10 ธ.ค. 2019 เวลา 04:32 • ธุรกิจ
วิธีขายของ Online ในยุคต่อไป
ประเทศไทยพัฒนาขึ้นตามความก้าวหน้าของเทคโนโลยี ตั้งแต่ยุค 1G ในอดีต จนถึง ยุค 4G ในปัจจุบัน และ 5G ที่กำลังจะมาถึงใน อนาคต อันใกล้ การพัฒนาดังกล่าวได้เปลี่ยนแปลงรูปแบบชีวิตและพฤติกรรมของผู้คนไปอย่างมากมาย
วงการหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงอย่างมากนั้นก็คือ วงการค้าขาย แต่ก่อนเวลาที่คนจะซื้ออะไรก็แล้วแต่ ก็จะไปที่ร้าน ใกล้ๆบ้าน และซื้อสินค้านั้นกลับบ้าน หรือเราเรียกรูปแบบการซื้อขายแบบนี้ว่า offline
แต่เมื่อการสื่อสารรวดเร็วขึ้น โครงสร้างพื้นฐานหลายๆอย่างได้รับการพัฒนา อย่างเช่น การชำระเงินผ่านระบบ ออนไลน์ หรือ internet banking ที่ทุกคนสามารถโอนเงินหากันโดยใช้โทรศัพท์มือถือแค่เครื่องเดียว รวมไปถึงระบบการการขนส่ง ที่เดี๋ยวนี้รวดเร็วถึงขั้นสั่งสินค้าเช้า ได้รับของตอนเย็นในวันเดียวกัน(ในบางพื้นที่)
ยุค 1
คนเริ่มหันมาซื้อสินค้าแบบออนไลน์กันมากขึ้น เพราะทั้งสะดวก และก็มีราคาถูกกว่า การซื้อแบบ offline คนที่หันมาขาย Online ก่อนคนอื่น สามารถทำเงินได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ โดยวิธีการขายในยุคนี้ก็คือการขายโดยทำให้ชื่อสินค้านั้นติดอันดับการค้นหาของ search engine อย่าง google หรือที่เรียกกันว่าการทำ SEO ใครที่สามารถทำให้ชื่อติดอันดับหนึ่งการค้นหาในชื่อสินค้านั้นๆได้ก็จะรวยแบบตั้งเนื้อตั้งตัวไม่ท
ยุค 2
เมื่อการทำให้ชื่อสินค้าติดอันดับ google ทำได้ยากขึ้น คนก็เริ่มหันมาขายสินค้าผ่าน social medie อย่างเช่น Facebook โดยวิธีการโพสตามกลุ่มต่างๆ หรือ ขายใน facebook ส่วนตัว
ซึ่งสินค้าส่วนใหญ่ จะมาจากจีน โดยผู้ขายอาจจะใช้วิธีไปซื้อเข้ามาด้วยตัวเอง หรือ สั่งซื้อโดยผ่านผู้ให้บริการ ซึ่งก็ได้รับความนิยมอย่างมากเพราะสินค้าจีนมีราคาถูกเมื่อเทียบกับสินค้าประเภทเดียวกันที่อยู่ในเมืองไทย
และเริ่มมี platform การขายสินค้าที่ได้รับความนิยมในเมืองไทย อย่าง shoppee และ Lazada ผู้ประกอบการ online หลายคนก็เริ่มเอาไปขายบนช่องทางนี้
สินค้าต่างๆที่ขายอยู่ในเมืองไทย ถึง 70% ผลิตและนำเข้ามาจากประเทศจีน
ยุค 3
เมื่อการโพสขายเริ่มได้รับความนิยมน้อยลง ก็เข้าสู่ยุคของการ Live สดขายสินค้า โดยผู้ขายนิยมสร้างแรงจูงใจในการแชร์โดยการแจกเงิน ซื้อสินค้าราคาถูก เพื่อให้ผู้ชมแชร์ Live ของตัวเองไปยังกลุ่มต่างๆ เพื่อเพิ่มจำนวนผู้รับชม
ยุค 4 (ยุคนี้)
ต่อไปคนที่ซื้อสินค้าจากจีนเข้ามาขายจะเจอกับปัญหาในเรื่องของการขายตัดราคา และคู่แข่งที่ขายสินค้าประเภทเดียวกันเป็นจำนวนมาก เพราะ ตอนนี้ยักษ์ใหญ่อย่าง alibaba หรือ เจ้าอื่น อย่าง CJdropship ใช้วิธีการ มาสร้างโกดังสินค้าในเมืองไทยโดยเฉพาะในโซน เศรษฐกิจพิเศษ EEC ทำให้การจัดส่งสินค้าไปยังผู้ซื้อรวดเร็วมากจากแต่ก่อนหากเราจะซื้อสินค้าจากจีนโดยตรงอาจจะใช้เวลา 10-20 วัน เลยทีเดียว แต่ถ้าสินค้าอยู่ในโกดังที่ไทยก็อาจใช้เวลาในการจัดส่งเพียงแค่วันเดียว เหมือนกับคนที่ไปซื้อสินค้าจากจีนเข้ามาขาย
1
และอีกเรื่องก็คือ โกดังสินค้าเหล่านี้จะทำการตลาดแบบ Dropship นั้นก็คือ ใครก็ได้เอารูปและข้อมูลไป โพสขาย หรือเอาไปสร้างร้านใน Shoppee ,Lazada และเมื่อมี คำสั่งซื้อก็ค่อยไปกดสั่งสินค้าให้ไปส่งในระบบของ Dropship เจ้านั้น
ซึ่งต่อไปการโพสขายสินค้าในกลุ่มต่างๆ การ Live สด ขายสินค้าจะเยอะมาก กลายเป็น red ocean หรือน่านน้ำการแข่งขันแบบสีแดงไปเลย
ยุค 5(อนาคต)
ต่อไปการทำการตลาดแบบ Inbound Marketing จะได้รับความนิยมนั้นก็คือการที่ผู้ขาย หรือ แบรนด์ จะต้องมอบคุณค่าให้ลูกค้าก่อน เมื่อเขาเชื่อใจและเชื่อมั่นว่าเรา มีความรู้ในเรื่องนั้นจริงๆ จึงจะกลายมาเป็นลูกค้าของเราในภายหลัง ยกตัวอย่างเช่น เราขายอาหารเสริม เราก็อาจจะต้องสร้างเว็ปที่เขียนบทความเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพอย่างต่อเนื่อง จนลูกค้าเชื่อมั่นแล้วเราจึงแนะนำสินค้าหรือ บริการของเราให้ลูกค้านั้นเอง และเมื่อลูกค้าซื้อสินค้าไปแล้ว เราก็ยังต้องดูแล อย่างต่อเนื่องเพื่อให้ลูกค้านั้นบอกต่อสินค้าหรือบริการของเรา
1
ซึ่งการทำการตลาดแบบ Inbound Marketing นั้นอาจจะต้องใชระยะเวลานานกล่า Outbound Marketing (การโพสขาย การLive สด) แต่ว่าผลลัพธ์ที่ได้นั้นยั่งยืนกว่า และป้องกันการเข้ามาของคู่แข่งได้ดีกว่าอย่างแน่นอน
เขียนโดย
ครูตั้ม ออนไลน์
รูปภาพจาก
1
โฆษณา