9 ธ.ค. 2019 เวลา 16:57 • บันเทิง
แง๊ หายไปหนึ่งวัน คือตารางปั่นป่วนมาก ตลกค่ะ ชีพจรติดเท้าสุดอะไรสุด
ครั้งที่แล้วก็เล่าเรื่องอินเดียตอนเหนือไป นั่นคือโรงเรียนแรกค่ะช่วงอายุ 10-12 พอหลังจากนั้นแนนก็ย้ายมาตอนใต้แทน เพราะว่าการเดินทางไปเมืองดาร์จีลิ่งในช่วงนั้นยังไม่สะดวกสบายเท่าทุกวันนี้ค่ะ
.
เมื่อก่อนนั้น 3 พี่น้องเวลาเดินทางไปเรียนหนังสือ ก็เดินทางเองแบบไม่มีผู้ใหญ่ โตสุดก็คงจะเป็นพี่สาวคนโตที่ตอนนั้นเรียนอยู่ grade 9 อายุ 16 โข่งไปนิด เพราะปีแรกที่ไปโดนลดชั้น เนื่องจากยังพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ เดี๋ยวจะเรียนไม่รู้เรื่อง
.
เราจะต้องเดินทางจากดอนเมืองไป Kolkata แล้วจาก Kolkata ไป Bagdogra แต่ช่วงเปลี่ยนเครื่อง Kolkata-Bagdogra มันมีเวลาทรานสิต 12 ชม. ในสนามบินเล็กๆ เราก็ต้องไปเอากระเป๋าจากสายสะพาน แล้วออกมานอนในพื้นที่สนามบิน เพราะยังเช็คอินเข้าไปในเกทไม่ได้
.
12 ชม.นั้นเราก็สลับเวรกันหลับ เพราะมีแต่เด็กกะกระเป๋าใบเบ้อเร่อตั้งหลายใบ ไหนจะพาสปอร์ต เงิน และตั๋วเครื่องบินที่ป๊าให้ติดตัวมาไว้ใช้จ่าย เลยต้องมีคนนึงตื่นมานั่งเฝ้ากระเป๋า 5555 แล้วตอนนั้นโทรศัพท์มือถือก็ไม่มี ก็ได้แต่นั่งๆนอนๆงีบๆฟังเพลงจาก mp3 วนไปวนมาเพราะเพลงก็ไม่ได้มีเยอะ
.
หลังจากลงเครื่องจาก Bagdogra ก็ต้องต่อรถจี๊บขึ้นเขาไปดาร์จีลิ่งอีกประมาณ 6 ชม. เด็กๆอย่างเราก็ต้องต่อราคารถ คันไหนแพงก็ไม่ไป!
.
โอ้ววว กว่าจะไปถึงเหนื่อยมากๆค่ะ ปีที่สองที่เราเรียน ป๊าเลยตัดสินใจว่า ลงมาเรียนทางตอนใต้ดีกว่า เดินทางสะดวกกว่าเยอะ ศิวิไลกว่าด้วย มีทั้งน้ำ ไฟ ห้าง จึงเป็นจุดเปลี่ยนให้ลงมาเรียนต่อที่เมือง Bangalore ค่ะ
.
Bangalore ก็เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงเหมือนกันนะคะ เพราะเป็นเมืองใหญ่ที่ค่อนข้างทันสมัย มีสิ่งอำนวยความสะดวก ต่างกันราวฟ้ากับเหวกับดาร์จีลิ่งเลยค่ะ ดาร์จีลิ่งนี่เหมือนเป็นเด็กดอยมากๆค่ะ ไฟเข้าไม่ถึง น้ำนี่อาบอาทิตย์ละ 2 ครั้ง เพราะถ้าทุกวันมันจะไม่พอทั้งหอค่ะ 55555 อย่าถามเรื่องกลิ่นนะคะ ... เพราะไม่มี!!! งงละซี่ อาบอาทิตย์ละ 2 ครั้งจะไม่มีกลิ่นได้ไง?
.
ก็เพราะว่าดาร์จีลิ่งหนาวตลอดปีค่ะ เหงื่อไม่ค่อยออก ทุกเช้าก่อนไปเรียนเราก็ได้แค่ล้างเท้า ล้างหน้าแปรงฟัน ส่วนแนนก็ทาโรลออนทุกวัน 😂😂😂 แต่ไม่เหม็นจริงๆน้าาา
.
แต่จุดพีคคือ เราอะคิดว่าเราไม่เหม็น เพราะจมูกเราชินแล้ว เรากินนอนกะพวกเค้าทุกวันเป็นปีๆ แต่พอกลับไทย แม้จะซักเสื้อผ้าทุกอย่างก่อนกลับ แต่พอเปิดกระเป๋ามา แม่บอก โอ้โหห กลิ่น!!!! เอาไปซักใหม่เลย 🤢🤢🤢 แนนก็สงสัย กลิ่นอะไรอะแม่? แม่บอกกลิ่นแขกไง กลิ่นแบบมัสสาล่าอะ!!
.
ฮืออออ จมูกหนูไปซะแล้วซินะ หนูไม่ได้กลิ่นเลยแม่!!!! แม่บอก แนนก็ด้วย กลิ่นแขก~ 555 คงจะกินเครื่องเทศเค้าเยอะละซิ กลิ่นเลยติดมาด้วย
.
จะร้องงงงงง 😫😫😫 ไม่รู้ว่ากลิ่นติดนานไหม และหายไปเมื่อไหร่เหมือนกันค่ะ 🤣🤣🤣 แต่ทุกวันนี้สาบานได้! หนูตัวไม่เหม็นเด้ออออ 🤣🤣🤣🤣
.
แต่แขกก็ไม่ได้เหม็นทุกคนน้าาา 😅😅 บางคนรักษาความสะอาดดี๊ดี จริงๆค่า ก็คละๆไปละเนาะ บางคนชอบอาบน้ำ บางคนไม่ชอบอาบ ก็คลุกเคล้ากันไปค่ะ 🤣🤣
2
อ่าา พอลงมาตอนใต้ชีวิตก็เริ่มกลับมาเป็น city girl 555 เดินทางห้างในวันหยุดที่ได้ออกมาในเมือง เดือนละครั้ง เล่นเกม กินอาหารอร่อยๆ
และโรงเรียนที่ย้ายมาใหม่ก็เป็นโรงเรียนอินเตอร์ ตอนอยู่เหนือเรียนรัฐบาล แต่ตอนอยู่เหนือโรงเรียนนับถือคริสต์ค่ะ เลยเข้าโบสถ์ร้องเพลงฟังหลวงพ่อทุกวัน
.
พอย้ายลงมาตอนใต้ โรงเรียนอินเตอร์ก็จริง แต่นับถือฮินดูค่ะ กิจกรรมแน่นมาก โรงเรียนใหญ่มว๊ากกก มว๊ากกกแบบ วันแรกที่เข้าโรงเรียนคิดในใจ .... จะหลงมั้ยว้าาา แล้วถ้าหาคลาดกับเพื่อน จะหาเพื่อนจากตรงไหนดีคือมันใหญ่มากกกกจริงๆๆๆ
ขออนุญาติโพสต์รูปจากกูเกิ้ลนะคะ อันนี้เป็นทางเข้าค่ะ ตึกที่เห็นคือตึกเรียนค่ะ
ส่วนนี่คือสนามบอลค่ะ ตึกข้างหลังคือ auditorium เป็นโถงกิจกรรมค่ะ งานเต้น หรือห้องดูหนัง ช่วงเทศกาลบอล โรงเรียนก็เปิดบอลให้ดูค่ะ 5555 ก็เชียร์บอลกันสนุกสนาน ถ้าไม่มีบอลดูก็เปิดหนังกันดูค่ะ บางอาทิตย์ก็เอาหนังผีไทยมาเปิดค่ะ เลือกที่มีซับอังกฤษ ชอบกันทุกคนค่ะ บอกหนังผีไทยน่ากลัวมาก 5555 ส่วนเด็กไทยก็ฟินนน ได้ดูหนังแบบไม่ต้องคอยอ่านซับ 5555
ตรงนี้คือสนาม cricket ค่ะ ใหญ่มากกก และก็เอาไว้จัดงานใหญ่ๆประจำปีด้วยค่ะ เช่นวันกีฬาสีก็จะเปิดตัวจากสนามนี้ และโรงเรียนเรามีชื่อเสียงว่ารูปปั้นกะเนชชาศักดิ์สิทธิ์ ขออะไรก็ได้ดั่งใจ เด็กไทยเลยชอบมาบนกะรูปปั้นค่ะ ส่วนมากก็บนแล้วบอกว่าถ้าสำเร็จจะมาวิ่งรอบสนามนร่ 8-10 รอบอะไรก็ว่าไป โอ้โห ตอนแก้บนวิ่งหอบเลยยยค่ะ ต้องทยอยผ่อน เพราะสนามใหญ่จริงอะไรจริงค่ะ 555
สระว่ายน้ำค่ะ
นอกจากรูปที่เห็นแล้ว ที่โรงเรียนมีสนามม้า สนามเทนนิส สนามแบตมินตัน สนามวอลเล่ย์ คือใหญ่มากจริงๆค่ะ แต่หารูปทั้งหมดไม่เจอ
ชีวิตที่นี่ก็เหมือนเดิมค่ะ เป็นเด็กหอ แต่กิจวัตรจะแตกต่างกะตอนเหนือหน่อย เอ๊ะะ แนนเคยเล่าหรือยังคะว่ากิจวัตรของเด็กหอที่ดาร์จีลิ่งเป็นยังไง? สงสัยจะลืมเล่าค่ะ แหะๆ งั้นวันนี้เล่ากิจวัตรตอนอยู่ดาร์จีลิ่งก่อนแล้วกันเนาะ ไว้รอบหน้ามาเขียนเรื่องโรงเรียนใหม่ให้ฟังค่ะ
ชีวิตเด็กหออินเดียส่วนมากจะเน้นเรียนค่ะ ที่โรงเรียนไม่อนุญาติให้พกโทรศัพท์มือถือ เครื่องเล่นเกมส์ทุกชนิด แล๊บท๊อปก็ไม่ได้ค่ะ ได้แค่ walkman, mp3 😅
และโรงเรียนจะจัดสอบเก็บคะแนนทุกวันเสาร์ เวลาส่สนมากเลยหมดไปกับการเรียนและอ่านหนังสือค่ะ เพราะสอบถี่มากๆ แทบจะไม่มีเวลาหายใจเลย
ในส่วนของชั้น Junior (Junior คือ ป.1-ป.5 ค่ะ) ส่วน Senior เวลาจะต่างกันนิดหน่อยค่ะ
.
5.10 : ตื่น ล้างหน้าแปรงฟัน ลิมิตคนละ 1 ขันเท่านั้น 🤣🤣🤣🤣 ก็วั๊กน้ำแปะๆหน้าไปค่ะ ใช้เยอะเดี๋ยวมีไม่พอบ้วนปาก
5:30 : ลงไปเข้าแถว เตรียมเข้าโรงอาหาร เรียงลำดับชั้นไปค่ะ ลงไปโรงอาหารแล้วก็สวดมนต์ก่อนทานข้าว
5.30-6.45 : กินข้าวเช้า มีไข่คน ขนมปัง เนย แยม ชานม
6:45-7.30 : homeroom อ่ายหนังสือ ทำการบ้านที่ค้างไว้ โดยมีคนคุมแต่ละห้องโดย พี่ป.5 (โตสุดในจูเนียร์) เรียกว่า monitor ซึ่งตัวแทนที่ได้เป็นจะโดนเลือกโดยผอ.โรงเรียน วัดจากความประพฤติและผลการเรียน (แนนได้เป็นด้วยน้าา ^^)
7.45 : เข้าแถว เตรียมเข้าโบสถ์
8.30-10.30 : เรียนช่วงเช้า
10.30-10.45 : พักน้อยเช้า
10.45-12.30 : เรียนช่วงเที่ยง
12.30-13.15 : พักเที่ยง ทานอาหารเที่ยงพร้อมกัน
13.30-14.30 : เรียนช่วงบ่าย
15.00 : พักกินชา (จริงจังนะ แบบ Tea time เลยค่ะ บังคับเด็กทุกชั้นต้องกิน ต้องมารวมตัวกัน)
15.15-16.00 : กลับหอ เปลี่ยนเป็นชุดกีฬา
16.00-17.00 : ออกกำลังกาย แนนเป็นนักกีฬาว่ายน้ำและแบต ก็จะแบ่งวันซ้อมค่ะ สลับว่ายน้ำกับแบต ส่วนพี่สาวแนนเป็นนักบาส
17.00-17.30 : อยู่ในหอ ห้ามเข้าห้ามออกค่ะ อาบน้ำแต่งตัวเตรียมไปอ่สนหนังสือและกินข้าวเย็น
17.30-18.15 : homeroom อ่านหนังสือ เคลียร์การบ้านที่ยังทำไม่เสร็จเหมือนตอนเช้าเลยค่ะ บางวันก็ปล่อยเร็วกว่าเวลา 5-10 นาทีค่ะ ดีใจมากกกก
18.30-19.00 : กินข้าวเย็น
19.00-20.00 : free time ค่ะ ลั้ลลาในหอ นั่งคุยกะเพื่อน บ้างก็อ่านหนังสือสอบ ฟังเพลง กินขนม แล้วแต่อัธยาศัยค่ะ
20.00 : ปิดไฟหอ เงียบสงัด ชู่วววว์ ทุกคนต้องนอนค่ะ มีป้าผู้ช่วยคุมหอ คอยส่งเสียง ชู่วววว์เมื่อได้ยินใครไม่นอน มัวแต่คุยกะเพื่อนอยู่
ปล. ก่อนนอนทุกคืน ประมาณทุ่มครึ่งของทุกๆวัน จะรวมตัวหอประถม กับหออนุบาล อ่าน bible ก่อนนอน และร้องเพลงถึงพระเจ้ากันค่ะ อบอุ่นมากๆ
ปล2. ทุกวันเสาร์เป็นวัน movie day จะพาเด็กหอไปดูหนังใน chapel hall หรือโบสถ์ค่ะ แต่ทุกวันเสาร์จะมี projector มาฉายหนังดูค่ะ นอนดึกสุดก็ 22.30 ค่ะ 😅😅😅
นี่ก็คือทั้งหมดของกิจวัตรที่ทำประจำวันค่า ^^ เป็นยังไงบ้างคะ ^^ อยากรู้กิจวัตรเด็กหอที่ไทยจังค่ะ ทำอะไรกันบ้างเอ่ย^^
เดี๋ยวว่างๆมาเขียนต่อเรื่องโรงเรียนใหม่ ณ บังกะลอนะคะ ^^ ขอบคุณที่ติดตามนะคะ 😘😘 คืนนี้ฝันดีค่า
โฆษณา