ว่าด้วยเรื่อง "หมัดตัดตับ"
ในบรรดาหมัดตัดลำตัวทั้งหมด "หมัดตัดชายโครงขวาหรือหมัดตัดตับ" ดูจะเป็นหมัดที่ส่งผลเสียหายต่อคู่ต่อสู้มากที่สุด เนื่องจาก "ตับ" ถือเป็นอวัยวะขนาดใหญ่ที่มีความสำคัญ เมื่อถูกโจมตีโดยตรง ผู้ที่ถูกโจมตีจึงรู้สึกเหมือนสูญเสียพละกำลังไปอย่างมหาศาล ความเจ็บปวดจะเกิดขึ้นทันทีทันใด คุณจะหายใจไม่ทัน ซึ่งจะส่งผลให้ร่างกายคุณหยุดทำงานเสียดื้อๆ ถึงแม้ว่าสมองจะสั่งให้คุณสู้ต่อก็ตาม ผลกระทบที่เกิดจากการโดนต่อยตับนี้แตกต่างจากการโดนหมัดที่ศีรษะ
หากคุณโดนหมัดเข้าที่ศีรษะ ในตอนแรกคุณจะไม่เจ็บปวดหรอก ยิ่งคุณโดยหมัดประเภทที่ว่า เข้าจุดสลบนั้น คุณจะลงไปนอนเห็นดาวก่อนที่สมองจะทันประมวลผลเรื่องความเจ็บปวดเสียอีก
เมื่อหมัดตัดตับเป็นหมัดที่ส่งผลเสียหายต่อคู่ชกมากที่สุด ในบรรดาหมัดตัดลำตัว เราจึงเห็นบรรดานักมวยระดับโลกหลายคน มีความนิยมชมชอบในการโจมตี พื้นที่บริเวณชายโครงด้านขวาของคู่ชกด้วยหมัดฮุคซ้าย ซึ่งจุดประสงค์คือเพื่อตัดกำลัง สร้างความเจ็บปวด และทำลายระบบหายใจของคู่ชก สืบเนื่องมาจากเมื่อตับถูกชกแรงๆ จะส่งผลกระทบไปยังเส้นประสาท vargus ซึ่งจะสั่งให้ร่างกายตกอยู่ในภาวะหยุดทำงาน
ดังนั้นการต่อยชายโครงขวาอย่างมีคุณภาพเพียงแค่ครั้งเดียวอาจส่งผลให้การต่อสู้จบลงหรือไม่เช่นนั้น ความเจ็บปวดก็จะเป็นตัวบังคับให้คู่ชกอยากจบการต่อสู้นั้นเสียเอง หนึ่งในไฟต์แห่งความทรงจำนั่นคือ ไฟต์ที่เบอนาร์ด ฮอปกิ้น น็อค ออสก้า เดอ ลาโฮย่า ด้วยหมัดตัดตับนั่นเอง ทั้งๆที่เดอ ลาโฮย่า ถือเป็นยอดมวยที่ต่อยตัดชายโครงขวาของคู่ชกได้ดีคนหนึ่ง
ทั้งนี้จุดประสงค์โดยแท้จริงของหมัดตัดชายโครงขวานั้นมีอยู่ 2 ประการ นั่นคือ
1.เป็นหมัดที่หวังผลเด็ดขาดถึงน็อคอย่างที่บอกไปแล้วว่า หมัดตัดตับเป็นหมัดที่ส่งผลต่อคู่ชกมากที่สุดในบรรดาหมัดตัดลำตัว นักมวยหลายคนที่ตกเป็นรองจึงเป็นฝ่ายพลิกกลับมาชนะอย่างคาดไม่ถึงด้วยหมัดตัดตับนี้เอง ดังที่เราเห็นในหลายๆไฟต์
2.เป็นตัวเปิดการ์ดคู่ชก ไมค์ ไทสัน ชำนาญมากในเรื่องนี้ หลายคนคงทราบดีว่า ไทสันมีพลังกำปั้นที่หนักหน่วงทั้งซ้ายและขวา แต่เมื่อเจอคู่ชกที่ตั้งการ์ดสูงป้องกันใบหน้าอย่างแน่นหนา ไทสันจะใช้ฮุคซ้ายตัดชายโครงขวา เพื่อให้คู่ชกลดการ์ดลง ก่อนจะตวัดฮุคซ้ายอันหนักหน่วงขึ้นข้างบน และผลก็คือ.......อย่างที่ทุกท่านทราบกันดี
รวิสุต แปลและเรียบเรียง อย่าลืมกดติดตามเพื่อจะได้รับข่าวสารดีๆกันด้บยนะครับ
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
