ่มแต่งชุดคลุมสีดำ ชุดข้างในสีแดง ขี่ม้าชั้นดีเลิศสีดำปลอด ถ้าเทียบสมัยนี้ก็คือขี่บิ๊กไบค์...
แต่อีนี่ขี่บิ๊กไบค์แบบเด็กแว้น คือไม่เกรงใจใคร หวดแส้ไล่คนมาตลอดทาง...
พอกลับมาถึงบ่อนสมใจนึก...อ้าว ไอ้ม้าดำมาจอดอยู่หน้าบ่อนนี่เอง...ชอลิ้วเฮียงก็รีบเดินเข้าไปเงียบๆ ไม่ให้มีใครสังเกต...
ภายในบ่อนที่เคยคึกคัก ตอนนี้เงียบกริบทุกคนยืนตัวลีบกันหมด...แนชิวฮุ้นเองก็กำลังหน้าเคร่งเครียด
“ถึงท่านจะขอพนัน แต่ถ้าไม่แจ้งชื่อ ทางบ่อนเรารับไม่ได้”...นี่คือเสียงของแนชิวฮุ้น...
“แล้วถ้าใช้สิ่งนี้พนันล่ะ”...บุรุษชุดดำโยนวัตถุชิ้นนึงลงบนโต๊ะ...มันคือหยกเนื้องาม งามสุดๆจนแม้แต่ชอลิ้วเฮียงก็ไม่เคยเห็นมาก่อน...แน่นอน มูลค่าย่อมสูงจนประเมินมิได้...
...แนชิวฮุ้นตาวาว...”แล้วท่านจะพนันอะไร พนันอย่างไร”...
“ไฮโล...เพียงตาเดียว ถ้าข้าแพ้หยกชิ้นนี้เป็นของท่าน แต่ถ้าท่านแพ้...ต้องติดตามข้าไป”...ถึงชายชุดดำจะไม่ยอมบอกว่าให้ตามไปไหน...แต่เค้าพนันขนาดนี้ สุดที่แนชิวฮุ้นจะปฏิเสธลง...
ข้อตกลงคือพนันแต้มน้อย ใครน้อยสุดชนะ...ลองมาดูว่าโคตรของโคตรเซียนพนัน เค้าออกอาวุธกันยังไงมั่ง...
ลูกเต๋าหกลูกถูกโยนใส่ชามกระเบื้องเคลือบ...แนชิวฮุ้นคว่ำชามลงกับที่รอง เขย่าสามกริ๊ก กระดิกหูฟังแล้วก็ยิ้มแป้น...”แล้วท่านจะรู้สึก”...แน๊ มีขู่ก่อนด้วย...
เปิดฝาออกมา...โคตรโม้เลยอ้ะ ลูกเต๋าทั้งหกออกหน้าหนึ่งทั้งหมด...หกแต้มไม่มีใครทำได้ต่ำกว่านี้อีกแล้ว
...ลูกน้องในบ่อนพากันโห่ร้องตบมือกระทืบตีน เมื่อเจ้านายแสดงฝีมือเขย่าออกแต้มต่ำสุด...ชายชุดดำทำได้อย่างมากก็เสมอ ไม่มีทางชนะได้...
ปล.
รักกัน
ชอบกัน
ไลค์กัน
เม้นกัน
เรื่อยๆนะครับ
โฆษณา